ผลการศึกษาล่าสุดเผยให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนโควิดของ Pfizer หรือ AstraZeneca เป็นจำนวน 2 โดส จะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญในผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนเพียง 1 โดส
การศึกษาประชาชน 19,000 คน โดยสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England) ที่ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 กรกฎาคม) พบว่า การฉีดวัคซีน Pfizer หรือ AstraZeneca ชนิดใดก็ได้ครบ 2 โดส ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสทั้งสายพันธุ์อัลฟา (หรือสายพันธุ์อังกฤษ) และสายพันธุ์เดลตา (หรือสายพันธุ์อินเดีย) ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน
ผลการศึกษาพบว่า วัคซีน Pfizer จำนวน 2 โดส มีประสิทธิภาพ 93.7% ในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์อัลฟา และ 88% สำหรับสายพันธุ์เดลตา
ขณะที่ พบว่า AstraZeneca จำนวน 2 โดส มีประสิทธิภาพ 74.5% ในการป้องกันการติดเชื้ออัลฟา และ 67% สำหรับเดลตา
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงอย่างมาก หากผู้ป่วยได้รับวัคซีนอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงโดสเดียว โดยจากการศึกษาพบว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อมีประสิทธิภาพในการต้านทานไวรัสสายพันธุ์อัลฟาเพียง 48% และป้องกันสายพันธุ์เดลตาได้เพียง 30% หากได้รับวัคซีนเพียงโดสเดียว
คณะนักวิจัยกล่าวว่า ผลการวิจัยดังกล่าวสนับสนุนทฤษฎีที่ว่า การให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชากรกลุ่มเปราะบางนั้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการระบาดของโควิด
สำหรับวัคซีน Johnson & Johnson ซึ่งเป็นวัคซีนที่ให้เพียงโดสเดียว มีอัตราประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตาเพียง 33% จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยนิวยอร์กที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (20 กรกฎาคม) อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยนี้ยังไม่ได้ผ่านการประเมินโดยคณะผู้เชี่ยวชาญผู้ทรงคุณวุฒิ
ในส่วนของวัคซีน Moderna นั้น การศึกษาเมื่อเดือนที่แล้ว (มิถุนายน) ชี้ว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์เดลตาเช่นกัน
บรรดาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสายพันธุ์เดลตาเป็นสาเหตุของการระบาดระลอกใหม่และการพุ่งสูงขึ้นของจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสายพันธุ์เดลตา ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงอดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ดร.สกอตต์ กอตต์ลีบ ที่กล่าวว่า ชาวอเมริกันที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ‘ส่วนใหญ่’ มีแนวโน้มที่จะติดเชื้อเดลตา ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยที่พุ่งทะยานขึ้นส่งผลให้บางเมืองในสหรัฐฯ เช่น ลอสแอนเจลิสและลาสเวกัส กลับมาบังคับใช้มาตรการสวมใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่ปิดอีกครั้ง
ภาพ: Mario Hommes / DeFodi Images via Getty Images
อ้างอิง:
