×

SUP Board ไม่ได้มีประเภทเดียว รู้จัก SUP สายทัวร์ริ่ง ซิ่งก็ดี…ชิลก็ได้

04.02.2022
  • LOADING...
sup board

เห็นเป็นกระดานคล้ายๆ กัน แต่อันที่จริง SUP Board มีมากมาย หลายประเภท หลายสไตล์ ถ้าจะจัด Category คร่าวๆ ก็คงต้องแบ่งเป็นประเภท All Round, Touring และ Race แล้วแต่ละประเภทมีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร ว่ากันแบบเข้าใจง่าย All Round คือสายชิล, Touring คือสายเที่ยว ส่วน Race คือสายแข่ง 

 

แม้จะใช้ข้ามสายกันได้ แต่คุณสมบัติของแต่ละบอร์ดที่ออกแบบมาไม่เหมือนกันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งการจะดึงศักยภาพของ SUP Board ให้สุดก็ต้องใช้ให้ถูกประเภท วันนี้ THE STANDARD POP ชวนมาทำความรู้จัก SUP Board สายเที่ยวที่เฟี้ยวทั้งการพายเล่นและพายแรงอย่าง SUP ประเภท Touring ที่แม้จะอยู่ตรงกลาง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะก้ำกึ่งหรือไม่มีจุดเด่นแต่อย่างใด เพราะ SUP ประเภทนี้ดีไซน์มาเพื่อการใช้งานหนัก ทั้งในแง่การรับน้ำหนักที่มาก ขนสัมภาระได้เยอะ พายระยะไกลได้ดี ทำความเร็วได้พอสมควร และที่สำคัญคือมี Stability ที่น่าประทับใจ

 

แล้วจะสังเกตได้อย่างไรว่าบอร์ดที่เห็นเป็นประเภท Touring?

 

ประการแรกคือ รูปทรง ‘หัวแหลม ท้ายตัด’ คือนิยามสั้นๆ ที่พอจะอธิบายลักษณะได้ค่อนข้างดี เพราะการออกแบบให้หัวแหลม (จริงๆ คือส่วน Nose) มีจุดประสงค์เพื่อการแหวกน้ำ ลู่ลม ตามหลักแอโรไดนามิก (Aero-Dynamic)

 

ต่อมาคือ ท้ายบอร์ดตัด (ส่วน Tail) ก็เพื่อเพิ่มความเสถียรและมั่นคงให้กับบอร์ด ซึ่งจะเกี่ยวพันกับข้อถัดไปคือ มีความกว้างมากพอสมควร ความกว้างโดยรวมของบอร์ดซึ่งมักจะมีส่วนกว้างสุดอยู่บริเวณกลางบอร์ดหรือจุด Balance ช่วยเพิ่มพื้นยืนให้พายได้อย่างมั่นคง เมื่อท้ายบอร์ดยังมีความกว้างอยู่ด้วยจึงทำให้โดยรวมของบอร์ดมีความมั่นคงมาก เพราะบอร์ดประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อการพายระยะไกล พายนาน หรือต้องขนสัมภาระไปด้วยนั่นเอง

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนิยาม ‘หัวแหลม ท้ายตัด’ เรายังเห็นได้ในบอร์ดทรงอื่นๆ เช่น Race ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะไปแตกต่างกันในรายละเอียดอย่างความยาว ความกว้าง พื้นที่สัมผัสน้ำ Volume ฯลฯ

 

ด้วยดีไซน์สไตล์ Touring ทำให้บอร์ดทรงนี้พายได้เร็วกว่าทรง All Round แม้จะไม่แรงเท่ากับทรง Race แต่ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะมีหลายคนใช้บอร์ดทรงนี้ลงแข่ง และได้ขึ้นโพเดียมอยู่เหมือนกัน ส่วนในแง่การพายชิล พายเที่ยว นี่คือบอร์ดที่ทำให้การพายของคุณง่าย ออกแรงน้อยกว่าแต่ได้ระยะทางไกลมากขึ้น

 

มาดูกันว่าในจักรวาล SUP Board มีบอร์ดสาย Touring รุ่นไหน แบรนด์ใด ที่น่าสนใจและน่าครอบครองกันบ้าง

 

 

SUNOVA รุ่น EXPEDITION | THE NORM HANN EDITION

 

ถ้าคุณรู้จักแบรนด์ SUNOVA ย่อมรู้ดีว่าทุกบอร์ดของแบรนด์นี้คือที่สุดของความอาร์ต ด้วยความที่ SUP ของ SUNOVA จะถูกผลิตขึ้นด้วยวัสดุที่เป็นไม้ นี่จึงไม่แตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์ที่นำมาพายในน้ำได้

 

สำหรับบอร์ดรุ่น EXPEDITION นี้โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดดิบเถื่อน ทางโรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดพังงา ‘ทำเก่า’ ตรงขอบบอร์ดมาให้ตั้งแต่ยังไม่แกะกล่อง เหตุผลหนึ่งก็เพื่อตอกย้ำความดิบ โหด อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์และการใช้งานที่ไม่ว่าจะน่านน้ำไหนก็ไปได้หมด อีกเหตุผลคือร่องรอยที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่เริ่มใช้งาน น่าจะช่วยให้ลุยได้อย่างสบายใจ จะมีรอยขีดข่วนเพิ่มอีกสักกี่แผลก็ไม่เป็นปัญหา

 

EXPEDITION ได้รับการออกแบบร่วมกับ Norm Hann นักสำรวจชายฝั่งและนักพายเพื่อการอนุรักษ์ Great Bear Rainforest ในแคนาดา บอร์ดนี้จึงสร้างขึ้นเพื่อสำรวจแนวชายฝั่ง ทะเลสาบ และแม่น้ำ เป็นบอร์ดที่เสถียรและทรงพลัง ซึ่งคุณขนอุปกรณ์ข้ามคืนเพื่อไปสู่การผจญภัยครั้งต่อไปได้

 

การออกแบบของบอร์ดรุ่นนี้มาจากประสบการณ์หลายปีและการเดินทางสุดหิน การแข่งขันทางไกลและการผจญภัยริมชายฝั่งที่ Norm Hann มีอย่างมากมาย ขนาดของบอร์ดรุ่นนี้มีให้เลือกตั้งแต่ 11 ฟุต, 12 ฟุต 6 นิ้ว และ 14 ฟุต โดยมีความกว้างให้เลือกตั้งแต่ 21-31.5 นิ้ว แต่ด้วยความที่โรงงานอยู่ในไทย และนโยบายของ SUNOVA คือสั่ง Custom ได้ตามความเหมาะสมทั้งขนาด ชนิดไม้ และสี

 

ราคาอยู่ที่ 52,500-57,500 บาท แล้วแต่ขนาด หาก Custom เพิ่ม มีค่าใช้จ่ายตามสิ่งที่สั่งเพิ่ม

 

 

NSP รุ่น CocoFlax Performance Touring

 

พูดถึง SUP สาย Touring แล้วจะไม่พูดถึงแบรนด์ NSP ไม่ได้ เพราะนี่คือหนึ่งในเบอร์ต้นๆ ของวงการ SUP ที่หลายคนคงจะผ่านตาบอร์ดยี่ห้อนี้กันมาบ้าง สำหรับ NSP CocoFlax Performance Touring นั้นเป็นบอร์ดที่มีความมั่นคงในการพายระยะไกล มีสายรัดสัมภาระ หัวบอร์ดเป็น Bulbous (หัวแหลมยื่นลงในผิวน้ำ) ทำให้บอร์ดแหวกน้ำ พายพุ่งไกล

 

ความน่าสนใจที่น่าจะถูกใจนักอนุรักษ์คือ บอร์ดรุ่นนี้ใช้สีของใยมะพร้าวผสมกับสีเขียวปนครามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังเป็นบอร์ด Touring ที่ใช้วัสดุใยมะพร้าวเป็นส่วนประกอบ (CocoFlax) ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศปี 2018 ในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเป็นมะพร้าวจากเกษตรกรที่จังหวัดสมุทรสงคราม ประเทศไทย ในโครงการ Harmless Harvest

 

สำหรับขนาด มี 2 ไซส์ คือ 12 ฟุต 6 นิ้ว x 32 นิ้ว Volume 316.8 ลิตร น้ำหนักประมาณ 14.5 กิโลกรัม ราคา 55,600 บาท และ 14 ฟุต x 30 นิ้ว Volume 332.1 ลิตร น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ราคา 58,700 บาท

 

 

STARBOARD ในกลุ่ม Lite Tech

 

STARBOARD เป็นอีกหนึ่งหัวตารางของวงการ SUP ที่แม้จะโด่งดังมากในกลุ่ม Race แต่ก็มีรุ่นที่ตอบโจทย์นักพายสายเที่ยวและสายลุยเช่นกัน อย่างในกลุ่ม Lite Tech ที่แม้จะไม่ใช่รุ่นท็อปสุดของแบรนด์ ทว่าเป็นที่นิยมมาก ด้วยความที่ราคาไม่แรงเกินไป แต่ยังมีประสิทธิภาพดีมากๆ

 

ใน STARBOARD Lite Tech จะชูความแข็งแรง น้ำหนักเบา และราคาพอจับต้องได้ ซึ่งในเรื่องความแข็งแกร่งได้ใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทานอย่างเช่น ไม้สนออสเตรเลียบนพื้นที่ยืน เพื่อให้ทนต่อแรงกระแทกและเป็นการเสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษในบริเวณที่เปราะบางที่สุด โดยที่ภายในทั้งหมดเสริมโฟมความหนาแน่นสูงตลอดทั้งลำ ซีรีส์ใหม่ๆ ได้รับแรงบันดาลใจจาก Sprint บอร์ดแข่งที่เร็วที่สุดของแบรนด์ ทำให้บริเวณ Nose มีทรงเหลี่ยมที่สูงขึ้น เพื่อแหวกน้ำและลดการกระเด็น จึงล่องไปได้อย่างเงียบและราบรื่น

 

ราคาของ STARBOARD ในกลุ่ม Lite Tech สาย Touring อยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท แล้วแต่รุ่นและไซส์

 

 

BOTE Board ทุกรุ่น

 

เหมือนเป็นม้านอกสายตาที่กลายเป็นหนึ่งในม้ามืดเบียดขึ้นมาสู้กับแบรนด์เจ้าตลาดได้ สำหรับ BOTE Board จากแดนมะกัน เพราะนี่คือหนึ่งในแบรนด์ SUP Board ที่เน้นผลิตบอร์ดสาย Touring มาโดยเฉพาะ ซึ่งนำองค์ความรู้จากการผลิตบอร์ดสายตกปลา หรือ Fishing SUP อันโด่งดังและเป็นที่ยอมรับของนักพาย SUP ที่หลงใหลการท่องไปในแหล่งน้ำ ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งกระแสน้ำ คลื่นลม อุปสรรคต่างๆ นานา แต่ว่าบอร์ดของ BOTE ก็เอาอยู่

 

จุดเด่นที่แบรนด์นี้รักษามาตรฐานเอาไว้ไม่ว่าในกลุ่ม SUP ตกปลา หรือกลุ่ม Touring SUP ก็คือความเสถียร แข็งแรง รับน้ำได้ดีมาก และถึงแม้จะเป็นบอร์ด Touring แต่ก็ทำความเร็วได้ไม่น้อยหน้าบอร์ดสายแข่งเลย หนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้บอร์ด BOTE ขึ้นแท่นมาติดเป็นหนึ่งในสาย Touring ที่น่าจับตามองคือ การออกแบบให้บอร์ดสัมผัสน้ำได้เต็มความยาวของลำ ด้วยการเพิ่มส่วน Nose ให้ยื่นออกไปใต้บอร์ด ไม่ใช่ทรงแบนราบหรือแค่เป็น Rocker เชิดขึ้นอย่างบอร์ดแบรนด์อื่นๆ สิ่งที่ได้มาคือมีส่วนที่สัมผัสน้ำเต็มๆ เช่น บอร์ดยาว 12 ฟุต 6 นิ้ว ก็อยู่ในน้ำทั้ง 12 ฟุต 6 นิ้ว ช่วยเรื่องความ Stability และ Speed ได้เป็นอย่างดี เหตุผลที่บอกว่า BOTE ทุกรุ่น เพราะถ้าไม่ใช่บอร์ดตกปลา ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยก็มีเฉพาะบอร์ด Touring ให้เลือกซื้อ และทุกรุ่นก็มีจุดเด่นที่คล้ายกัน

 

ปัจจุบันในบ้านเรามี BOTE Board จำหน่ายอยู่ความยาวเดียวคือ 12 ฟุต 6 นิ้ว แตกต่างกันที่ความกว้าง คือ 29 นิ้ว และ 32 นิ้ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X