เป็นแบรนด์สกินแคร์แต่ออกมารณรงค์ให้คนไทย ‘หยุดเสพติดสกินแคร์’ ถึงจะฟังดูย้อนแย้ง แต่กลับเป็นการตลาดที่จริงใจกับผู้บริโภคที่สุด
เรากำลังพูดถึง ‘INGU’ (อิงกุ) แบรนด์สกินแคร์น้องใหม่ใจถึงที่เพิ่งปล่อยแคมเปญ ‘STOP SKINCARE OVERDOSE’ มาล้มล้างความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า ‘อยากผิวดีต้องประโคมสกินแคร์’ ด้วยการกระตุก (แรง) เตือนคนไทยแบบตรงไปตรงมาให้ใช้สกินแคร์เท่าที่จำเป็น เพราะถ้าประโคมทุกอย่างที่ใครเขาบอกว่าดี ก็เตรียมโบกมือลาผิวหน้าที่เคยดีได้เลย
คนไทยใจบางกับของฮิต ของใหม่ ของมันต้องมี
ถ้าต้นตอของ ‘ปัญหาผิว’ คือการเสพติดสกินแคร์เกินขนาด ต้นตอที่ลึกลงไปอีกชั้นคือความใจบางกับการโดนป้ายยาของคนไทย จนทำให้หยุดซื้อสกินแคร์ตามเพื่อนไม่ได้ อดใจไม่ไหวที่จะเอฟไอเท็มที่อินฟลูเอ็นเซอร์ว่าดี หรือพอมีสินค้าตัวใหม่ออกมาก็อยากลองไปหมด
ข้อมูลและคำแนะนำที่มากล้นจนคัดกรองไม่ไหว รับรู้แค่ว่าส่วนผสมที่คิดค้นใหม่จะช่วยแก้ปัญหาผิวได้ จนลืมทำความเข้าใจว่าผิวของตัวเองต้องการอะไร และอะไรที่เหมาะกับตัวเอง การซื้อสกินแคร์แล้วประโคมใช้มากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพ้และระคายเคืองต่อผิวหน้า
ขยี้ Pain Point ‘ยิ่งใช้เยอะ ยิ่งก่อให้เกิดปัญหาผิว’ ให้กลายเป็นแคมเปญสุดปั่น ‘STOP SKINCARE OVERDOSE’
‘ยิ่งใช้เยอะ ยิ่งก่อให้เกิดปัญหาผิว’ คือประเด็นหลักที่แบรนด์อยากจะสื่อสาร แต่ยุคนี้แล้วอ้อมไปอ้อมมาใช่ว่าจะดี มีอะไรก็พูดตรงๆ ไปเลย เกิดเป็นแคมเปญ ‘STOP SKINCARE OVERDOSE’ เตือนคนไทยให้หยุดเสพติดสกินแคร์เกินขนาดสักที
ฮุกหมัดแรกทุ่มงบโฆษณา Out of Home ผ่านบิลบอร์ดขนาดใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ รวมไปถึง BTS และ MRT เผยโฉมไม่ทันไรกระแสก็มา อย่างงานชิ้นแรกจะเห็นผู้หญิงที่ผิวมีปัญหากำลังจมอยู่ในกองสกินแคร์มากมาย เปรียบได้กับต้นตอของปัญหาผิวที่เกิดจากการใช้สกินแคร์มากเกินไป ความน่าสนใจคือในภาพมีเพียงคำว่า #StopSkincareOverdose ผิวฉลาดกว่าที่คิด หยุดเสพติดสกินแคร์เกินขนาด แม้จะมีโลโก้แบรนด์อยู่ แต่ก็มาแบบเงียบๆ ปล่อยให้ภาพและข้อความทำหน้าที่ แล้วจึงปล่อยงานชิ้นที่สองตามมาเหมือนเป็นภาคต่อ เพราะจะเห็นผู้หญิงคนเดิมที่มีผิวหน้ากระจ่างใส ปัญหาผิวลดลง ผลจากการดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้องด้วยการลดสเตป ลดปัญหาผิว ให้เหลือแค่ ‘ล้าง บำรุง และปกป้อง’
ขยี้อินไซต์ สรรพคุณดี ใช้ร่วมกันใช่ว่าจะดีเสมอไป
พอแคมเปญเฟสแรกสร้างการรับรู้ได้ระดับหนึ่ง แบรนด์ไม่รอช้า ฮุกหมัดต่อไปด้วยหนังโฆษณา ‘Seven Moms’ ทำขึ้นมาเพื่อขยี้อินไซต์เรื่องสรรพคุณของสกินแคร์ ต่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด แต่เมื่อใช้รวมกันเยอะๆ หายนะผิวก็อาจบังเกิด
ไอเดียสุดปั่นจึงถือกำเนิด แต่คราวนี้ถ้าเล่าโต้งๆ ดูธรรมดาไป จึงเปรียบเทียบ ‘ความเยอะ’ ที่เกินพอดี ผ่านเรื่องราวของชายหนุ่มที่มีแม่ 7 คน ที่ล้วนแล้วแต่หวังดีในแบบของตัวเอง แต่ความหวังดีในเวลาพร้อมๆ กันก็อาจสร้างความวุ่นวายจนทำให้ชีวิตพังไม่เป็นท่า ต่อให้ดีก็บอกไม่ได้ว่าดีเพราะใคร ถ้าพังก็ชี้ตัวไม่ถูกว่าใครเป็นตัวการ
เข้าตำราเดียวกับ ‘คนเยอะก็มากความ’ สกินแคร์ก็ไม่ต่างกัน ยิ่งใช้เยอะ ผิวยิ่งแย่ หนังโฆษณาจึงเหมือนเป็นตัวขยี้อินไซต์ของข้อเท็จจริงที่ว่า “ต่อให้เป็นสกินแคร์ที่ดีที่สุดในโลก พอมาใช้ร่วมกันกลับสร้างปัญหาให้กับผิวหน้าได้มากกว่าแดด ฝุ่น และมลพิษ”
ดีว่าแน่นอน ถ้าคัดให้เหลือแค่สกินแคร์พื้นฐานที่จำเป็นแค่ 3 ขั้นตอน ล้าง บำรุง และปกป้อง
การลุกมาทำแคมเปญของ INGU ครั้งนี้ไม่เพียงทำให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น แต่ความกล้าที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ยังปลุกกระแสให้วงการความงามต้องลุกมาสร้างสีสันใหม่ๆ กันสักหน่อย ยิ่งถ้าเป็นแคมเปญที่ทำให้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมทำให้ตัวเองดีขึ้นแล้วละก็ ผู้บริโภคจะยิ่งเปิดใจรับฟังและอาจขยับให้แบรนด์ของคุณเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในใจก็เป็นได้
