×

บริษัทแม่ลูก ‘STA-STGT’ กอดคอทำกำไรปี ‘63 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมประกาศจ่ายปันผล 1.75 บาท และ 2 บาทต่อหุ้น

17.02.2021
  • LOADING...
บริษัทแม่ลูก ‘STA-STGT’ กอดคอทำกำไรปี ‘63 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมประกาศจ่ายปันผล 1.75 บาท และ 2 บาทต่อหุ้น

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อผลดำเนินงานของธุรกิจในหลายๆ บริษัท 

 

แต่สำหรับ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจร โดยมีบริษัทลูก บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมรายใหญ่ของโลก โดยนับเป็นไม่กี่บริษัทที่ได้อานิสงส์เต็มๆ จากการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว เพราะทำให้ความต้องการถุงมือยางเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลให้ในปี 2563 ทาง STA และ STGT สามารถทำกำไรสุทธิได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

 

กิติชัย สินเจริญกุล กรรมการ STA รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 9,531 ล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 148.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นประมาณ 6,518% 

 

การเติบโตของกำไรสุทธิได้แรงหนุนจากธุรกิจถุงมือยางที่สามารถสร้างสถิติใหม่ในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธุรกิจยางธรรมชาติสามารถทำกำไรได้ดีท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน พร้อมทั้งมีต้นทุนทางการเงินลดลง 22.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการชำระคืนเงินกู้บางส่วนของ STGT ภายหลังจากที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งการลดลงของเงินกู้ยืมระยะสั้นใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบยางธรรมชาติ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงินที่ลดลง

 

กิติชัย ยังรายงานตลาดหลักทรัพย์ด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ มีมติอนุมัติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น จ่ายเงินปันผลจากผลดำเนินงานปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 2.25 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,456 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.50 บาท เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ดังนั้น บริษัทยังคงเหลือเงินปันผลที่ต้องจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 1.75 บาท 

 

ด้าน ธนวรรณ เสงี่ยมศักดิ์ กรรมการ STGT รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 14,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2,245% และถือเป็นกำไรสุทธิที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

 

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ความต้องการถุงมือยางเพิ่มสูงขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก โดยบริษัทถือเป็นผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก มียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นจนสร้างสถิติใหม่ทั้งปริมาณการขายและราคาขายเฉลี่ย 

 

ธนวรรณ รายงานด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ มีมติให้บริษัทเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 รวม 2.625 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 7,501 ล้านบาท โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท จึงยังคงเหลือเงินปันผลที่จ่ายสำหรับงวดนี้อีก 2 บาทต่อหุ้น 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising