วันนี้ (22 เมษายน) พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวเพชรบูรณ์’ ที่โรงเรียนวิทยานุกูลนารี อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ นำโดย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย
สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหลืออีก 22 วัน จะเข้าคูหาเลือกตั้งแล้ว พรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนว่าจะปราบปรามยาเสพติดให้สิ้นซาก โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใด ขอให้ประชาชนจังหวัดเพชรบูรณ์ทั้ง 6 เขต เลือกพรรคเพื่อไทย
ด้านเศรษฐากล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขปัญหาปากท้องกับพี่น้องประชาชน ขณะนี้ค่าไฟแพง ทำให้รายจ่ายของพี่น้องประชาชนสูงขึ้น พรรคเพื่อไทยยอมรับไม่ได้ วันนี้ พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้ามารับฟังปัญหาที่นี่ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเราจะจัดการเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน และค่าน้ำมันดีเซลต้องต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร
พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันนี้ มีการหาเสียงอย่างมากมายว่าจะทำให้ค่าน้ำ ค่าไฟถูกลง เหตุใดจึงมาพูด เหตุใดไม่ทำในตอนนี้ รัฐบาลบริหารจัดการมา 8 ปี ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเขาทำไม่ได้ ไม่มีความสามารถในการจัดการ ถึงเวลาแล้วที่พรรคเพื่อไทยต้องเข้ามาจัดการปัญหานี้
ส่วนราคาสินค้าเกษตรในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ราคายางกิโลกรัมละ 80-100 บาทได้ พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดเรื่องการตลาดนำ นวัตกรรมเสริม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คนจะเดินทางออกไปทั่วโลกเพื่อเอาสินค้าดีๆ ของพี่น้องประชาชนไปขายขยายตลาดทำให้ราคาดีขึ้น นวัตกรรมต่างๆ ที่เรามาช่วยเสริม เช่น ปุ๋ยเคมีจะทดแทนด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ทำให้รายจ่ายต่ำลง และรายได้สุทธิสูงขึ้น เราเชื่อมั่นว่ารายได้เกษตรกรต่อปีจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า และราคาค่าแรงขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้น 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ภายใน 4 ปี พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น เราทำได้
เศรษฐากล่าวอีกว่า พรรคคู่แข่งมีการกระแนะกระแหนว่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลจะทำไม่ได้ ตนยืนยันตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย นำนโยบายดีๆ มานำเสนอให้ประชาชนและทำได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็น 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ OTOP ดังนั้นนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถึงมือพี่น้องประชาชนแน่นอน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนให้เกิดขึ้นโดยเร็ว รัฐบาลปัจจุบันเยียวยาแบบหยอดข้าวต้ม 500-1,000 บาท ไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่ปัญหาเดียวที่จะอยู่ในขั้วหัวใจของพรรคเพื่อไทย ปัญหาใหญ่มากที่ตนไปพบประชาชนทั่วประเทศมาคือปัญหายาเสพติด เรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ซึ่งผู้นำระดับประเทศต้องให้ความสำคัญ ผู้เสพจะต้องถูกเปลี่ยนให้เป็นผู้ป่วย เมื่อรักษาหายแล้วก็จะต้องหาอาชีพให้เสริมให้พวกเขา สอนให้พวกเขามีวิธีการทำมาหากินจะได้ไม่หวนกลับมาเสพยาอีก ยาเสพติดมีหลายหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง หากนายกรัฐมนตรีไม่ลงมาดูแลเอง ไม่ลงมาเป็นเจ้าภาพ จะแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ ถ้านายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เราจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการปัญหาทุกเรื่องของยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย
“8 ปีเพียงพอแล้วสำหรับคนที่ได้บริหารจัดการประเทศวันนี้ ตัวผมและพรรคเพื่อไทย วันนี้เรามาพร้อมกัน เพื่อขอใจพี่น้องชาวเพชรบูรณ์ทุกท่านให้ได้มีโอกาสเข้าไปจัดการปัญหาคาราคาซังที่นานเกินควร ให้เรามีโอกาสทำสิ่งที่ดีๆ เพื่อนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า มีเกียรติมีศักดิ์ศรีให้กับพี่น้องประชาชน เรามาขอทุกคะแนนเสียงในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ให้เลือก ส.ส. เพชรบูรณ์ จากพรรคเพื่อไทยทั้ง 6 คนเข้าสู่สภา ตนขอให้ทราบว่าพรรคเพื่อไทยเบอร์ 29 อย่าให้ใครมาบอกว่าเป็นพรรคพี่ พรรคน้อง กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” เศรษฐากล่าว