ระยะหลังมานี้ เทรนด์อาหารแนว ‘Plant-based’ ที่มีส่วนผสมจากพืชและไม่มีเนื้อสัตว์เจือปน กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากอุตสาหกรรมอาหารและเชนธุรกิจอาหารทั่วโลก สอดรับกับพฤติกรรมการทานอาหารวีแกนของคนรักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมา แบรนด์ร้านอาหารจำนวนไม่น้อยก็เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของการนำวัตถุดิบรูปแบบนี้มาใช้กันแล้ว
ล่าสุด Starbucks เชนร้านกาแฟระดับโลกกลายเป็นแบรนด์ล่าสุด ที่ประกาศตัวเตรียมเพิ่มเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่เป็น Plant-based เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และยกระดับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายในร้านให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามพันธกิจหลักของบริษัทที่ได้ประกาศออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ
รายงานเพิ่มเติมจากโฆษกของ Starbucks ระบุว่า เมนูใหม่ของ Starbucks ที่เป็น Plant-based จะมาในรูปแบบเมนูอาหารเช้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางสตาร์บัคส์ยังไม่ได้ยืนยัน หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นนี้แต่อย่างใด
เควิน จอห์นสัน ซีอีโอของ Starbucks ได้ประกาศพันธกิจใหม่ของบริษัทออกมาโดยมุ่งเน้นไปที่การทำธุรกิจเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ประกอบด้วยแนวทางการดำเนินงาน 5 ส่วนสำคัญได้แก่
- เพิ่มเมนูอาหารใหม่ๆ ที่เป็น Plant-based
- ยกเครื่องบรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวมาเป็นบรรจุภัณฑ์แบบ Reusable
- ลงทุนในนวัตกรรมและการปฏิรูปด้านการเกษตร, การฟื้นฟูป่า, การอนุรักษ์ป่าและน้ำ โดยทั้งหมดจะเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชน Starbucks
- ลงทุนในนวัตกรรมการจัดการขยะทั้งภายในร้านและชุมชนของ Starbucks เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการรียูส การรีไซเคิล และการจัดการกับ Food Waste ที่ถูกวิธี
- พัฒนาสโตร์หน้าร้านของตัวเองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งในเชิงการจัดการ กระบวนการผลิตสินค้าและบริการ ตลอดจนการขนส่ง
ซีอีโอ Starbucks กล่าวว่า “ความยั่งยืนถือเป็นแกนหลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ Starbucks มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท สอดคล้องกับความเชื่อของเราในการสร้างธุรกิจที่ยอดเยี่ยม และผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและผู้คน
“นอกจากนี้ในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า Starbucks จะทำให้กระบวนการของเราในการเดินทางไปสู่เป้าหมายมีความโปร่งใสทั้งในระยะยาว-สั้น ด้วยการตั้งเป้าหมายเบื้องต้นสำหรับปี 2030 ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการวิจัย และแผนการดำเนินการของธุรกิจเรา ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1. ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 50% ในซัพพลายเชนของบริษัท 2. ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์น้ำ และแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงต่อความแห้งแล้ง
“และ 3.50% ของการลดขยะจากสโตร์และโรงงานจะถูกส่งไปยังพื้นที่ฝังกลบ โดยต่อจากนี้จะร่วมกับองค์กรการกุศล Ellen MacArthur Foundation เพื่อตั้งเป้าพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
ทันทีที่ Starbucks ประกาศแผนการดำเนินงานดังกล่าวออกไป หุ้นของ Beyond Meat สตาร์ทอัพผู้ผลิตเนื้อสัตว์แบบ Plant-based ทั้งเนื้อวัว, ไก่, หมู หรือไส้กรอกในสหรัฐฯ ก็ดีดตัวขึ้นสูงทันทีกว่า 18.4% โดยปิดตลาดที่ 129.18 ดอลลาร์สหรัฐ
เนื่องจากปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของพวกเขาถูกนำไปใช้งานกับเชนร้านฟาสต์ฟู้ดหลายแห่ง เช่น Dunkin, A&W, McDonald’s และ Carl’s Jr. จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ไลน์อัพผลิตภัณฑ์ Plant-based ของบริษัทอาจจะถูกนำไปใช้กับร้าน Starbucks ด้วยนั่นเอง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: