×

สัมภาษณ์ซงจุงกิ คิมแทรี ชินซอนกยู ยูแฮจิน จาก Space Sweepers รุ่งอรุณของหนังไซไฟอวกาศเกาหลี

04.02.2021
  • LOADING...
สัมภาษณ์ซงจุงกิ คิมแทรี ชินซอนกยู ยูแฮจิน จาก Space Sweepers รุ่งอรุณของหนังไซไฟอวกาศเกาหลี

HIGHLIGHTS

6 mins. read
  • Space Sweepers เป็นโปรเจกต์ที่ 2 ของผมกับผู้กำกับโจซองฮี ตอนที่ผมร่วมงานกับเขาในเรื่อง A Werewolf Boy (2012) ผมก็ได้ยินเรื่องขยะอวกาศจากผู้กำกับโจแล้วนะครับ จนเกือบสิบปีผ่านมา ผมรู้ว่าเขากำลังทำโปรเจกต์นี้ก็ตกลงเลยครับ” – ซงจุงกิ 
  • “ฉันตกหลุมรักตัวบท และพอได้เจอกับผู้กำกับก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือมาก เลยได้เริ่มทำผลงานชิ้นนี้ พอได้ลองทำจริงๆ แล้วยากกว่าที่คิดไว้มากเลยค่ะ ส่วนตัวฉันคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ผ่านมาได้ด้วยดีก็คือ ทีม Victory ของพวกเรา” – คิมแทรี

Space Sweepers เป็นภาพยนตร์ไซไฟอวกาศเรื่องแรกจากเกาหลีใต้ที่ใช้ทุนสร้างราว 24 พันล้านวอน หรือราว 646 ล้านบาทไทย นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของผู้กำกับโจซองฮี ทีมงานสร้าง รวมถึงทีมนักแสดงที่ทุ่มเทกันสุดตัวเพื่อให้ผลงานของพวกเขาขึ้นไปยืนอยู่ในลีกที่ว่า ‘ผลงานระดับโลก’ โดยที่ไม่ลืมใส่หัวใจความเป็นเอเชีย ด้วยการส่งภาพยนตร์ที่ไม่มียอดมนุษย์ใส่ชุดแบบฮอลลีวูด แต่เป็นกลุ่ม ‘ภารโรงอวกาศ’ ชาวเกาหลีที่ขึ้นไปอยู่บนนั้นแทน 

 

ซงจุงกิ คิมแทรี ชินซอนกยู ยูแฮจิน นั่งอยู่ข้างๆ กัน กั้นด้วยแผ่นใสรักษาระยะห่าง และแม้ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอลจากกรุงโซล เกาหลีใต้ ก็ต้องยอมรับว่าความสนิทสนมของนักแสดงที่มีทั้งมุกตลกโยนให้กัน หรือให้เกียรติกันและกัน ทำให้เราเชื่อว่าได้ขึ้นยาน Victory ไปคุยกับพวกเขามาจริงๆ

 

เรื่องราวแบบย่นย่อของ Space Sweepers เล่าถึงยานอวกาศ Victory ที่รวมลูกเรือไม่ธรรมดา ซงจุงกิ รับบท แทโฮ นักบินอวกาศอัจฉริยะ, คิมแทรี รับบท กัปตันจาง อดีตโจรสลัดอวกาศ, ชินชอนกยู รับบท ไทเกอร์พัค วิศวกรเครื่องกลยานอวกาศ และ ยูแฮจิน รับบท บั๊บส์ หุ่นยนต์รบที่ถูกซ่อมขึ้นมาใหม่ 

 

พวกเขาคอยกีดกันภารโรงอวกาศกลุ่มอื่น และเสี่ยงชีวิตเพื่อเก็บขยะมาขาย แต่ทำเท่าไหร่ก็ได้แต่เงินน้อยนิดไม่กี่สตางค์ ซึ่งต่างจากตัวเอกเท่ๆ ในภาพยนตร์ไซไฟของฮอลลีวูดที่มีพร้อมสมบูรณ์ เรื่องราวของพวกเขาจะทำให้เราสัมผัสถึงชีวิตธรรมดาๆ ที่เต็มไปด้วยความกังวล ไม่ต่างอะไรจากพวกเราที่ใช้ชีวิตหาเลี้ยงปากท้อง ไม่เคยแม้แต่จะคิดการใหญ่ไปกู้โลกอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งได้พบกับหุ่นยนต์ดรอยด์ในรูปแบบเด็กหญิงที่ทำให้ชีวิตพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปในทันที

 

Space Sweepers

ซงจุงกิ Space Sweepers

 

เริ่มต้นด้วยการให้คุณอธิบายถึง Space Sweepers สักหน่อย

 

ซงจุงกิ: Space Sweepers เป็นหนังไซไฟอวกาศเรื่องแรกของเกาหลี ภาพยนตร์แอ็กชันที่มีทั้งความสนุกสนานและความประทับใจ รู้สึกว่าในที่สุดเกาหลีก็มีหนังอวกาศที่มียานอวกาศบินไปมาทั่วอวกาศที่กว้างใหญ่สักที เรื่องราวของกัปตันจาง สุดยอดผู้นำ, ผม แทโฮ, ไทเกอร์พัค ที่รับบทโดย พี่ซอนกยู รวมไปถึงบั๊บส์ พวกเราสี่คนเป็นกลุ่มภารโรงทำหน้าที่เก็บกวาดขยะอวกาศ ที่แทบจะหาเงินไม่ได้เลย

 

ผมรับบทเป็น คิมเทโฮ ในอดีตเขาเป็นผู้นำของกองทหารพิเศษของ UTS แต่มีเหตุการณ์พลิกผันที่ทำให้เขาต้องออกจากงาน จนเขาได้มาพบกับเหล่าสมาชิกของยาน Victory โดยมีชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบาก ซึ่งเขามีภารกิจกับตัวเองบางอย่างที่จะต้องพยายามทำให้สำเร็จ และเขายังทำหน้าที่เป็นนักบินหลักของยาน Victory นี้ด้วย

 

ถ้าอย่างนั้น อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจรับงานแสดงนี้

 

ซงจุงกิ: Space Sweepers เป็นโปรเจกต์ที่ 2 ของผมกับผู้กำกับโจซองฮี ตอนที่ผมร่วมงานกับเขาในเรื่อง A Werewolf Boy (2012) ผมก็ได้ยินเรื่องขยะอวกาศจากผู้กำกับโจแล้วนะครับ จนเกือบสิบปีผ่านมา ผมรู้ว่าเขากำลังทำโปรเจกต์นี้ก็ตกลงเลยครับ บทผมยังไม่อ่านด้วยซ้ำ พล็อตเรื่องเปลี่ยนไปจากที่เคยได้ยินด้วย ซึ่งมันสดใหม่มากสำหรับผม

 

ชินชอนกยู: แต่ผมอ่านบทนะครับ (ชินชอนกยู สร้างเสียงหัวเราะด้วยการแซวซงจุงกิ) ผมอ่านแล้วมองเห็นความตั้งใจที่จะสร้างงานที่ยิ่งใหญ่นี้ ผมตัดสินใจรับเล่นตอนที่ได้เจอกับผู้กำกับเลยครับ ผมยอมใจในแพสชันของเขาจริงๆ

 

ยูแฮจิน: ผมเองก็อ่านบทก่อนเหมือนกันครับ อย่างผมเองที่ต้องเล่นเป็นหุ่นยนต์ ในช่วงแรกก็ยังกังวลเพราะมองไม่เห็นภาพมากนัก แต่พอได้พูดคุยกับผู้กำกับ ผมก็พบว่าเขามีทักษะอย่างเหลือเชื่อ มีวิสัยทัศน์ และมีภาพในหัวที่ชัดเจนมาก งานกำกับภาพต่างๆ ของเขาทำให้ผมทึ่งมากจริงๆ และการทำงานกับเขาเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ

 

คิมแทรี: หลังจากอ่านสคริปต์แล้ว ฉันพบว่ามันสุดยอดมากเลยค่ะ หลังจากที่ฉันได้เจอกับผู้กำกับ ฉันพบว่าเขาเป็นคนที่มีแพสชันมาก และเห็นภาพที่ชัดเจน ทำให้การเตรียมงานในแต่ละขั้นตอนมีความละเอียดสูง เราทำงานได้ง่ายมากค่ะ

 

ฟังพวกคุณแบบนี้แล้ว สงสัยว่าบรรยากาศตอนถ่ายทำน่าจะสนุกมากๆ

 

คิมแทรี: สนุกมากๆ ค่ะ เพราะเป็นเรื่องราวของเหล่าลูกเรือ Victory ที่รวมตัวอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัว ภายใต้คำสั่งของกัปตันจาง บรรยากาศในการทำงานกับรุ่นพี่ดีมากๆ ตั้งแต่ตอนเริ่ม กับทีมงานก็ค่อยๆ สนิทกันขึ้นเรื่อยๆ เป็นบรรยากาศการถ่ายทำที่ได้รับพลังซึ่งกันและกัน

 

Space Sweepers

 

ไทเกอร์พัค ดูต่างจากตัวจริงคุณมากเลย เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเขาและการทำงานของคุณหน่อย

 

ชินซอนกยู: ผมรับบทเป็น ไทเกอร์พัค เขาดูเป็นคนที่แข็งแกร่งและโหดเหี้ยม แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่มีหัวใจอบอุ่นมาก เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว รักเด็ก เขาเป็นทั้งวิศวกรที่ดูแลเครื่องยนต์ของยานอวกาศ และยังรับหน้าที่เป็นเหมือนแม่บ้านที่คอยดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของยาน Victory อีกด้วย

 

ฉากที่จำได้ดีคือฉากที่ผมและทีมงานไปถ่ายทำในห้องเครื่องจริง ซึ่งในนั้นร้อนมากและเสียงดังมากๆ ซึ่งตอนถ่ายทำทีมงานก็เยอะมากเลยครับ แล้วพอเสียงเครื่องยนต์ที่ทำงานอยู่จริงๆ มันดังมากๆ ผมก็จะไม่ได้ยินเสียงคนอื่นเลย อย่างเสียงผู้กำกับโจที่สั่งคัต ผมต้องใช้สัญชาติญาณเองว่าตอนนี้คงคัตได้แล้ว (หัวเราะ) 

 

อยากให้ยูแฮจินเล่าถึงตัวละคร และการทำงานเบื้องหลัง Motion Capture ที่คุณได้ทดลองเป็นเรื่องแรก

 

ยูแฮจิน: ผมรับบท บั๊บส์ เป็นมือฉมวกที่คอยรวบรวมขยะอวกาศในยาน Victory เป็นหุ่นยนต์ทหารที่กัปตันจางเก็บมาจากศูนย์รีไซเคิล ถึงจะเขินที่ผมเป็นคนพูดเอง แต่บั๊บส์เป็นตัวละครที่น่ารักมาก ไม่ว่าจะตอนเก็บขยะหรือตอนต่อสู้กับศัตรู เขาเป็นหุ่นยนต์ที่สร้างจากเหล็ก แต่มีหัวใจที่อบอุ่น นี่คือสิ่งที่ผมตีความออกมา

 

การทำงานใน Space Sweepers ผมได้ลองแสดงแบบ Motion Capture เป็นครั้งแรกเลย ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะร่วมทำงานแค่เฉพาะการทำ After Record แต่ก็มาคิดว่าน่าจะออกมาไม่สมจริงแล้วก็มาเสียดายทีหลัง ก็เลยทำการแสดงแบบ Motion Capture ด้วยการใส่ชุดที่มีเซ็นเซอร์ติดอยู่บนตัวผมเต็มไปหมด เหมือนผมต้องเริ่มต้นเรียนรู้จากศูนย์ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มากๆ สำหรับผม 

 

พวกคุณได้ร่วมงานกับริชาร์ด อาร์มิเทจ นักแสดงชาวอังกฤษด้วย มีความประทับใจอะไรจะเล่าให้ฟังไหม

 

ซงจุงกิ: ตอนแรกที่ได้ยินว่า ริชาร์ด อาร์มิเทจ จะร่วมแสดงด้วย ผมตกใจมากเลย เพราะแต่ก่อนผมชอบดูภาพยนตร์เรื่อง The Hobbit มาก รู้สึกดีมากที่นักแสดงจากหนังใหญ่ขนาดนั้นมาร่วมเล่นหนังเกาหลีด้วย พอได้เริ่มถ่ายทำจริง รู้สึกตกหลุมรักคุณริชาร์ดเลย เป็นคนที่เท่ มีความเป็นสุภาพบุรษแบบอังกฤษ มีคาริสมาเหลือล้น และในฐานะนักแสดงด้วยกัน รู้สึกว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง รู้สึกเป็นเกียรติและเป็นการถ่ายทำที่สนุกมากครับ คิดถึงคุณริชาร์ดเลยนะครับเนี่ย

 

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอความล่มสลายของโลก ที่เสื่อมถอยจนมนุษย์ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ คุณคิดว่า Space Sweepers ให้ข้อคิดอะไรกับผู้ชมบ้าง

 

ซงจุงกิ: ผมรู้สึกว่า Space Sweepers รวมปัญหาของหลายๆ แขนงที่เกิดขึ้นจริงในสถานการณ์ปัจจุบันครับ ในความเป็นจริงบนอวกาศก็มีขยะลอยไปมาเยอะด้วย เลยเป็นจุดที่ทำให้ผู้กำกับได้เริ่มทำหนังเรื่องนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม หรือ UTS ก็ทำให้ผมนึกถึงปัญหาผู้ลี้ภัย ปัญหาชาติพันธุ์ มีหลายจุดที่คล้ายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้ในหนังจะเป็นปี 2092 แต่ก็มีส่วนคล้ายกับโลกปัจจุบันมาก ตัวผมรู้สึกแบบนั้นก็เลยคิดว่าผู้ชมน่าจะสัมผัสถึงสิ่งเหล่านี้เช่นกันครับ

 

คิมแทรี: ถ้าฟังเส้นเรื่องของหนังพวกเราแบบเผินๆ จะรู้สึกว่ามันน่ารักมากค่ะ มนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่บนโลกได้ ก็เลยออกไปนอกอวกาศ ทำให้เกิดขยะอวกาศและภารโรงอวกาศตามมา ภารโรงอวกาศต่อสู้กันเพื่อหาเงิน เป็นโครงเรื่องที่น่ารักมาก แต่ถ้าเราลองมองลึกลงไป มนุษย์เองเป็นคนที่ทำให้ที่อยู่ของตัวเองสกปรก และเหมือนจะพูดเรื่องของการไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วย คิดว่าเป็นหนังที่พอดูจบอย่างสนุกสนานแล้ว ก็ยังมีจุดที่สามารถนำมาไตร่ตรองต่อได้เยอะค่ะ 

 

ตัวละครกัปตันจาง ดูแตกต่างกับบทก่อนๆ ของคุณมาก ใน Space Sweepers เราจะได้เห็นมุมใหม่ๆ ของคุณอย่างไรบ้าง 

 

คิมแทรี: Space Sweepers เป็นผลงานที่ท้าทายสำหรับฉันมากเหมือนกันค่ะ ฉันตกหลุมรักตัวบท และพอได้เจอกับผู้กำกับก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือมาก เลยได้เริ่มทำผลงานชิ้นนี้ พอได้ลองทำจริงๆ แล้วยากกว่าที่คิดไว้มากเลยค่ะ ส่วนตัวฉันคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ผ่านมาได้ด้วยดีก็คือ ทีม Victory ของพวกเรา นักแสดงทั้งสามท่านคอยช่วยเหลือฉันตลอด เพราะ COVID-19 (ที่นั่งตอนนี้) เลยต้องมีแผ่นใสกั้น ทำให้ดูเหมือนไม่ใกล้ชิดกัน แต่จริงๆ แล้วบรรยากาศดีมากเลยค่ะ ได้ทำการแสดงในบรรยากาศที่ดีเลยทำให้ผลงานออกมาดีด้วย 

 

กัปตันจางเป็นกัปตันผู้นำยาน Victory ที่เก็บขยะอวกาศ เพราะลูกเรือแต่ละคนปั่นป่วนมาก เลยเป็นเหตุให้ต้องใช้สมองอยู่เสมอ เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ ฉลาด มีความสามารถ และเท่มาก เรียกได้ว่ากัปตันจางเป็นหัวหน้ากลุ่ม คิดว่าตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังจะได้เห็นว่าทำไมกัปตันจางถึงได้เป็นผู้นำยานอวกาศลำนี้ และทำไมถึงได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดกัปตัน

 

 

ความท้าทายที่สุดของการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้คืออะไร 

 

ซงจุงกิ: ผมคิดว่าตัวหนังเองคือความท้าทายครับ ไม่นานมานี้สตาฟฟ์ภายในได้ดูหนังเรื่องนี้และบอกกับผมว่า ระหว่างที่ดูหนังอยากจะปรบมือให้ตลอดเวลาเลย ด้วยความที่แต่ละคนมีรสนิยมในการดูหนังไม่เหมือนกัน หนังแต่ละเรื่องจึงมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยหลายๆ ด้าน แต่เขาบอกกับผมว่า “จุงกิ ระหว่างที่ดูหนังเรื่องนี้ อยากปรบมือให้ตลอดเลย” ผมรู้สึกขอบคุณมากเลยครับ

 

ผมคิดว่าความคาดหวังส่วนใหญ่อยู่บนบ่าของผู้กำกับโจ และด้วยความที่เป็นหนังอวกาศเกาหลีเรื่องแรก ความคาดหวังก็อยู่บนบ่าของพวกเราด้วยเหมือนกันครับ 

 

สุดท้าย พวกคุณคงอยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย 

 

ยูแฮจิน: เป็นหนังที่เราตั้งใจและใช้เวลาทำนานมาก การถ่ายทำก็ใช้เวลานาน แต่ในส่วนของโพสต์โปรดักชัน ผู้กำกับและฝ่ายเทคนิคก็ทุ่มเทกันมาก ทำออกมาอย่างสนุกและเท่ หวังว่าจะรักหนังของพวกเรากันนะครับ ขอบคุณครับ

 

ชินซอนกยู: Space Sweepers หนังที่น่าตื่นตาและน่ารักมาก กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้แล้วครับ ฝากทุกคนช่วยชมหนังเรื่องนี้กันด้วย หวังว่าทุกคนจะได้รับความสนุกและความสุขไปครับ

 

คิมแทรี: ฉันเคยอยู่ประเทศไทยประมาณ 1 เดือน เลยเป็นสถานที่ที่มีความหมายสำหรับฉันมากค่ะ รู้สึกดีใจที่หนังของเราจะได้ไปพบกับทุกคนผ่านทาง Netflix เรื่องนี้มีความเป็นเกาหลีสูงมาก และฉันก็หวังจะได้เห็นหนังอวกาศเกาหลีอีกในอนาคต ฉันภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ เพราะเราทำงานกันหนักมากๆ และมุ่งมั่นจะทำให้มันดี ในฐานะคนดู ฉันก็รอคอยจะได้ดู Space Sweepers เช่นกันค่ะ

 

ซงจุงกิ: เวลาผมได้พักทีไร ก็อยากจะไปกรุงเทพฯ เสมอเลย เป็นสถานที่ๆ ผมชอบมากครับ แต่ด้วยสถานการณ์ทั่วโลกตอนนี้ทำให้ไปไม่ได้ รู้สึกเสียดายมาก ผมรู้สึกผิดด้วยซ้ำที่จะถามว่าทุกคนสบายดีไหม เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่าที่ไทยเป็นยังไงบ้าง อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพ และหวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นความสุขเล็กๆ ให้กับทุกคนในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ ถึงแม้จะแค่ 2 ชั่วโมงก็ตามครับ ขอบคุณครับ

 

 

เบื้องหลังภาพยนตร์ Space Sweepers 

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising