×

สมชัย แนะ ประยุทธ์ ตั้งกรรมการสอบ เสกสกล ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ อย่าปล่อยสังคมเคลือบแคลงสงสัย

08.04.2022
  • LOADING...
สมชัย แนะ ประยุทธ์ ตั้งกรรมการสอบ เสกสกล

วานนี้ (7 เมษายน) รายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ เผยแพร่ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD สัมภาษณ์ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร และ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กมธ.ป.ป.ช. กรณีตรวจสอบคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา กับ จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการรับเงิน 15 ล้านบาท เพื่อไปใช้ในการเลือกตั้ง

 

สมชัยกล่าวว่า ได้ฟังคลิปหลายรอบ ถอดออกมาเป็นคำๆ ได้ 95% ค่อนข้างจะสมบูรณ์กว่าที่สื่อเผยแพร่โดยทั่วๆ ไป เพราะเสียงการสนทนาบางครั้งฝ่ายหนึ่งพูดไม่จบ อีกฝ่ายหนึ่งก็พูดแทรกเข้ามา แต่ก็พยายามเก็บทั้งหมด ส่วนความสมบูรณ์ของคลิปมีความครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ได้ตัดต่อแน่นอน เพราะว่าการสนทนาต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นคือเสียงโทรศัพท์เข้า จนจบเสียง ‘สวัสดีค่ะ’ ไม่มีส่วนใดตัดต่อออกไปเลย เพียงแต่ว่าในบางคำ ซึ่งจับใจความไม่ได้จริงๆ ก็จะไม่สามารถถอดออกมาได้ จึงคิดว่าได้ 95% 

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า เสกสกลยืนยันว่าหยอกเล่น จากการถอดคำออกมา 95% เชื่อว่าหยอกเล่นหรือไม่ 

 

สมชัยกล่าวว่า เขาคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว เรื่องราวแรกบ่นว่าจะต้องไปจับสลากออนไลน์เจ้าหนึ่ง แล้วเจ้านี้ “เคยให้เงินพี่มา 15 ล้าน ตอนนั้นพี่ก็ไม่รู้หรอกว่ามันเกี่ยวข้องกับการค้าหวยออนไลน์ พี่ก็เอาเงิน 15 ล้านไปสู้เลือกตั้งกับโรงแป้ง” โรงแป้งไม่ใช่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า แต่เป็นผู้สมัคร ส.ส. ที่มีพื้นฐานการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงมันในจังหวัดนครราชสีมา ไปเสิร์ชดูกันได้ เสี่ยมันพันล้าน

 

เสียงบอกว่าสู้กับโรงแป้งหมดไปร้อยล้าน ดังนั้น ตรงนี้เป็นการมาปรับทุกข์กันว่า เดือดร้อนแล้วไหมล่ะ จะเข้าไปจับเดี๋ยวมันเปิดเผยขึ้นมาก็จะเดือดร้อน ที่ทำไว้ทั้งหมดมันก็จะเสียหายไปหมด อันนี้ก็เป็นเรื่องการบ่นกัน พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วก็ในการพูดดังกล่าวก็มีการเออออกันด้วย ฝ่ายสนทนาเออออ บอกว่า “หนูอยู่กับพี่ด้วย” 

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า จุรีพร เกี่ยวอะไร 

 

สมชัยกล่าวว่า อาจจะเป็นทีมงานที่ไปช่วยกันรณรงค์หาเสียงในช่วงนั้น ประโยคนี้ “มันเอาเงินมาให้พี่ ช่วยพี่เลือกตั้ง 15 ล้าน พี่สู้กับโรงแป้งหมดเป็นร้อยล้าน” ฝ่ายหญิงบอก “ใช่ๆ ตอนนั้นรีอยู่กับพี่” มันแปลว่าเป็นการช่วยคอนเฟิร์มว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งถ้าพูดอีกอย่าง เช่น เป็นไปไม่ได้หรอก หนูไม่รู้ด้วย ก็จะเป็นการพูดอีกแบบ

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ดูไม่ใช่หยอกเล่น 

 

สมชัยกล่าวว่า ไม่ใช่หยอกเล่น เป็นการคอนเฟิร์มซึ่งกันและกัน คงจะมีการใช้เงินในการเลือกตั้งในช่วงนั้นจริง นี่คือส่วนที่หนึ่ง

 

เนื้อหาส่วนที่สอง คืออยากจะได้เงินอีกก้อนหนึ่งเพื่อจะไปทำอะไรสักอย่าง ซึ่งบอกว่า “พี่ยืมชั่วคราว” “แต่หนูจะต้องไปเอาจากน้อง” คือไม่มี แล้วก็เสียงที่พูดแทรกกัน บางคนถอดออกมาเพราะได้ยินว่า 5 กิโล แต่ถ้าฟังละเอียด คือ 15 กิโล เชื่อมโยงว่าเคยรับมา 15 ล้าน ดังนั้นต้องมี 15 กิโล เพื่อไปทำอะไรบางอย่าง

 

สมชัยขยายความว่า 15 กิโล คือ คำพูดที่นักการเมืองพูดกัน 1 กิโล หมายถึง 1 ล้านบาท 15 กิโล คือ 15 ล้าน

 

มีประโยคว่า “เรื่องลอตเตอรี่ พี่ต้องดูแลนะ” ฝ่ายชายรับปาก มันแปลว่า มีโอกาสที่จะใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานไปเอื้อประโยชน์ต่อคนใดคนหนึ่ง โดยมีการเรียกรับประโยชน์บางอย่างเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ประเด็นแบบนี้จะเข้าข่ายอีกความผิดหนึ่ง 

 

ทั้งหมดนี้แบ่งความผิดเป็น 4 กลุ่มเรื่อง

 

1 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ละเว้น จะต้องเข้าไปจับ แต่เกรงใจไม่จับ กลัวเดี๋ยวมันเปิดโปง

 

2 และ 3 เป็นความผิดด้านการเลือกตั้ง เรื่องแรกคือใช้เงินซื้อเสียง กับเรื่องที่สอง การรายงานค่าใช้จ่ายอันเป็นเท็จ ซึ่งมีความผิดทั้งคู่ 

 

การใช้เงินซื้อเสียง เพราะตามกฎหมายวงเงินที่ใช้จ่ายได้ คือ 1.5 ล้านบาท แต่คุณไปใช้ 15 ล้านบาท หรือ ร้อยล้านบาท ใช้จ่ายเกินกว่าวงเงิน ใช้เพื่ออะไร ถ้าใช้ซื้อเสียงก็ฐานความผิดซื้อเสียง และอีกเรื่องคือหลังเลือกตั้ง 90 วัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องส่งรายงานรายรับรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงต่อกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งถ้าหากว่ารายงานเป็นเท็จ ก็เป็นความผิดอีกเรื่องหนึ่ง

 

4 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วไปเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นความผิดอาญา และประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

สมชัยกล่าวว่า รวม 4 เรื่องหลักๆ ซึ่งการที่ไปยื่นเองในฐานะที่ปรึกษาเพราะเมื่อเป็นที่ปรึกษายิ่งต้องช่วยกรรมาธิการ ช่วยถอดเทป ช่วยชี้ประเด็นทางกฎหมายว่าน่าจะผิดตรงไหน แล้วให้กรรมาธิการลงมติว่าจะรับเรื่องนี้ไว้พิจารณาหรือไม่ แล้วกรรมาธิการอาจจะไปตั้งอนุฯ หรือ คณะทำงานขึ้นมา ไปสืบเสาะข้อเท็จจริงต่อไป เราไม่ได้บอกว่าทำผิดแต่ชี้ประเด็นไว้ก่อน ส่วนกรรมาธิการจะเรียกคนมาให้ปากคำ เป็นเรื่องของกรรมาธิการ 

 

สมชัยกล่าวด้วยว่า ฝ่ายที่จะเอาผิดมีหลายฝ่าย กมธ.ป.ป.ช., กกต., ป.ป.ช. และนายกรัฐมนตรี 4 ส่วนที่สามารถทำอะไรต่อไปได้ ส่วน กมธ. แสวงหาข้อเท็จจริง ไม่มีอำนาจฟาดฟัน แต่ส่งต่อไป 3 แหล่งได้ เช่น ส่งไปนายกฯ ถ้าไม่ทำอะไรอาจจะเป็นละเว้น ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ท่านนายกฯ เอง ทำให้สังคมรู้ว่าท่านเองตรงไปตรงมา แม้แต่คนใกล้ชิด ถ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่มัวหมอง ก็ไม่ปกป้อง นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด เสกสกลคนนี้เดินติดท่านนายกฯ ตลอดเวลา ไปไหนมาไหนอยู่ด้วยกันราวกับเป็นองครักษ์ ถ้าสังคมมองว่า นายกฯ เอาคนมีปัญหามาไว้ใกล้ตัว แม้นายกฯ จะบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนได้ประโยชน์ แต่คนใกล้ชิดได้ประโยชน์ ก็เป็นความมัวหมองที่เกิดขึ้น 

 

ดังนั้น เป็นความสง่างามถ้าจะเอาคนใกล้ชิดที่สังคมเคลือบแคลงสงสัย หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ยอมให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา หรือตั้งกรรมการสอบในฝ่ายรัฐบาลด้วยรัฐบาลเอง สังคมก็จะชื่นชม ถ้าท่านไม่ทำก็แล้วแต่ท่าน ปล่อยให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยต่อไป 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising