จากกรณีที่ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ได้ตามกำหนด จากปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการจัดทำงบการเงิน และอาจมีประเด็นเกี่ยวกับการทุจริตภายใน ส่งผลให้มูลค่าบริษัทของ STARK ดิ่งลงอย่างหนักจากกว่า 3 หมื่นล้านบาท มาเหลือเพียง 2.9 พันล้านบาท
ล่าสุด STARK ได้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องทุกข์ดำเนินคดีของบริษัทต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด
รวมถึงให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการแสวงหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกประกอบการสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) โดยบริษัทได้ให้ความร่วมมือ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับบริษัท
บริษัทชี้แจงเพิ่มเติมว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงการดำเนินการขั้นต้น บริษัทมีความเชื่อมั่นต่อดีเอสไอและ ปอศ. ว่าจะสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีลงโทษได้ตามกฎหมาย ตลอดจนติดตามเอาทรัพย์สินที่ถูกกระทำโดยทุจริตจากผู้กระทำความผิดคืนกลับให้แก่บริษัท เพื่อเป็นการเยียวยาบรรเทาความเสียหายที่บริษัทได้รับ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้กระบวนการทางกฎหมายอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน บริษัทจึงยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงหรือเปิดเผยรายละเอียด ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้
การเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนเอกสารแนบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ดีเอสไอและ ปอศ. ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่นั้นย่อมทำให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนอาจเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าและข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ (ตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะในภายหลังต่อไป
