วันนี้ (5 สิงหาคม) วีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมด้วย สมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย เดินทางมายื่นหนังสือต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบพรรคการเมืองที่มีข่าวเรื่องการรับเงินเดือนจากบุคคลภายนอก
โดยวีระกล่าวว่า ภายหลังจากที่มีข่าวออกมา ก็ได้มีการออกมาปฏิเสธโดยอ้างว่าเป็นการกู้ยืม แต่กลับไม่มีหนังสือกู้ยืมเป็นหลักฐาน และผู้ให้กู้ก็ระบุว่าไม่เคยได้คืน ซึ่งส่วนนี้เข้าข่ายความผิดของกฎหมาย ป.ป.ช. หลายมาตรา ข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ รวมถึงประมวลกฎหมายอาญาด้วย ไม่ใช่รับด้วยการเสน่หา แต่เป็นการรับเพื่อการกระทำหนึ่งการกระทำใดที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตนจึงมายื่นให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งขอยืนยันว่าตนมีหลักฐานมากกว่าในวันนี้ แต่ต้องรอให้ ป.ป.ช. เรียกตนเข้ามาสอบ เพื่อดูความจริงจังของ ป.ป.ช. ในการเรียกตนเข้ามาสอบถามข้อมูลในฐานะผู้กล่าวโทษ
“หลักฐานต่างๆ มีการเปิดเผยมาจากผู้ที่กระทำผิดเอง ด้วยความโกรธคุมอารมณ์ไม่อยู่ ซึ่งตามหลักจิตวิทยาคนที่โกรธจะพูดความจริงทั้งหมด อีกทั้งเมื่อมีการตอบโต้กันไปมา ต่างฝ่ายต่างโกรธ ก็จะพูดความจริงออกมาเอง อยู่ที่การทำงานของ ป.ป.ช. ว่าจะดำเนินการได้ถึงขั้นไหน ถ้า ป.ป.ช. ไม่สามารถหาคนผิดได้ ก็ไม่ต้องมีกฎหมายหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบแล้ว” วีระกล่าว
ด้านสมชัยกล่าวว่า ตนหวังว่า ป.ป.ช. จะสร้างความเชื่อถือให้กับประชาชน เพื่อทำให้การเมืองไทยสุจริต เที่ยงธรรม และโปร่งใส เพราะตามกฎหมายระบุว่า ส.ส. ไม่สามารถรับผลประโยชน์อื่นใดมากกว่า 3,000 บาทได้ กรณีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่คนไทยทั้งประเทศอยากรับรู้
สมชัยยังฝากความหวังทั้งหมดไว้กับ ป.ป.ช. ซึ่งนอกจากการยื่น ป.ป.ช. วันนี้แล้ว วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมนี้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยข้อกล่าวหาพรรคเล็กยอมให้พรรคใหญ่ครอบงำและชี้นำในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และ 29 ซึ่งอาจทำให้ถูกยุบพรรคการเมืองได้ โดยมีทั้งหมด 7 พรรคการเมือง มีพรรคเล็ก 6 พรรค และพรรคใหญ่ 1 พรรค และเพื่อขอให้เอาผิดกรรมการบริหารพรรคของแต่ละพรรคทั้งหมดด้วย