×

Steven Spielberg & John Williams เรื่องราวมิตรภาพของสองตำนานแห่งโลกภาพยนตร์

26.01.2023
  • LOADING...

นอกจากเหล่าตัวละครสุดไอคอนิก กลวิธีนำเสนอที่เปรียบเสมือนการร่ายมนตร์ให้ผู้ชมหลงใหลไปกับเรื่องราว อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในผลงานของผู้กำกับ Steven Spielberg ที่กลายเป็นภาพจำของผู้ชม คือดนตรีประกอบจากปลายปากกาของ John Williams ที่เข้ามาเติมเต็มเรื่องราวเปี่ยมเสน่ห์ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น  

 

และเนื่องในโอกาสที่ The Fabelmans ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ Steven Spielberg และยังเป็นผลงานครบรอบ 50 ปีการร่วมงานกันระหว่าง Steven Spielberg และ John Williams กำลังจะเดินทางมาเข้าฉายในบ้านเราในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ THE STANDARD POP ถือโอกาสชวนผู้อ่านมาร่วมสำรวจเรื่องราวมิตรภาพของสองตำนานแห่งโลกภาพยนตร์กัน 

 

ภาพ: Getty Images

 

John Williams คอมโพสเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังดนตรีประกอบสุดไอคอนิก 

 

ก่อนที่จะว่ากันถึงเรื่องราวมิตรภาพของ Steven Spielberg และ John Williams เราขอพาผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ John Williams หนึ่งในคอมโพเซอร์ระดับตำนานกันอีกครั้ง 

 

John Williams หรือ John Towner Williams คือคอมโพเซอร์ คอนดักเตอร์ และนักเปียโนชาวอเมริกัน เขาเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1932 และเติบโตขึ้นมาท่ามกลางเสียงดนตรีตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากพ่อของเขาเป็นนักดนตรีที่เล่นเครื่องเพอร์คัชชันให้กับวงดนตรี The Raymond Scott Quintet ของศิลปิน Raymond Scott จึงทำให้เริ่มต้นฝึกฝนการเป็นนักดนตรีและเล่นเปียโนตั้งแต่ยังเด็ก ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะตัดสินใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส และวิทยาลัยลอสแอนเจลิส ซิตี้ เพื่อศึกษาด้านดนตรีโดยเฉพาะ  

 

หลังจากสั่งสมประสบการณ์ด้านดนตรีมานานหลายปี John Williams ก็เริ่มเข้าสู่วงการฮอลลีวูดอย่างเป็นทางการในฐานะนักเปียโน โดยมีผลงานในซีรีส์ทางโทรทัศน์หลายเรื่อง เช่น Peter Gunn (1958), Some Like It Hot (1959), The Apartment (1960) ฯลฯ ก่อนที่จะได้รับโอกาสในการประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ฉายโรงเรื่องแรกจากเรื่อง Daddy-O (1958) นอกจากนี้เขายังสามารถคว้ารางวัลออสการ์มาได้สำเร็จเป็นครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง Fiddler on the Roof (1971) 

 

จากนั้น John Williams ก็มีผลงานประพันธ์ดนตรีประกอบให้กับภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมมามากกว่า 150 เรื่อง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 53 ครั้ง (นับรวมการเสนอชื่อเข้าชิงในงาน Academy Awards ครั้งที่ 95) และคว้ารางวัลมาได้สำเร็จ 5 ครั้ง ซึ่งหลายผลงานของเขาก็กลายเป็นบทเพลงสุดไอคอนิกที่เป็นที่จดจำของผู้ชมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Jaws (1975), Star Wars: Episode IV – A New Hope (1977), Superman (1978), Raiders of the Lost Ark (1981), E.T. The Extra-Terrestrial (1982), Home Alone (1990), Jurassic Park (1993), Schindler’s List (1993), Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (2001) ฯลฯ จึงส่งให้ชื่อของ John Williams กลายเป็นหนึ่งในคอมโพเซอร์ที่ได้รับการยกย่องจากผู้ชมและคนเบื้องหลังมาจนถึงปัจจุบัน  

 

โดยในปี 2016 ทาง American Film Institute (AFI) ได้มอบรางวัล AFI Life Achievement Award ครั้งที่ 44 ให้กับ John Williams ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับบุคคลที่อุทิศตนในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมอเมริกันผ่านสื่อภาพยนตร์และโทรทัศน์ ซึ่ง John Williams ถือเป็นคอมโพเซอร์คนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ อีกทั้งผลงานของ John Williams ยังถูกรับเลือกให้อยู่ในลิสต์ 25 ดนตรีประกอบภาพยนตร์อเมริกันที่ดีที่สุดตลอดกาลที่จัดโดย AFI ถึง 3 เรื่องด้วยกันได้แก่ Star Wars: Episode IV – A New Hope, Jaws และ E.T. the Extra-Terrestrial  

 

ภาพ: Universal Pictures  

 

การโคจรมาพบกันของสองตำนานแห่งโลกภาพยนตร์ 

 

หากดูจากผลงานเด่นของ John Williams ที่เราหยิบยกมากล่าวถึงคร่าวๆ เราจะเห็นชื่อผลงานการกำกับของ Steven Spielberg อยู่หลายเรื่องด้วยกัน โดย Steven Spielberg และ John Williams มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันมาแล้วมากถึง 29 เรื่อง (รวมผลงานล่าสุดของทั้งคู่อย่าง The Fabelmans) จึงเรียกได้ว่าดนตรีประกอบจากปลายปากกาของ John Williams กลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในภาพยนตร์ของ Steven Spielberg ก็คงไม่ผิดนัก

 

The Sugarland Express (1974)

 

โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Steven Spielberg ได้โคจรมาพบกับ John Williams ครั้งแรก ต้องย้อนเวลากลับไปในช่วงปี 1974 เมื่อ Steven Spielberg ที่ ณ เวลานั้นเขายังเป็นเพียงผู้กำกับหน้าใหม่ที่กำลังวางแผนสร้างภาพยนตร์ฉายโรงเรื่องแรกของตนเองอย่าง The Sugarland Express (1974) โดย Steven Spielberg มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่อง The Reivers (1969) และรู้สึกประทับใจกับดนตรีประกอบของ John Williams จึงทำให้เขาอยากชวนคอมโพเซอร์คนนี้มาร่วมงานด้วย 

 

Steven Spielberg และ John Williams ได้มาพบกันครั้งแรกที่ร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง ซึ่ง John Williams ค่อนข้างตกใจที่เห็นผู้กำกับหนุ่มอายุราวๆ 20 ปีที่ดูจะประหม่ากับการพบปะกันในสถานที่สุดหรู แต่ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกประทับใจกับ Steven Spielberg ที่เคารพและให้เกียรติเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ รวมถึงความหลงใหลที่ Steven Spielberg มีต่อผลงานของเขา นั่นจึงทำให้ John Williams ตัดสินใจร่วมประพันธ์ดนตรีประกอบให้กับ Steven Spielberg ในภาพยนตร์เรื่อง The Sugarland Express และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของสองตำนานแห่งโลกภาพยนตร์ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานถึง 50 ปี  

 

 

Jaws (1975) – Main Title  

 

ตลอดระยะเวลาร่วม 50 ปี Steven Spielberg และ John Williams ได้สร้างสรรค์ภาพยนตร์และดนตรีประกอบอันเป็นที่จดจำของผู้ชมออกมามากมายหลายเรื่อง เช่น Jaws ภาพยนตร์สุดระทึกกับการใช้เสียงทุ้มต่ำของตัวโน้ตสองตัวที่ทำให้ผู้ชมต้องขวัญผวาไปกับเจ้าฉลามสุดโหด และส่งให้ชื่อของทั้งคู่กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง 

 

Raiders of the Lost Ark (1981) – Raiders March 

 

Raiders of the Lost Ark ภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยสุดคลาสสิกกับเพลง Raiders March ที่ทำให้เรานึกถึง Harrison Ford ในบทบาทของ Indiana Jones ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้บรรเลงขึ้น

 

 

Schindler’s List (1993) – Theme From Schindler’s List 

 

หรือ Schindler’s List (1993) หนึ่งในผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ส่งให้ Steven Spielberg สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมมาได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ขณะที่ John Williams ก็ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยมมาได้สำเร็จเช่นกัน 

j

 

The Fabelmans (2022)

ภาพ: Universal Pictures  

 

The Fabelmans ภาพยนตร์ครบรอบ 50 ปีการร่วมงานกันระหว่าง Steven Spielberg และ John Williams

 

มาถึงผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ Steven Spielberg กับ The Fabelmans ภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในวัยเด็กของเขา โดยบอกเล่าเรื่องราวผ่าน Sammy Fabelman (Gabriel LaBelle) เด็กหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งนี้ 2 วันหนึ่งครอบครัวของเขาเดินทางไปชมภาพยนตร์เรื่อง The Greatest Show on Earth ซึ่งจุดประกายให้เขาได้ค้นพบกับมนตร์เสน่ห์ของภาพยนตร์ และผลักดันให้เขาเริ่มต้นสร้างภาพยนตร์ของตัวเองขึ้นมา 

 

และนอกจากที่ The Fabelmans จะเป็นภาพยนตร์ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงที่สุดของ Steven Spielberg แล้ว นี่ยังเป็นผลงานครบรอบ 50 ปีการร่วมงานกันระหว่าง Steven Spielberg และ John Williams อีกด้วย โดย Steven Spielberg ได้เล่าถึงสิ่งสำคัญของดนตรีประกอบจาก John Williams ที่ส่งผลมาถึงภาพยนตร์ของเขาผ่านคลิปโปรโมตของค่าย Universal Pictures ไว้ว่า  

 

“ผมคิดว่าคุณูปการที่ John ทำกับภาพยนตร์ของผมทุกเรื่องนั่นมากมายนับไม่ถ้วน มันเป็นธรรมชาติและเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม เมื่อภาพยนตร์ทำหน้าที่ได้ดี ดนตรีจะไม่โดดเด่นเกินหน้าภาพยนตร์ หรือภาพยนตร์จะไม่กลบเสียงดนตรี มันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างดนตรีและภาพ ระหว่างการเล่าเรื่องผ่านดนตรี และการเล่าเรื่องผ่านตัวอักษร John เขียนบทภาพยนตร์ของผมขึ้นใหม่ด้วยดนตรีของเขา ถ้าผมมีบทจากนักเขียน 6 ดราฟต์ John จะเป็นดราฟต์ที่ 7 และดราฟต์สุดท้าย และนั่นคือดราฟต์ที่ผมจะใช้”

 

ขณะที่ John Williams เล่าถึงสิ่งที่เขาได้รับจากการร่วมงานกับ Steven Spielberg มาตลอด 50 ปีไว้ว่า “ดูสิ่งที่เขา (Steven Spielberg) มอบให้กับผมสิ ผืนผ้าใบที่เขามอบให้ผมมามากกว่า 50 ปีจากการเขียนเพลงเพื่อทุกสิ่ง ตั้งแต่ Jurassic Park ถึง Schindler’s List เขามอบสิ่งเหล่านั้นให้กับสาธารณชนและผู้คนทั่วโลก และ The Fabelmans ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือของขวัญชิ้นพิเศษ”

 

และแม้ว่า ณ เวลานี้ John Williams จะก้าวเข้าสู่วัย 90 ปี และมีความตั้งใจที่จะเกษียณตัวเองจากการเป็นคอมโพเซอร์ภาพยนตร์ ภายหลังจากผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายอย่าง Indiana Jones and the Dial of Destiny ซึ่งมี Steven Spielberg เป็นโปรดิวเซอร์ และกำกับโดย James Mangold ออกฉาย แต่เขาให้สัมภาษณ์ภายในอีเวนต์ฉลองครบรอบ 50 ปีของทั้งคู่ที่จัดขึ้นโดย American Cinematheque ว่า หาก Steven Spielberg ชวนให้เขามาร่วมงานด้วยอีกครั้ง เขาจะตอบตกลงอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เราเห็นถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของทั้งคู่ที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานระดับมาสเตอร์พีซด้วยกันมาอย่างยาวนานกว่า 5 ทศวรรษ 

 

“Steven เป็นหลายสิ่ง เขาเป็นทั้งผู้กำกับ เป็นโปรดิวเซอร์ เป็นหัวหน้าสตูดิโอ เป็นนักเขียน เป็นคนใจบุญ เป็นนักศึกษา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ใช่ คือเป็นชายที่คุณจะสามารถพูดว่า ‘ไม่’ ได้”

 

The Fabelmans มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ The Fabelmans ได้ที่:

 

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง: 


 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising