×

คุยกับกอล์ฟ F.HERO งานถูกยกเลิก รายได้หาย แต่ขอสู้อีกครั้งกับ ‘ข้าวเหนียวหมูปิ้งฮีโร่’

27.03.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • กว่า 17 ปีในฐานะศิลปินInto The New Eraคืออัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของ ณัฐวุฒิ ศรีหมอก ‘กอล์ฟ F.HERO’ ที่ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากในด้านความสามารถทางดนตรีจนทำให้เขาได้รับรางวัลถึง 5 รางวัล
  • แต่แล้วโรคระบาดโควิด-19 ก็ทำให้ชีวิตของเขาต้องถึงจุดพลิกผัน งานทั้งหมดที่เดิมทีมีคิวเต็มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายนถูกยกเลิกทันที คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราวๆ 1 ล้านบาท
  • ในวันที่รู้สึกผิดหวัง กอล์ฟตัดสินใจลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้งด้วยการเปิดร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ‘ข้าวเหนียวหมูปิ้งฮีโร่’ เพราะไม่อยากให้ภรรยาและลูกต้องเป็นทัพหน้าหาเลี้ยงตนและครอบครัว

“กูล้มไม่ได้หรอก ลูกเมียกูบอกมา เอาความสำเร็จมึงมาให้กู สร้อยคอมึงถอดมา เงินทองนี่ของจริง ชื่อเสียงมันหลอกตา…”

 

นี่คือเวิร์สแรกของเพลง Like A Boss ผลงานของแรปเปอร์และกวีเอกเมืองล้านนา ณัฐวุฒิ ศรีหมอก หรือ กอล์ฟ F.HERO จาก Into The New Era หนึ่งในอัลบั้มเพลงไทยที่เรากล้าพูดได้เต็มปากว่า ‘ดีที่สุด’ ในรอบทศวรรษ และยังเป็นเวิร์สที่สามารถบอกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเขาในห้วงเวลานี้ได้ดีที่สุด

 

กว่า 17-18 ปีที่ผ่านมา Into The New Era คืออัลบั้มเต็มครั้งแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวของกอล์ฟที่ปล่อยออกมาครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี 2562 เขาใช้เวลาเคี่ยวกรำประสบการณ์ที่มีในวงการตลอดเกือบ 2 ทศวรรษ ร้อยเรียง ใส่หัวใจ ความทุ่มเท และเรื่องที่อยากบอกเล่าให้ทุกคนได้รับฟังลงไปในบทเพลงคุณภาพทั้ง 27 เพลง

 

ผลที่ตามมาคือกอล์ฟได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก เขาเดินสายคว้ารางวัลมากถึง 5 รางวัลจากเวทีต่างๆ ขณะที่คิวงานแสดงของเขาก็แน่นข้ามปีมาจนถึงเดือนเมษายน 

 

ทั้งหมดที่เกริ่นมาดูเหมือนเกือบจะดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดโรคระบาดรุนแรงอย่างโควิด-19 ที่เล่นงานหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยขึ้นเสียก่อน จนทำให้บรรดาห้างร้านและผู้ประกอบการต่างๆ ต้องทยอยปิดทำการชั่วคราว ฟากกอล์ฟเองที่เดิมทีตั้งเป้าไว้ว่าจะมีรายได้รวม 1 ล้านบาท เงินทั้งหมดก็หายวับไปชั่วข้ามคืนหลังถูกแคนเซิลงานจนเกลี้ยง

 

ในวัย 37 ปี หากจะบอกว่าโชคชะตากลั่นแกล้งเขาก็คงจะไม่ผิดนัก แต่กอล์ฟไม่ยอมจมปลักอยู่กับความผิดหวัง ทันทีที่ตั้งตัวและพอจะตั้งสติได้ เขาขอฮึดสู้ใหม่อีกครั้งด้วยการเปิดร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ‘หมูปิ้งฮีโร่’ แล้วบอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมนั่งอยู่เฉยๆ นิ่งดูดาย ปล่อยให้ลูกและเมียปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงผู้เป็น ‘หัวหน้าครอบครัว’ อย่างตัวเขาแน่นอน

 

 

อะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณตัดสินใจลุกขึ้นมาขายข้าวเหนียวหมูปิ้งด้วยตัวเองในครั้งนี้

มันมาจากการที่งานช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนของผมถูกยกเลิกหมด ค่าเสียหายรวมๆ กันแล้วก็ประมาณล้านกว่าบาทครับ ต้องบอกก่อนว่าปกติแล้วบ้านของเราจะมีรายได้สองช่องทางคือจากผมและภรรยา ทีนี้พอในช่วงนี้ผมไม่มีรายได้ รายได้หลักก็จะมาจากแค่ภรรยา กับเงินอีกส่วนที่เราเก็บไว้ ซึ่งอันดับแรกเลยคือเราไม่ได้อยากใช้เงินเก็บ

 

สองคือผมก็ไม่ได้อยากใช้เงินภรรยา ผมรู้สึกละอายใจที่ให้ภรรยากับลูกหาเลี้ยง ก็เลยรู้สึกว่าผมอาจจะหาเงินได้ไม่เท่าเดิม แต่อย่างน้อยผมหาเงินค่ากับข้าวเข้าบ้านก็ยังดี ก็ไม่ได้อยากงอมืองอเท้า เลยมาลองขายข้าวเหนียวหมูปิ้งดู ตอนนั้นผมใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน อยู่บ้านเฉยๆ ได้ 3 วัน รู้สึกเบื่อตายชัก วันที่ 4 ผมก็ไปหาเฮียนพหมูปิ้ง ขอเข้าไปพบเขา ไปขอวิชาเลย ศึกษาเลย ให้ที่ร้านไปลองฝึกหุงข้าวเหนียว

 

ท้อหรือเครียดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ไหม

(ส่ายหัวเมื่อถามว่าท้อไหม) ตอนรายได้หายผมไม่เครียด จริงๆ แล้วรู้สึกดีนะ เพราะผมไม่ได้พักมานาน ไม่ได้รู้สึกดีกับสถานการณ์นะ แต่มองโลกในแง่ดี มันไม่ได้พักมานานแล้ว ผมทำงานหนักมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำงานทุกวัน ไม่เคยมีวันหยุดเลย วันหยุดผมก็ต้องหาอะไรทำ อยู่บ้านได้ 3-4 วันแล้วมันรู้สึกเปล่าดาย เสียดายเวลา ก็เลยตัดสินใจทำดีกว่า

 

เอาเข้าจริงผมเครียดกับสถานการณ์ที่ไม่มีทางออกมากกว่า ผมรู้สึกว่าผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ค่อยช่วยเรา เครียดกับคนที่รับผิดชอบอะไรให้เราไม่ได้ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร มันไม่มีทางออก อย่าว่าแต่ทางออกเลย จะไปทางไหนยังไม่รู้เลย ตอนนี้ทุกคนก็วิ่งวุ่นหรือไม่ก็ได้แต่หลบอยู่ในบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะหลบต่อไปได้ถึงเมื่อไร

 

ผู้ใหญ่ในที่นี้คือใคร

รัฐบาลไงครับ พอผู้หลักผู้ใหญ่เป็นแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี รู้สึกอ่อนใจ ลูกสาวผมยังบอกเลยว่าไม่น่าเกิดมาในยุคนี้เลย เพราะไม่ได้ออกไปเล่นนอกบ้าน

 

 

นอกจากความรู้สึกเบื่อซังกะตาย อะไรปลุกให้คุณต้องลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง

จริงๆ แล้วเมื่อต้นเดือนผมเพิ่งได้รับรางวัล 5 รางวัลจากอัลบั้มที่ใช้เวลาทำมา 3 ปี ซึ่งมันน่าจะเป็นจุดพีกมาก 17-18 ปีที่ผ่านมาผมเพิ่งมีอัลบั้ม รับรางวัลมา 5 รางวัล แต่พอ 3 วันต่อมางานหายหมด แล้วสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปหมดเลย ผมก็จะรู้สึกว่ามันแค่นั้น งานคือได้ทำงานมันก็ต้องจบแล้ว มันไม่ได้จบที่เงินหรือรางวัล 

 

เพราะฉะนั้นอย่างแรกต้องเข้าใจมันก่อนว่างานคือผมได้ทำงาน หมูปิ้งเองก็ได้ขาย เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องไม่ยอมแพ้ มันหยุดไม่ได้ครับ ผมเป็นคนหยุดทำงานไม่ได้ ผมทำงานให้ชีวิตตัวเองมีค่า อยู่เฉยๆ ผมจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า 

 

คือรางวัลก็ได้มาแล้ว แต่ก็รู้สึกว่า เออว่ะ มันไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ไม่ใช่ว่าได้มาแล้ว ‘เฮ้ย ข้าชนะแล้ว!’ แล้วมันยังไงต่อล่ะ ชนะแล้วก็กลับบ้านครับ กลับไปอยู่กับที่บ้าน ชนะแล้วก็ต้องอยู่กับตัวเอง เริ่มใหม่ คือขึ้นยังไงไม่สำคัญเท่าลงยังไงไม่ให้เจ็บ ขึ้นให้สูงแต่ลงยังไงให้ไม่ตุ้บ แล้วก็ค่อยถลาลงให้เนียนที่สุด

 

รู้สึกแปลกๆ บ้างไหมที่เดิมทีเราเคยจับไมค์ร้องเพลง จับปากกาเขียนเพลง ตอนนี้ต้องมาทำงานที่อาจจะไม่ได้ถนัด

ตอนนี้ไม่แปลกหรอกครับ เดี๋ยวต้องพยายามทำเรื่องนี้ให้ชิน เพราะต้องอยู่กับมันไปอีกอย่างน้อยก็เดือนกว่าๆ คิดว่าจะต้องย่างหมูไปอีกอย่างน้อยก็ประมาณเดือนกว่า ตอนน้ียังย่างหมูไหม้อยู่เลย เป็นมือใหม่มากๆ ทีแรกนึกว่ามันจะง่ายเหมือนย่างหมูกระทะ แต่ดูสิครับ (ชี้ไปรอบๆ ตัว) คนต้องมาช่วยกันเต็มไปหมดเลย แล้วก็ยังทำหมูไหม้อยู่เลย ก็เลยต้องพยายามย่างให้ชินต่อไป

 

มองไว้ว่าจะขายหมูปิ้งแบบนี้ต่อไปถึงเมื่อไร ถ้าสถานการณ์โรคระบาดเริ่มทรงตัวแล้วคิดว่าจะยังขายต่อไปหรือเปล่า

ก็ยังขายต่อไปครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นอาชีพที่น่าสนใจเลยล่ะ อย่างแรกเลยที่ขายหมูปิ้ง คนมักจะบอกว่า ‘มึงตกอับ’ พอข่าวออกไปว่า กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ มาขายหมูปิ้ง ก็บอกว่ามึงตกอับ ไม่รู้จักเก็บเงินเหรอ ผมบอกว่า ‘เปล่า มีทางเลือก’ แต่ทำไมต้องมองล่ะว่าหมูปิ้งเป็นทางเลือกสุดท้ายที่คนจะไม่เอาเลย จริงๆ แล้วถ้าขายดีๆ ก็รวยนะ ผมศึกษามาจากเฮียนพว่ามันเป็นโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจมาก

 

คนส่วนใหญ่ก็กินหมูปิ้งกันทั้งนั้น แล้วมันง่ายมาก เป็นฟาสต์ฟู้ดแบบไทยๆ เลย ข้าวเหนียวกับหมูปิ้ง หมู 3 ไม้ ข้าวเหนียว 1 ห่อ ราคาถูก หยิบจับได้ ผมว่ามันไปได้ถึงทุกกลุ่มตลาด

 

 

3 วันที่ผ่านมายอดขายดีแค่ไหน

ตอนนี้ยังวัดไม่ได้ครับ เพราะมันเป็นกระแส ยังบอกอะไรไม่ได้ เหมือนคนมาซื้อเขามาให้กำลังใจเรา มาช่วยเรา ช่วยพี่กอล์ฟ ผมก็ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายมันจะออกมาเป็นยังไง ของจะดีได้ ผมจะต้องเป็นมืออาชีพเรื่องนี้ให้ได้ รู้ว่าคุณภาพของมันเป็นอย่างไร จัดหรือเรียงแถวอย่างไร มันยังไปอีกไกลครับ ผมเพิ่งเริ่มเอง เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่ความสำเร็จ นี่คือก้าวใหม่ของผม

 

อะไรคือบทเรียนที่คุณได้รับจากช่วงเวลาที่ผ่านมาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

มันต้องอยู่กับลมหายใจของปัจจุบันให้ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปคิดถึงเรื่องอดีตหรืออนาคต ปัจจุบันตื่นมามีลมหายใจก็ต้องสู้ต่อ เหมือนผมย่างหมูไปมันก็คิดไป หมูอร่อยมันต้องพอดีจริงๆ ไหม้ไปก็ไม่ได้ ดิบไปก็ไม่ดี มันต้องอยู่กับความพอดี รู้ว่าจะต้องเอาหมูขึ้นตอนไหน ก็เหมือนมนุษย์เรานี่ล่ะครับ ผมรู้สึกว่าเรื่องความพอดี ขึ้นสูงไปมันก็เท่านั้น สูงไปก็ตกเจ็บ ลงต่ำไปมันก็ดูไม่มีอะไร เลยรู้สึกว่าบินให้กลางๆ น่าจะดีกว่า

 

 

คุณอยากฝากกำลังใจอะไรให้กับคนที่ต้องเผชิญวิกฤตในตอนนี้ไม่ต่างจากคุณ

ยังมีคนที่ลำบากกว่าผมอีกเยอะ ผมเองก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้จริงๆ อย่างน้อยร้านของผม ใครไม่มีข้าวกิน หิวข้าวก็เดินมาบอกได้เลยครับ กินให้อิ่ม ผมให้ฟรีเลย พอจะช่วยอะไรได้ก็ช่วยเต็มที่ มีอะไรที่ผมช่วยได้ผมก็อยากช่วย ตรงไหนที่อดกันจริงๆ ไลน์มาบอกกันครับ ส่งข้อความมาบอกกันในเพจ เดี๋ยวส่งหมูปิ้งไปช่วย

 

สุดท้ายนี้ กำลังใจดีที่ดีสุดในตอนนี้ของคุณคืออะไร

ลูกกับเมียครับ เอาเข้าจริงแล้ว เบลล์ (ยุภาพร ฤทธิญาณ – ภรรยา) ก็ไม่อยากให้ผมออกมาขายหมูปิ้ง เพราะห่วงว่าจะติดโควิด-19 ไปด้วย เขาบอกผมว่าจริงๆ แล้วเขาดูแลผมได้นะ แต่ผมบอกว่าไม่เอา ผมมาแค่ตอนเช้านี่ล่ะ ไม่นานก็กลับบ้านแล้ว (05.00-10.00 น.) สำหรับผม ลูกกับเมียน่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเหลืออยู่ ตัวผมเองไม่ได้ห่วงอะไรเลย ไม่ได้ห่วงว่าชีวิตนี้จะไม่มีบ้าน ไม่มีรถหรือที่ดิน ผมไม่กลัว ผมขอแค่คนอยู่ข้างๆ ลูกเมียผมอยู่ไหน ตรงนั้นก็เรียกว่าบ้าน 

 

“ตราบใดที่สัญญาณชีพยังดี ฉันยังมีแรง อาจมีวันท้อถึงคราวอ่อนแรง พักเดียวเดี๋ยวก็หาย เพื่อคนที่รัก เพื่อสิ่งที่หวัง ฉันจึงยังไหว ตั้งเตือนหัวใจ เตือนไว้ว่าฉันยังคง ต้องไป ต่อไป…”  

 

คือท่อนหนึ่งจากบทเพลง Alarms (สวัสดีวันจันทร์) ที่กอล์ฟได้รับเกียรติจากตำนานศิลปินที่ยังมีลมหายใจ ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ มาร่วมขับร้อง ทั้งยังสะท้อนภาพความรู้สึกที่ศิลปินเมืองแม่สายพร้อมจะก้าวเดินต่อไปในเส้นทางต่อจากนี้เพื่อคนที่เขารัก

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising