หลังการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ความแจ่มชัดทางการเมืองของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ก็มีมากขึ้น เมื่อเธอได้รับความไว้วางใจให้นั่งในตำแหน่งหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์
ประกอบด้วยทีมงานอย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และจาตุรนต์ ฉายแสง มาร่วมผนึกกำลังทำงานร่วมกัน พร้อมๆ กับการตีความจากสื่อหลายสำนักว่านี่คือ 3 แคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยในสมรภูมิการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
และวันนี้คือจังหวะขยับครั้งแรกของคุณหญิงสุดารัตน์ในฐานะแม่ทัพถือธงนำสู้ศึกการเลือกตั้ง ในฐานะหัวขบวนยุทธศาสตร์พรรค เธอเลือก ‘นครราชสีมา’ เมืองโคราช ถิ่นท้าวสุรนารี หรือย่าโม แม่ทัพหญิงซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน เป็นจังหวัดแรกในการลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อออกสตาร์ทในฐานะ ‘หัว’ อย่างเต็มตัว
คืนก่อนออกเดินทาง คุณหญิงสุดารัตน์เขียนในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “วันพรุ่งนี้แม่จากหน่อยไปครบ 10 ปีแล้ว แม้เวลาจะผ่านมา แต่ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงแม่เลย แม่ให้หน่อยได้เกิดถึงสองครั้ง ครั้งแรกคือเกิดมาในชีวิต และอีกครั้งก่อนแม่จากไปคือการเกิดใหม่ทางปัญญา พรุ่งนี้จะไปทำบุญ กราบพ่อและแม่ที่โคราชนะคะ รักแม่สุดหัวใจ”
และนั่นคือเหตุผลหลักของการเลือก ‘โคราช’ เป็นถิ่นปักหมุด ขณะที่หากย้อนกลับไปในอดีต บิดาของเธอคือ สมพล เกยุราพันธุ์ แจ้งเกิดทางการเมืองเมื่อปี 2512 ด้วยการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรกในสนามโคราชด้วยนั่นเอง
คุณหญิงสุดารัตน์เมื่อคราวถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเพราะเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ทำให้เธอต้องเว้นวรรคจากงานที่รัก แต่สมพลผู้เป็นบิดาได้กลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แทนลูกสาว แม้จะอยู่ในวัยวุฒิที่มากแล้ว แต่ก็พร้อมทำหน้าที่ และได้รับการเลือกตั้งให้เป็น ส.ส. ในแบบสัดส่วน
คุณหญิงสุดารัตน์บอกกับประชาชนว่าเธอคือลูกโคราช หลานย่าโมคนหนึ่ง หลังสักการะย่าโม เธอออกเดินไปตามถนนเพื่อไปยังตลาดแม่กิมเฮง ระหว่างทางมีประชาชนเข้ามาทักทายและมอบดอกไม้เป็นระยะ “เขาบอกเราว่ามีปัญหาปากท้องมากที่สุด บางคนมากอดแล้วก็ร้องไห้ ขอให้ช่วยแก้ไขให้ดีขึ้น” คุณหญิงสุดารัตน์เล่าให้สื่อฟัง
การมาลงพื้นที่ครั้งนี้ เธอย้ำว่าเป็นการเชิญชวนประชาชนมาสมัครสมาชิกพรรค และไม่กังวลต่อกระแสการย้ายพรรค เพราะเคยเจอสึนามิทางการเมืองมาหนักกว่านี้ คุณหญิงสุดารัตน์ยังบอกอีกว่าไม่ขอให้ความสนใจเรื่องการปลดล็อก เพราะจะทำทุกอย่างตามกฎหมาย จะทำให้ความสุขของคนไทยกลับคืนมา
บรรยากาศช่วงหนึ่งอบอวลไปด้วยเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากประชาชน คุณป้าร้านขายไข่ไก่บอกกับ THE STANDARD ว่าขอให้เขาได้เป็นนายกฯ หญิงคนที่สอง บอกว่าเพิ่งเคยเจอคุณหญิงสุดารัตน์ตัวจริง ขณะที่วันนี้ บอส-ภูมิภัทร ลีลาปัญญาเลิศ บุตรชายคนโตของคุณหญิงสุดารัตน์มาลงพื้นที่ด้วย โดยรับหน้าที่เป็นช่างภาพประจำตัวคุณแม่ของเขา
คงจะไม่เป็นการพูดที่เกินไปนัก หากจะบอกว่าการเลือกปักธงทางการเมืองอีกครั้งของคุณหญิงสุดารัตน์ถือว่าเป็นการกลับมาเดินหน้าเต็มกำลัง เธอเลือกพื้นที่เกิดทางการเมืองของคุณพ่อเป็นจุดเหยียบยืนยืดตัวตรงในทางการเมือง
เธอเลือกวันออกสตาร์ทเป็นวันครบรอบ 10 ปีแห่งการจากไปของมารดาผู้ให้เธอเกิดในชีวิตถึงสองครั้ง และเธอกำลังเลือกเส้นทางการ ‘เกิด’ ในทางการเมืองที่จะกลับมาคัมแบ็กอย่างเฉิดฉาย
แต่ทว่าสมรภูมินี้ไม่ง่าย ก้อนหินและดอกไม้จะมาจากทั่วทิศ
เชื่อเหลือเกินว่าคุณหญิงสุดารัตน์ใน 26 ปีแห่งสนามการเมืองก็คงได้รับสิ่งเหล่านี้ไม่น้อยกว่านักการเมืองคนใด
