เชฟและเจ้าของร้าน เจย์-สายนิสา แสงสิงแก้ว เล่าให้ฟังว่า ในช่วงเวลาที่ทุกคนไม่สามารถเดินทางได้ตามปกติเหมือนเคย หลายคนอาจจะคิดถึงการเดินทางไปกินของอร่อยถึงประเทศต่างๆ เชฟเจย์จึงหยิบความอยากท่องเที่ยวกินอาหารอร่อยนี้ขึ้นมาเป็นธีมในการสร้างสรรค์ Tasting Menu ใหม่ของทางร้านที่มีชื่อว่า ‘Menu 5.0: World Street Food’ โดยหยิบแรงบันดาลใจจากสตรีทฟู้ดเมนูดังจากหลายประเทศรอบโลกขึ้นมาปรุงใหม่ในสไตล์ French Fine Dining ที่ทางร้านถนัด ที่คงความเนี้ยบพิถีพิถันสไตล์ครัวสตาชไว้ทุกประการ แต่เพิ่มความสนุกด้วยหลากหลายรสชาติจัดจ้านที่คาดไม่ถึง
ไฮไลต์จานที่น่าสนใจอย่างเช่น Taro Bibimbap ของทานเล่นคำแรกที่เชฟเจย์เสิร์ฟเผือกทอดกรอบกับซอสบิบิมบับรสเผ็ดแบบเกาหลี ท็อปด้วยชีส เป็นการเปิดตัวด้วยรสจัดจ้านเปิดปุ่มรับรสสำหรับจานถัดๆ ไป ตามมาด้วย Torus Waffle คำนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Vodka & Caviar ของโปรดชาวรัสเซีย ที่เลือกใช้แป้งวาฟเฟิลมาทอดวางเป็นฐาน วางด้านบนด้วยซาวครีมและคาร์เวียร์ เสิร์ฟคู่กันกับวอดก้าที่ไม่ใช่วอดก้า แต่เป็นม็อกเทลจากน้ำองุ่นและน้ำเลมอน ทานคู่กันให้ได้อารมณ์เหมือนไปกินวอดก้าและคาร์เวียร์ถึงที่
จานหลักเชฟเจย์ยังหยิบ Bao Bun สไตล์จีนเสิร์ฟมาในเข่งติ่มซำ แต่เปลี่ยนโปรตีนหลักเป็นฟัวกราส์ ปรุงรสด้วยซอสเอ็กซ์โอ ตัดเลี่ยนด้วยกะหล่ำม่วงและแอปเปิ้ล ส่วนใครที่ชื่นชอบอาหารโซนอเมริกาใต้ เชฟเจย์เลือกเมนูอย่าง Tuna Tiradito จานดิบของเปรูที่มีส่วนผสมของทูน่า พริกฮาลาพีญโญ และวินิเกรตมะม่วง โดยเพิ่มความเป็นเอเชียเข้าไปด้วยผักแพวและหัวปลี หากใครที่กำลังคิดถึงการท่องเที่ยว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาท่องเที่ยวผ่านอาหารเมนู 5.0 จากสตาชก็ถือเป็นทางเลือกที่ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
Menu 5.0: World Street Food มีให้เลือกแบบ 5 คอร์ส (1,900 บาท), 7 คอร์ส (2,900 บาท) และ The Stage Experience 10 คอร์ส (3,900 บาท) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/stagebkk
Stage เปิดบริการทุกวัน 18:00-23:00 น.
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล