×

Simply Organics & T’aime Cafe บ้านของผ้าสีคราม และโมงยามของโรแมนติกคอฟฟี่

25.03.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • โรแมนติกสโลว์บาร์ ที่มีแค่กาแฟดริปและแอโรเพรส ริมแม่น้ำท่าจีน อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งยังมีสตูดิโอเวิร์กช็อปย้อมผ้าครามและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน
  • กาแฟ House Blend เป็นเบลนด์ที่ผสมเมล็ดกาแฟจาก 5 ประเทศ คือโคลัมเบีย บราซิล กัวเตมาลา เคนยา และเอธิโอเปีย ใช้เพื่อทำกาแฟเย็น โดยใช้เครื่องแอโรเพรส ออกแรงดันเครื่องด้วยมือ ได้ช็อตเอสเพรสโซเข้มข้น
  • หากมาถูกวัน ลูกค้าของแต้ม คาเฟ่ ก็จะได้กินขนมไทยแกล้มจิบกาแฟ เสิร์ฟให้กันแบบไม่คิดราคา

 

ด้านหน้าบ้านที่ทำเป็นร้าน

 

ผ้าม่านย้อมครามสะบัดพัดตามการมาถึงของสายลมร้อน ประตูทุกบานปล่อยเปิดกว้าง เอื้อทางให้แสงสว่างจากภายนอกส่องถึง ระเบียงยื่นเข้าหาแม่น้ำที่ไหลผ่านหลังบ้าน เสียงสนทนาจากกลุ่มเวิร์กช็อปเย็บผ้าดังขึ้นเป็นระยะ เป็นยามเดียวกับที่หยดกาแฟสีน้ำตาลวาวเคลื่อนลงแก้วอย่างไม่ยี่หระต่อเวลา

 

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี นอกจากเป็นพื้นที่ใช้ชีวิต ยังเป็นที่ทางใหม่ของ Simply Organics สตูดิโอเวิร์กช็อปย้อมผ้าครามและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของ คุณแอน-จันทน์สุภา ชมกุล ที่โยกย้ายมาจากกรุงเทพฯ ขณะที่ภายในส่วนหนึ่งถูกแบ่งสรรเป็นที่ตั้งของสโลว์บาร์ เสิร์ฟกาแฟทำมือหรือคราฟต์คอฟฟี่ ในนาม แต้ม คาเฟ่ (T’aime Cafe) โดยการดูแลของ คุณตั้ม-มนัส สมสวัสดิ์ ที่ขยับร้านมาจากอำเภอศรีประจันต์

 

ในบ้านหลังเดียวกัน จึงมีทั้งเวิร์กช็อปที่เกี่ยวเนื่องกับผ้าคราม และของใช้จากธรรมชาติให้เราทำ มีกาแฟที่ผ่านการบรรจงชงให้เราดื่ม และหากไปเยือนในวันอันเหมาะเจาะ ก็จะได้กินขนมไทยแกล้มกาแฟที่เจ้าบ้านลงมือทำอย่างพิถีพิถัน

 

The Vibe

 

 

ภายในตัวบ้าน บาร์กาแฟถูกวางสร้างขึ้นอย่างง่ายๆ และด้วยเป็นสตูดิโอย้อมคราม แทบทุกมุมของบ้านจึงมีผ้าสีครามหลากลวดลายและหลายเฉดสีแต่งแต้ม ผืนใหญ่ใช้ขึงเป็นม่านและกางคลุมโต๊ะ ผืนเล็กหน่อย เอามามัดหูจับกาน้ำร้อน แม้แต่ชายเศษผ้า คุณตั้มก็ยังหยิบมาผูกขมวดเข้ากับสแตนดริปไม้ที่เขาทำขึ้นเองกับมือ

 

บาร์กาแฟบรรยากาศสบายๆ ตกแต่งด้วยผ้าคราม

 

ด้านหน้าบาร์กาแฟจัดเป็นพื้นที่นั่งดื่ม รับลมที่พัดเข้ามาทางหน้าบ้านและข้างบ้านอย่างเต็มที่ ลานระเบียงเป็นอีกจุดที่ชวนอ้อยอิ่งจิบกาแฟในยามแดดเบาแสง ตรงนั้น เราสามารถชมแม่น้ำท่าจีนได้เต็มตา

 

 

หากเลยเข้าไปด้านหลังของบาร์ คือโต๊ะไม้ตัวยาวที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ โดยเฉพาะการทำเวิร์กช็อปแฮนด์เมดต่างๆ แต่หากวันไหนมีการย้อมผ้าครามที่อาจมีเลอะเปรอะเปื้อน ระเบียงที่มองเห็นสายน้ำนั้นก็กว้างขวางพอให้ผ้าครามกางผืนได้

 

ลานระเบียงริมแม่น้ำท่าจีน

 

The Drinks

บาริสตาผู้คลุกคลีอยู่กับกาแฟมาถึง 7 ปี นิยามกาแฟของตนว่าเป็นโรแมนติกคอฟฟี่ “ผมชอบการทำกาแฟแบบสโลว์บาร์ มีแค่กาแฟดริปและแอโรเพรส อาจไม่ใช่กาแฟที่สมบูรณ์แบบเหมือนใช้ Espresso Machine แต่กาแฟทำมือก็มีเสน่ห์ในตัวเอง ทำด้วยใจ ทำด้วยความรัก อยากให้คนที่มาดื่มกาแฟที่นี่ได้นั่งเล่นสบายๆ ได้ใช้เวลากับสถานที่และดื่มด่ำกับกาแฟให้เต็มที่”

 

กาแฟดริปร้อนจากเมล็ดมณีพฤกษ์

 

ในบรรยากาศผ่อนคลาย กาแฟแก้วแรกถูกทำขึ้นอย่างไม่รีบเร่ง น้ำร้อนไหลผ่านกาแฟที่ถูกบดด้วยเครื่องมือหมุน กลั่นทีละหยดๆ จนกลายเป็นกาแฟดริปร้อนจากเมล็ดมณีพฤกษ์ (120 บาท) ตั้งชื่อเมล็ดตามแหล่งปลูกในจังหวัดน่าน เป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าคั่วอ่อน มีรางวัลการันตี “เอามาดริปร้อน จะได้กลิ่นหอมละมุนเหมือนกลิ่นดอกไม้โชยขึ้นมาอ่อนๆ รสชาติไลต์ๆ ดื่มง่ายมากครับ” คุณตั้มแนะนำเมล็ดตัวนี้ให้ เพราะเขาชอบดื่มเองอยู่เดิมที

 

มอคค่าเย็น

 

อีกแก้ว เขาคว้าเมล็ดกาแฟ House Blend จาก 5 ประเทศ คือโคลัมเบีย บราซิล กัวเตมาลา เคนยา และเอธิโอเปีย เพื่อทำกาแฟเย็น โดยใช้เครื่องแอโรเพรส ออกแรงดันเครื่องด้วยมือ ได้ช็อตเอสเพรสโซเข้มข้น “หากดื่มแบบอเมริกาโน่จะได้รสชาติหลากหลายแต่กลมกล่อม แต่ถ้าชงกับนม เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ หรือมอคค่า ก็อร่อยมากเหมือนกัน” เราเลือก มอคค่าเย็น (90 บาท) เป็นมอคค่าที่ได้จากเมล็ดกาแฟที่เดินทางมาจากสองทวีป

 

มัทฉะร้อน

 

ศิลปะการชงชาเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ชายหนุ่มชื่นชอบ “ผมว่ามันเรียบง่าย แต่เป็นความงามที่เราดื่มด่ำได้” เขาแนะนำ มัทฉะร้อน (60 บาท) ให้ลองอีกสักแก้ว มัทฉะชั้นดีจากประเทศญี่ปุ่น ชงร้อนโดยรักษารสชาติเข้มข้นของชาไว้ ราดทับด้วยฮาล์ฟครีมพร่องมันเนย ทำจากนมโคแท้ 100% เมื่อนำฮาล์ฟครีมมาตีด้วยมือ จะได้นมเนื้อเนียนไม่ต่างจากใช้เครื่องสตีมนม  

 

คุณแอนเสริมว่า “สำหรับเครื่องดื่มเย็น เราก็ใช้ฮาล์ฟครีมแทนนมข้น เพราะมันดีต่อสุขภาพมากกว่า เราพยายามเลือกใช้วัตถุดิบที่คำนึงถึงสุขภาพของคนดื่มด้วย”

 

The Dishes

นอกจากหลงใหลในการย้อมผ้าคราม คุณแอนยังชอบและถนัดทำขนมไทย เพราะทั้งชิมทั้งช่วยคุณยายและคุณแม่ทำขนมไทยมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งพบว่าขนมไทยกับกาแฟช่างเข้าคู่กันนัก

 

“สุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะมะพร้าว ชาวบ้านเก็บจากต้นมาขายสดๆ เราจึงได้วัตถุดิบที่ดีมาก ที่ทำบ่อยก็มีขนมต้ม เม็ดขนุน ลูกชุบ สังขยาฟักทอง บัวลอย หรือข้าวเหนียวหน้าต่างๆ แต่ไม่ได้ทำทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่านึกอยากกินอะไร หรือไปตลาดแล้วได้วัตถุดิบอะไรมา” ดังนั้น หากมาถูกวัน ลูกค้าของแต้ม คาเฟ่ ก็จะได้กินขนมไทยแกล้มจิบกาแฟ เสิร์ฟให้กันแบบไม่คิดราคา

 

 

วันนี้ คุณแอนทำ ขนมต้ม อธิบายว่าส่วนสำคัญของขนมต้มคือไส้ ต้องใช้มะพร้าวทึนทึก ขูดเป็นเส้นเอามาเคี่ยวกับน้ำตาลโตนดแท้ที่สั่งตรงจากจังหวัดเพชรบุรี เคี่ยวจนไส้เป็นคาราเมลส่งกลิ่นหอม แล้วเอาไปอบเทียน

 

ขนมต้ม แป้งมัทฉะ

 

ส่วนแป้งขนมต้ม พิเศษตรงที่ผสมมัทฉะลงในแป้ง “ปกติแล้วแป้งขนมต้มจะเป็นแป้งข้าวเหนียวเอามานวด แต่สมัยนี้มีแต่แป้งถุงขาย เลยประยุกต์ใส่พืชผักลงไปเพื่อให้เนื้อแป้งนุ่มและได้สีสัน หรืออย่างสีเขียวก็จะได้จากใบเตย แล้วส่วนตัวชอบกินมัทฉะมาก จึงลองผสมลงในแป้ง กลายเป็นว่าได้ทั้งสีเขียวและรสของมัทฉะ อร่อยมาก”

 

เม็ดขนุน

 

ขนมไทยอีกอย่างที่หลายคนชอบและเหมาะเจาะกับการกินขณะจิบกาแฟ คือ เม็ดขนุน “จริงๆ ขนมไทยมีประโยชน์นะ เพราะทำจากวัตถุดิบพื้นบ้านทั้งนั้น อย่างไส้ของเม็ดขนุนก็ทำจากถั่วเขียว เอามาปอกเปลือก หรือเรียกว่าถั่วซีก ผสมกับมะพร้าวทึนทึกที่ไม่แก่มาก แล้วเอาไปกวนกับน้ำตาลโตนดแท้ แล้วก็ต้องอบเทียนเหมือนกับไส้ขนมต้ม”

 

ไข่ที่ใช้ผสมน้ำเชื่อมชุบเม็ดขนุน เจ้าตัวเลือกไข่เป็ดที่ชาวบ้านเลี้ยงตามไร่ตามทุ่ง ส่วนน้ำเชื่อม ยังคงยึดน้ำตาลโตนดเป็นหลัก เพราะนอกจากจะอร่อยแล้ว ยังเป็นน้ำตาลที่ร่างกายค่อยๆ ดูดซึมเอาไปใช้ จึงได้เม็ดขนุนที่ดีทั้งคุณภาพและรสชาติ  

 

คุณแอนไม่เคยประนีประนอมกับการทำขนมไทย วัตถุดิบที่ใช้ต้องเป็นของแท้และของดีเท่านั้น และด้วยขนมแต่ละอย่างมีกระบวนการทำที่มากอยู่ จึงเป็นคำตอบว่าเหตุใดเจ้าตัวถึงไม่สามารถทำขนมทุกวันและทำในปริมาณที่สามารถขายแน่นอนได้ แต่หากทำทีก็มากพอให้ลูกค้าได้ชิมอย่างเต็มคำ แนะนำว่าให้ติดตามเพจของ Simply Organics และ T’aime Cafe เอาไว้ วันไหนมีขนมอะไร เจ้าบ้านจะคอยบอกให้รู้ ให้เราได้จิบกาแฟโรแมนติกและกินขนมไทยอร่อยด้วยกัน

 

Simply Organics & T’aime Cafe

Open: เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 9.00-18.00 น.

Address: 344/5 หมู่ 6 อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี

Contact: 09 6545 7566, 08 5196 6682

Budget: เริ่มต้นที่ 60 บาท (มัทฉะร้อน)

Page: www.facebook.com/simplyorganicsnilahouse และ www.facebook.com/แต้ม-คาเฟ่-Taime-Cafe-209470339600833

Map:

 

 

FYI

 

เวิร์กช็อปของ Simply Organics

 

  • ชื่อ แต้ม คาเฟ่ มาจากชื่อของสุนัขตัวที่คุณตั้มรักมาก แต่ตายจากไปแล้ว สะกดเป็นภาษาอังกฤษคือ T’aime ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ที่รัก
  • เวิร์กช็อปของ Simply Organics ยังคงมีมากมายไม่ต่างจากที่กรุงเทพฯ ยืนพื้นที่การมัดย้อมผ้าครามธรรมชาติ รวมถึงเวิร์กช็อปเย็บเสื้อคลุมแบบญี่ปุ่นและปลอกหมอนจากผ้าคราม อีกทั้งสอนทำผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับตนเองและสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำยาอเนกประสงค์สำหรับซักล้าง ฯลฯ ดูรายละเอียดเวิร์กช็อปของแต่ละเดือนได้ที่เพจ Simply Organics
  • Simply Organics ได้แตกแขนงออกมาอีกหนึ่งแบรนด์ ชื่อ Nila เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าครามธรรมชาติที่คุณแอนมัดย้อมขึ้นเอง อาทิ ปลอกหมอน กระเป๋า ฯลฯ Nila เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า นิล เป็นสีดาร์กบลูหรือสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ ซึ่งเป็นสีของครามเข้ม
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising