ต้องบอกก่อนว่าเมนู ‘ซุปลูกหมา’ ไม่ได้มีหน้าตาแบบในภาพ แต่ในภาพคือการหยิบเอาเมนูนี้มาตีความใหม่โดย นุ-อนุวัฒน์ วัดม่วง ผู้เข้าแข่งขันจากรายการ MasterChef Thailand Season 5 ทำเอาเรา (และคุณผู้ชมหลายๆ คน) ถึงกับต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า ‘ซุปลูกหมา’ ต้นฉบับนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร
ทวนกันก่อนสักเล็กน้อยว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้วของการแข่งขันทำอาหารในรายการ MasterChef Thailand Season 5 คัดเลือกผู้เข้าแข่งขันจาก 18 คนเหลือเพียง 17 คน โดยในโจทย์แรก โฮมคุก ทุกคนต้องแข่งกันสร้างสรรค์เมนูจากวัตถุดิบจากกล่องปริศนาที่ประกอบไปด้วย กุ้งแม่น้ำ, ปลาหมอ, ใบชะคราม, ลูกตำลึง, เห็ดเผาะ, ผักขี้หูด, มะรุม, มะดัน, มะอึก, มะเฟือง, ยอดมะพร้าว และเม็ดสาคู ซึ่งผู้ที่คว้าตำแหน่งจานที่ดีที่สุดในรอบนี้ไปได้ ได้แก่ โอ๊ต ตฤณพงศ์ กับเมนู ‘ยอดมะพร้าว 3 ชั้น’ ที่เปลี่ยนวัตถุดิบให้กลายเป็นของหวานได้อย่างลงตัว
ในฐานะที่ชนะในรอบแรก โอ๊ตได้เข้ารอบอัตโนมัติ และมีสิทธิ์เลือกผู้เข้าแข่งขันอีก 8 คนผ่านเข้าไปด้วยกัน ส่วนอีก 9 คนที่เหลือต้องโชว์ฝีมือกันต่อในรอบ ‘Invention Test’ ที่มีวัตถุดิบโจทย์เป็น ‘หัวใจวัว’ หนึ่งในวัตถุดิบที่กรรมการยังบอกว่าเป็นวัตถุดิบที่หาได้ตามตลาดทั่วไปก็จริง แต่มีรายละเอียดที่ต้องใช้สกิลในการเตรียมและปรุงให้พอดี ไม่เช่นนั้นจะแข็งเกินไป
‘หัวใจวัว’ จากโฮมคุกแต่ละคนออกมาหลากหลายมาก ทั้งเวอร์ชันแกงพริกไทยดำจากโหน่ง เชพเพิร์ดพายประยุกต์จากเบลล์ ที่กรรมการออกปากชมว่าทำออกมาได้ดีมาก หรือจานที่มีชื่อว่า ‘คนหลายใจ’ จากมิเชล ที่หน้าตาอาจจะดูธรรมดา แต่มิเชลโชว์ความเข้าใจในวัตถุดิบออกมาได้ดีมากตั้งแต่การเตรียม แถมยังปรุงออกมาถึง 3 แบบ 3 สไตล์ และได้เท็กซ์เจอร์ที่ดีทั้งหมด
แต่เมนูที่เราเชื่อว่าติดใจใครหลายๆ คน รวมถึงเราด้วย คือซุปฮ่องฮ่องจาก นุ-อนุวัฒน์ วัดม่วง เมนูที่เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘ซุปลูกหมา’ อาหารในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เขานำมาดัดแปลง เปลี่ยนจากการใช้เนื้อวัวในต้นฉบับมาใช้เป็นส่วนหัวใจแทน และเสิร์ฟแบบ Deconstruct ให้มีลูกเล่นและให้ประสบการณ์ในการกินที่แตกต่าง
‘ซุปลูกหมา’ คือจานที่ดัดแปลงมาจากสตูเนื้อสไตล์ฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า Pot-au-feu ซึ่งปรากฏอยู่ในหนังสือ ตำราทำกับข้าวฝรั่ง ตำราที่แปลตำราอาหารฝรั่งเป็นภาษาไทยจัดทำโดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ก่อนหน้านี้ เมนูซุปลูกหมามีปรากฏอยู่ในตอนหนึ่งของละคร ปลายจวัก ละครย้อนยุคเกี่ยวกับอาหารไทยทางช่อง ThaiPBS ซึ่งหากใครได้ดู ในละครจะมีการเล่าถึงที่มาของเมนูนี้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป ส่วนที่มาของชื่อนั้นก็เป็นเพราะครั้งหนึ่งรัชกาลที่ 5 เคยได้ลองทำเมนูนี้ และได้ให้สุนัขทรงเลี้ยงรับประทานด้วย เลยเป็นที่มาของชื่อเล่นว่าซุปลูกหมานั่นเอง
วิธีการทำซุปลูกหมา (อ้างอิงจากละคร ปลายจวัก) คือสตูที่เคี่ยวเนื้อด้วยไฟอ่อน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย จากนั้นจึงใส่สารพัดผักลงไป ได้แก่ มันฝรั่ง, แครอต, มะเขือเทศ, หัวหอมใหญ่, ผักกาด และขึ้นฉ่าย จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟอ่อน 6 ชั่วโมง ซุปที่ถูกต้องจะต้องออกมาใส พร้อมจิ้มกินกับขนมปัง ซึ่งน่าจะเป็นการลดทอนสูตร Pot-au-feu ฉบับฝรั่งเศสให้เข้าใจและลองทำตามได้ง่ายขึ้น
ความน่าสนใจคือเราได้เห็นเมนูหลากหลายจากโฮมคุกอยู่ตลอดเวลา รวมถึงแสดงให้เห็นว่าแต่ละคนหาข้อมูลในการมาเข้าแข่งขันมากน้อยแค่ไหน น่าเสียดายแค่ว่า นุอาจเดินเกมผิดไปหน่อยที่นำเมนูนี้มาดัดแปลง จึงทำให้จากตัวเต็งสัปดาห์ที่แล้ว กลายมาเป็น 4 คนที่ทำได้แย่ที่สุดในรอบนี้ แต่เราก็เชื่อว่าสัปดาห์ถัดๆ ไป ต้องมีเทคนิคและเมนูที่น่าสนใจจากผู้เข้าแข่งขันทั้ง 17 คนให้ติดตามกันอีกแน่นอน
ดู MasterChef Thailand Season 5 แล้ว รักใคร เชียร์ใคร ชอบเมนูไหน แชร์กับเราได้เลย
