ถึงวันนี้ ‘ซอสพริกศรีราชา’ ก็ยังขาดตลาดอยู่ แถมลากยาวมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว Huy Fong Foods ผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกาต้องหยุดผลิตชั่วคราวจากปัญหาภัยแล้ง ทำให้วัตถุดิบพริกไม่เพียงพอ จนสินค้าขนาด 500 ml ที่ขายในออนไลน์ราคาสูงถึง 1,000 บาท
Huy Fong Foods ผู้ผลิตซอสพริกในสหรัฐฯ ระบุว่า ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้ส่งจดหมายหาร้านค้าว่าบริษัทได้หยุดกระบวนการผลิตซอสพริกศรีราชาชั่วคราว เนื่องจากเม็กซิโกเริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตของพริกซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำมากลดลงไปด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ลอดลายมังกรฉบับเวียดนาม ‘เดวิด ทราน’ สร้างตำนาน ‘ซอสพริกศรีราชา’ ที่อเมริกาจนกลายเป็นเจ้าสัวพันล้านได้อย่างไร?
- การขาดแคลน ‘ซอสศรีราชา’ ในอเมริกา ทำให้ราคาขายต่อพุ่งขึ้นจาก 175 บาท เป็น 2,500 บาท จนถูกมองว่ากำเงินไปซื้อหุ้น Coca-Cola, PayPal หรือ Pfizer น่าจะคุ้มกว่า
- ข่าวร้ายแห่งปี! ชาวอเมริกันโอดครวญ ‘ซอสพริกศรีราชา’ กำลังขาดแคลน เพราะไม่มี ‘พริก’ มาผลิตสินค้า
แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อการผลิตซอสพริก และเราได้พิจารณาแล้วว่าหากนำพริกหยวกมาใช้ผลิตแทนจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และสีของผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ในทวีปอเมริกาจะมีพริกที่สามารถนำไปทำซอสพริกศรีราชาได้ทั้งหมด 5 สายพันธุ์ กระจายตัวอยู่ในประเทศต่างๆ ตั้งแต่เม็กซิโกไปจนถึงโบลิเวีย ซึ่งพริกเหล่านี้ถูกนำไปใช้ผลิตซอสรสเผ็ดชนิดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
โดยหลังจากซอสพริกศรีราชาขาดตลาด ทำให้ร้านค้าบางรายที่ได้กักตุนสินค้าไว้จำนวนมากนำสินค้ามาขายในราคาสูงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น eBay และ Amazon
จากเดิมซอสพริกศรีราชา ขนาด 500 ml จะจำหน่ายในราคาประมาณ 16.75 ดอลลาร์ (614 บาท) แต่เมื่อมาดูที่ราคาขายขวด 500 ml ในปัจจุบันซื้อ 2 ขวดจะอยู่ในราคา 54.49 ดอลลาร์ (2,000 บาท) เฉลี่ยแล้วราคาอยู่ที่ 27 ดอลลาร์ต่อขวด (1,000 บาท) เรียกได้ว่ามีราคาแพงขึ้น 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตซอสพริกในสหรัฐฯ รายดังกล่าวย้ำว่าจะกลับมาเดินสายการผลิตทันทีที่บริหารจัดการวัตถุดิบได้แล้ว ขณะที่ซัพพลายเออร์ก็ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะสามารถจัดส่งสินค้าได้มากน้อยแค่ไหน
เรียกได้ว่าสร้างผลกระทบให้ร้านอาหารและผู้บริโภค แม้ในสหรัฐฯ จะมีแบรนด์ซอสพริกหลากหลายแบรนด์
แต่แบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือซอสพริกศรีราชาของ Huy Fong Foods ที่ปกติแล้วจะขายได้ประมาณ 10 ล้านขวดต่อปี
อ้างอิง: