โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศขอคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก ที่จะลงสนามในนัดชิงชนะเลิศคืนนี้กับบียาร์เรอัลสโมสรจากสเปน เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดแก่เซอร์แมตต์ บัสบี ตำนานผู้วางรากฐานความยิ่งใหญ่ให้สโมสร และหวังว่าความสำเร็จในวันนี้จะต่อยอดสู่อนาคตที่สดใสของทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเดินทางถึงเมืองกดังก์ส ประเทศโปแลนด์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดนัดชิงชนะเลิศศึกยูโรปาลีกฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสภาพทีมถือว่าค่อนข้างพร้อม ยกเว้นเพียงรายของ แฮร์รี แม็กไกวร์ กองหลังกัปตันทีมที่แม้จะร่วมเดินทางไปด้วยแต่ไม่ได้ลงซ้อมใน 2 เซสชันหลังสุด และต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้าย
สำหรับเกมนี้ซึ่งเป็นการเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยครั้งแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในรอบ 4 ปี และเป็นการพาทีมเข้าชิงครั้งแรกของโซลชาร์นั้น พบความบังเอิญเมื่อวันนี้ (26 พฤษภาคม) เป็นวันคล้ายวันเกิดของเซอร์แมตต์ บัสบี ผู้จัดการทีมที่พาสโมสรคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพสมัยแรกในปี 1968 และยังเป็นวันเดียวกับที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสมัยแรกในปี 1999 โดยกุนซือชาวนอร์เวย์เป็นผู้ทำประตูชัยในวันนั้นด้วย
“เวลาที่มีอะไรให้คิดในเชิงบวกได้มันจะทำให้เราคิดว่าทุกอย่างจะเข้าทางเรา” โซลชาร์กล่าว “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเรานะ แต่ผู้เล่นก็จำเป็นต้องทำหน้าที่ของพวกเขา บางทีเราอาจจะฉลองวันคล้ายวันเกิดของเซอร์แมตต์ได้ด้วยแชมป์อีกสมัย
“ภรรยาของผมก็เกิดวันที่ 26 เราแต่งงานกันในวันที่ 26 ดังนั้นผมคงต้องเชื่อในเรื่องของโชคชะตา หรือ skiebne (คำว่าโชคชะตาในภาษานอร์เวย์) มันเป็นตัวเลขพิเศษสำหรับเราและสำหรับครอบครัวของผมด้วย ผมไม่ได้เป็นคนถือโชคถือลางนัก แต่ว่ามันก็เป็นสัญญาณที่ดี
“เรารู้ว่าเซอร์อเล็กซ์ก็อยู่กับเรา (ร่วมเดินทางมากับทีมด้วย) เรารู้ว่าวันที่ 26 พฤษภาคมเป็นวันเกิดเซอร์แมตต์, แต่นักเตะทุกคนที่เซ็นสัญญากับทีมก็รู้ว่าพวกเขาต้องคว้าแชมป์ให้ได้ พวกเขายอมรับความท้าทายของการเป็นคนที่เก่งที่สุด เพราะนี่คือสโมสรที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้นนี่คือความกดดันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ เพราะนักเตะเหล่านี้จะไม่ถูกเซ็นสัญญามาที่นี่ถ้าพวกเขาไม่ใช่นักเตะที่ดีที่สุดจริงๆ”
โซลชาร์ยังหวังว่าหากทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ในวันนี้จะเป็นการนำสโมสรไปสู่อนาคตที่สดใสได้อีกครั้ง “เราเคยเข้าชิง 5 ครั้งในยุโรป แพ้ 2 ครั้งต่อบาร์เซโลนา (นัดชิงแชมเปียนส์ลีกในปี 2009 และ 2011) คืนวันเหล่านั้นคือคืนที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา มันจะเป็นก้าวสำคัญสำหรับสิ่งที่ดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะทีมนี้เป็นทีมคนหนุ่ม และเป็นทีมที่เราใช้เวลา 2-3 ปีในการสร้างมา ดังนั้นหวังว่ามันจะเป็นก้าวแรกสู่สิ่งที่จะตามมาอีกมากมาย”
สำหรับคู่ชิงชนะเลิศอย่างบียาร์เรอัล ถึงจะมีคนยกให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นต่อในเกมนี้ แต่โซลชาร์ไม่รู้สึกเช่นนั้น และเชื่อว่า อูไน เอเมรี กับลูกทีมก็ต้องการจะเป็นผู้ชนะเหมือนกัน “ทุกคนที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศจะมีความคาดหวังและมีความกดดันที่จะเป็นผู้ชนะ เราเตรียมตัวมาเพื่อชนะ วางแผนเพื่อชนะ และคาดหวังที่จะชนะ นั่นคือความกดดันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“ผมมั่นใจว่าอูไนก็รู้สึกแบบเดียวกันกับทีมของเขาและผู้เล่นของเขา กว่าจะเข้ามาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านเส้นทางที่ยาวไกลและเมื่อมาถึงนัดชิงแล้วมันก็ยังคงแค่ 50-50 อยู่ดี ผมมั่นใจว่าเราก็พร้อมสำหรับจุดนี้ แต่นัดชิงชนะเลิศนั้นทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ เราสามารถจะเสียประตูในนาทีแรก มีคนเจ็บ หรือโดนไล่ออกได้”
ในการเดินทางหาความสำเร็จคืนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ต้อนรับแขกพิเศษอย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ร่วมเดินทางมากับทีมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ทุกคนด้วย “แค่ได้มีเขาอยู่ใกล้ๆ ในเวลาที่เรารับประทานข้าวในภัตตาคาร ผมมั่นใจว่านักเตะทุกคนคงมีอะไรที่อยากรู้และอยากถามเขา ซึ่งเขาก็พร้อมเสมอที่จะพูดคุยด้วยเพราะนี่คือสโมสรในดวงใจของเขา ผมหวังว่าเซอร์อเล็กซ์จะมีความสุขด้วยเช่นกันเพราะผมเป็นหนี้บุญคุณเขาและสโมสรแห่งนี้มาตลอดชีวิตการเล่น ดังนั้นหวังว่าเขาจะได้มีค่ำคืนที่มีความสุข”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
