วัฒนธรรมสเกตเข้ามาในไทยราวปี พ.ศ. 2520 ช่วงนั้นบรรยากาศความญี่ปุ่นเข้าปกคลุมวัยรุ่นไทยเป็นอย่างมาก รองเท้าสเกตก็เข้ามาพร้อมกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นเหล่านั้น ซึ่งมันฮิตขนาดที่มีคนพูดเลยว่า “บ้านไหนมีวัยรุ่น บ้านนั้นต้องมีรองเท้าสเกต” ขนาดบนโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง สยามสแควร์ (2527) ยังเป็นตัวละครนำ 4 ตัวใส่รองเท้าสเกตขึ้นโปสเตอร์ ฮิตและฮิปแค่ไหนคงไม่ต้องบอก
นอกจากจะซื้อมาเดินเล่น ไม่ใช่สิ ไถเล่น แถวบ้านแล้ว ทั่วห้างในไทยยุคนั้นยังมีโซนสเกตให้วัยรุ่นได้มาแฮงเอาต์กันอีกด้วย ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงประมาณโซนโบว์ลิงหรือเต้นคัฟเวอร์สมัยนี้ ที่เป็นลานกว้าง มีวัยรุ่นมาจับกลุ่มพูดคุย เล่นสเกตกัน สอนสเกตกัน จีบกัน ฯลฯ จนผู้ใหญ่เป็นห่วงว่านี่มันแหล่งมั่วสุมหรือเปล่า
หลังจากยุครองเท้าสเกตแบบสี่ล้อเหมือนล้อรถยนต์ผ่านไป วัยรุ่นไทยก็ได้ต้อนรับวัฒนธรรมสเกตใหม่ที่มาในรูปแบบอินไลน์สเกต ซึ่งมีล้อเรียงเป็นแถวเดียว ที่เราเรียกกันติดปากว่าโรลเลอร์เบลด (ซึ่งจริงๆ เป็นชื่อยี่ห้อรองเท้าอินไลน์สเกตของ Nordica) และแน่นอน ทุกบ้านที่มีวัยรุ่นต้องมีโรลเลอร์เบลด พ่อแม่ใครทุ่มทุนหน่อยก็ต้องมีออปชันมาให้พร้อมทั้งสนับมือ สนับเข่า สนับศอก และหมวกกันน็อก
ซึ่งในยุคเดียวกันนี้ก็มีอีกหนึ่งรองเท้าสเกตที่เข้ามามีอิทธิพลกับวัยรุ่นไทยอย่างมาก นั่นคือไอซ์สเกต ที่ใครอยากเล่นก็จำเป็นต้องมีรองเท้าไว้ที่บ้าน เพราะมันเล่นแถวบ้านไม่ได้ แต่ต้องไปเล่นที่มหานครแห่งไอซ์สเกตยุคนั้น คือลานไอซ์สเกตเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (ปัจจุบันคือเซ็นทรัลเวิลด์) และในห้างยี่ห้ออิมพีเรียล ที่มีลานไอซ์สเกตให้วัยรุ่นได้ซิ่งกันอย่างเปรมปรีดิ์
ทุกวันนี้วัฒนธรรมสเกตอาจไม่ได้เปรี้ยงปร้างเท่าช่วง 30 ปีที่แล้ว แต่ตามห้างบางแห่งก็ยังมีลานไอซ์สเกตให้ได้ไประลึกถึงยุคทองที่เราต้องไปหัดเดินบนรองเท้าสเกตกัน ไม่แน่บางทีอาจจะถึงเวลาที่พวกเราหลายคนต้องพาลูกๆ ไปซิ่งที่ลานสเกตกันบ้างแล้วก็เป็นได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
