สำนักข่าว BBC เผยแพร่รายงานในวันนี้ โดยระบุว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่มีการลบวิดีโอที่เป็นหลักฐานการก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน
โดยที่ผ่านมาพบว่ามีโซเชียลมีเดียหลายรายใช้เทคโนโลยี AI ในการลบภาพหรือเนื้อหาที่เป็นอันตราย ซึ่งส่งผลถึงเนื้อหาที่อาจเป็นหลักฐานในการฟ้องร้องดำเนินคดี แต่มีข้อยกเว้นสำหรับเนื้อหาที่อยู่ในความสนใจของสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม BBC เผยว่า คลิปวิดีโอสารคดีการโจมตีพลเรือนในยูเครน ซึ่งถ่ายโดย อิฮอร์ ซาคาเรนโก (Ihor Zakharenko) อดีตนักข่าวท่องเที่ยว และมีภาพศพอย่างน้อย 17 ศพที่ถูกทหารรัสเซียยิงเสียชีวิตในชานกรุงเคียฟของยูเครน ระหว่างพยายามหนีจากการถูกบุกเข้ายึดเมื่อปีที่แล้ว ถูกลบทิ้งอย่างรวดเร็วหลังจากที่ซาคาเรนโกได้อัปโหลดลงในโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Instagram
“ชาวรัสเซียกำลังบอกว่าคลิปวิดีโอเหล่านี้เป็นของปลอม พวกเขาไม่ได้แตะต้องพลเรือน พวกเขาสู้รบกับกองทัพยูเครนเท่านั้น” ซาคาเรนโกกล่าว
BBC ยังได้ทดลองอัปโหลดคลิปวิดีโอสารคดีของซาคาเรนโกลงใน Instagram และ YouTube โดยใช้บัญชีที่สร้างขึ้น แต่ก็ถูกลบออกอย่างรวดเร็ว โดย Instagram ลบคลิปวิดีโอ 3 ใน 4 คลิป ภายใน 1 นาที ส่วน YouTube ในตอนแรกมีการจำกัดอายุสำหรับ 3 คลิป แต่หลังจากนั้นราว 10 นาที ก็ลบคลิปวิดีโอทั้งหมดออก และเมื่อพยายามอีกครั้งก็ไม่สามารถอัปโหลดได้ ซึ่งได้มีการแจ้งอุทธรณ์ในการกู้คืนวิดีโอ แต่ก็ถูกปฏิเสธ โดยอ้างว่าคลิปวิดีโอเหล่านี้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับอาชญากรรมสงคราม
การใช้เทคโนโลยี AI สามารถช่วยลบเนื้อหาที่เป็นอันตรายและผิดกฎหมายในวงกว้างได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องกลั่นกรองภาพความรุนแรงจากสงคราม AI กลับขาดการแยกแยะเนื้อหาที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
โดย อลัน รัสบริดเจอร์ (Alan Rusbridger) อดีตนักข่าวชาวอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกำกับดูแลของ Meta เผยกับ BBC ว่า อุตสาหกรรมโซเชียลมีเดียมีความ ‘ระมัดระวังมาก’ ในการกลั่นกรองเนื้อหาต่างๆ
“คุณคงเห็นว่าทำไมพวกเขาถึงพัฒนาและฝึกฝน AI ของพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นบางอย่างที่ดูยากหรือกระทบกระเทือนจิตใจให้ลบมันทิ้ง ผมคิดว่าคำถามต่อไปสำหรับพวกเขาคือ เราจะพัฒนา AI ได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือ AI เพื่อให้มีการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลมากขึ้น” รัสบริดเจอร์กล่าว
ทางด้านยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียอย่าง Meta และ YouTube กำหนดเป้าหมายที่จะสร้างสมดุล ทั้งการเป็นพยานในเหตุการณ์ต่างๆ และปกป้องผู้ใช้งานจากเนื้อหาที่อันตราย
แต่สำหรับภาพที่เกี่ยวกับสงครามเพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งปกติแล้วเป็นเนื้อหาที่จะถูกลบ ทั้ง Meta และ YouTube ระบุว่าสามารถเก็บไว้ออนไลน์โดยจำกัดการดูสำหรับผู้ใหญ่
โดย YouTube ระบุว่า แม้จะมีข้อยกเว้นสำหรับเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ แต่ทางแพลตฟอร์มไม่ใช่พื้นที่เก็บถาวร และองค์กรสิทธิมนุษยชน นักเคลื่อนไหว นักปกป้องสิทธิมนุษยชน นักวิจัย นักข่าวพลเมือง และบุคคลอื่นๆ ที่บันทึกภาพการละเมิดสิทธิมนุษยชน (หรืออาชญากรรมอื่นๆ) ควรปฏิบัติตามแนวทางที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยของเนื้อหา
แฟ้มภาพ: Metin Aktas / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
