วันนี้ (17 เมษายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับ คริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ที่ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้นได้มีพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่นายกฯ นิวซีแลนด์จะหารือร่วมภาครัฐ-เอกชน และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ 2 ฉบับ คือ
- ความตกลงด้านการศึกษาระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยแมสซีย์ ประเทศนิวซีแลนด์
- ความตกลงด้านการจัดหา ซ่อมแซม และการบำรุงรักษา ระหว่าง Thai Aviation Industries Co., Ltd. ประเทศไทย และ NZSkydive Limited ประเทศนิวซีแลนด์
หลังจากนั้นนายกฯ ไทยและนิวซีแลนด์แถลงข่าวร่วมกัน โดยชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการแถลงข่าว ดังนี้
นายกฯ ระบุว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับนายกฯ นิวซีแลนด์และคณะ ในโอกาสเยือนไทยในรอบ 11 ปี โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าการหารือร่วมกับคณะภาคเอกชนนิวซีแลนด์ในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างโอกาสการลงทุนในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมและโครงการเป้าหมายของไทย รวมถึงในโครงการแลนด์บริดจ์
- ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในปี 2026 หรือเร็วกว่านั้น ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกมิติ
- ส่งเสริมความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง และเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์และยาเสพติด ความมั่นคงทางไซเบอร์ รวมถึงการก่อการร้าย และแนวคิดสุดโต่ง
- ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทยและนิวซีแลนด์ ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 3 เท่าภายในปี 2045 ซึ่งจะสอดคล้องกับความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ และกระชับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงเทคโนโลยีการเกษตร การเกษตรอัจฉริยะ เทคโนโลยีอาหาร พลังงานหมุนเวียน การแพทย์แม่นยำ และเทคโนโลยีดิจิทัล
- ส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ด้านการศึกษา และวัฒนธรรม ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
- ด้านการท่องเที่ยว การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตรา และการกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกัน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์มาไทยเป็น 100,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวไทยไปนิวซีแลนด์เป็น 40,000 คน ภายในปี 2025
- นายกฯ ขอบคุณนิวซีแลนด์ที่พร้อมพิจารณาให้การสนับสนุนไทยในการขอเข้าเป็นสมาชิก OECD รวมถึงสนับสนุนผู้แทนของไทยในการลงสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (HRC) สำหรับวาระปี 2025-2027
- ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวกับภูมิภาค และประเด็นของโลก สำหรับสถานการณ์เมียนมา ไทยได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหวังว่าทุกฝ่ายจะเดินหน้าไปสู่การเจรจาอย่างสันติและปฏิบัติตามฉันทมติ 5 ข้อของอาเซียน