ในช่วงนี้ถ้าคุณขับรถผ่านไปมาแถวถนนจักรพรรดิพงษ์ คุณอาจจะเห็นตึกแถวห้องหนึ่งที่ดูแปลกตาด้วยการนำต้นไม้และดอกไม้มาตกแต่งกระจกร้าน แต่ก็ไม่สามารถมองผ่านเข้าไปในร้านได้เลยว่าร้านนั้นคือร้านอะไร เห็นเพียงแสงไฟสีส้มลางๆ ที่ทะลุออกมาจากม่านสีขาวสะอาดตาเท่านั้น
หลังประตูไม้ที่ถูกปิดด้วยม่านคือร้านขายของชำ Nangloeng Shophouse ที่หยิบเอามนต์เสน่ห์ของร้านขายของชำมาผสมผสานกับสิ่งที่ชอบ เกิดเป็นร้านขายของชำที่ไม่เหมือนใคร
บรรยากาศร้าน
“ช่วงโควิด-19 ที่บาร์ต้องปิด ช่วงนั้นมีแต่ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของชำที่เปิดได้ เลยจะเปิดร้านขายของชำบ้าง ถ้าสักวันร้านรวงต้องปิดอีก ร้านผมก็อยู่ได้” ว่าแล้วเจ้าของร้านก็เล่าให้เราฟังถึงเรื่องร้านขายของชำของคุณป้าสามพี่น้องที่อยู่ถัดไปไม่ไกล ซึ่งร้านขายของชำร้านนี้แหละที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขา
“ร้านขายของชำของป้าตรงหัวมุมขายแทบทุกอย่างเลย ของเล่น น้ำเก๊กฮวย ขนมปังที่รับมา กากหมู แคบหมู ขวดโอวัลตินเก่าๆ เอามาแกะฉลากออก เอามาล้าง ก็ขายได้เหมือนกัน นี่แหละร้านขายของชำที่ผมอยากวาดไว้ในใจ”
ของที่ขายในร้าน
“เวลาผมทำอะไรได้สักอย่างแล้วรู้สึกว่ามันดี ก็จะเอามาขาย” เริ่มแรกทางร้านหยิบของที่เคยมีที่บาร์มาขายก่อน ไม่ว่าจะเป็นไวน์ ชีส บางอย่างก็เป็นวัตถุดิบที่ต้องใช้ทำอาหารสำหรับเสิร์ฟอยู่ในร้านแล้วก็นำมาขายเหมือนกัน หรือแม้กระทั่งของที่ซื้อมาใช้ทำอาหารกินเอง ก่อนที่จะหาอะไรสนุกๆ ทำอย่างกิมจิใส่ขวด ชาอู่หลง ชาหอมหมื่นลี้ และโทนิกวอเตอร์ที่ทางร้านใช้เวลาเรียนรู้การทำอยู่สักพักหนึ่ง และในที่สุดก็ทำออกมาได้สำเร็จ
The Vibes:
บรรยากาศร้าน
เมื่อเข้ามาในร้าน คุณจะพบว่าร้านไม่ได้ถูกตกแต่งอะไรมากมายนัก ผนังร้านยังคงเป็นผนังปูนเก่าๆ มีเพียงโต๊ะเก้าอี้ไม้ไม่กี่ตัว และแน่นอนว่าโต๊ะเก้าอี้ไม้เหล่านี้ทำมือทั้งหมด ทางร้านได้เพื่อนที่เป็นช่างไม้มาช่วยทำให้ในช่วงที่ร้านต้องปิดชั่วคราวเพราะโควิด-19 และในย่านนางเลิ้งก็มีโรงไม้อยู่มากมายด้วย ทำให้ร้านขายของชำร้านนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ในเวลาไม่นานนัก
ผนังเก่า
“ตึกนี้เคยเป็นบาร์เบอร์มาก่อน เก่าแก่มาก อยู่คู่ย่านนี้มานานเลย” เจ้าของร้านเล่าเรื่องราวก่อนจะมาเป็นร้านขายของชำให้เราฟังสั้นๆ พร้อมชี้ให้ดูผนังปูนทางขวามือที่หลุดลอกล่อนจนหน้าตาแลดูเหมือนภาพเขียน เขาชอบผนังด้านขวาของร้านเป็นพิเศษชนิดที่ว่าจะสร้างอะไรขึ้นใหม่ก็ได้ แต่จะต้องเก็บเสน่ห์ของผนังทางด้านขวาเอาไว้
ค้างคาว แมวประจำร้าน
นอกจากโต๊ะและเก้าอี้ ก็มีตู้โชว์สินค้าอยู่กลางร้าน คุณจะได้เห็นสินค้าหลากหลายและแปลกตา ตั้งแต่มะกรูด น้ำผึ้ง ไวน์ ถ้วยชาม ชา หนังสือ ไปจนถึงช่อดอกไม้ เพราะนอกจากเป็นร้านขายของชำ ขายอาหารเช้า ทางร้านยังรับจัดดอกไม้อีกด้วย และถ้าคุณเป็นคนรักแมวและคุณโชคดี คุณอาจจะได้เจอกับเจ้าค้างคาว แมวตัวโตประจำร้านที่คอยเดินตรวจตราร้านอยู่เสมอ
ชาอู่หลงและชาหอมหมื่นลี้ (85 บาท)
Golden Chai Latte (120 บาท)
Turmeric Soda (120 บาท) และ Tonic & Bitter Lemon (80 บาท)
The Drinks:
เมื่อทางร้านเล่าเรื่องราวการทำโทนิกเองขนาดนี้ หากไม่ลองโทนิกคงจะผิด Tonic & Bitter Lemon (80 บาท) โทนิกเสิร์ฟมาพร้อมกับมะนาว จะดื่มเดี่ยวๆ หรือบีบมะนาวลงไปก็ได้เช่นกัน หรือจะเป็นเมนูร้อนแรงอย่าง Golden Chai Latte (120 บาท) จัย ชาร้อนใส่นมผสมเครื่องเทศฤทธิ์ร้อนอย่างขิง ขมิ้น เพิ่มความหวานเล็กน้อยให้ดื่มง่าย เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับวันฝนตกมากๆ แต่ถ้าอยากได้ความเผ็ดร้อนแต่ยังสดชื่น ก็มี Turmeric Soda (120 บาท) โซดาขมิ้นสีเหลืองสดใสที่ให้ทั้งความสดชื่น ความซ่า และความเผ็ดร้อนในแก้วเดียวกัน นอกจากนี้ทางร้านยังมีไวน์ธรรมชาติทั้งแบบซื้อกลับบ้านและนั่งดื่มในร้านอีกด้วย
Market Veggie (150 บาท)
Homemade Pork Sausage (230 บาท)
Toasted Sourdough (120 บาท)
The Dishes:
เมนูของทางร้านส่วนใหญ่เป็นเมนูอาหารเช้าง่ายๆ สบายๆ แต่รสชาติแปลกใหม่ เริ่มที่ Market Veggie (150 บาท) เพราะทางร้านรับจัดดอกไม้ จึงไปเดินเลือกซื้อดอกไม้ที่ปากคลองตลาดอยู่เสมอ และมักจะหยิบผักติดไม้ติดมือมาทำเมนูต่างๆ ด้วย และเมนูนี้ก็เป็นผักสดจากปากคลองตลาดนำมาย่างไฟ ปรุงรสแบบง่ายๆ ด้วยเกลือและพริกไทย เสิร์ฟคู่กับไข่ต้มและอัลมอนด์ เป็นเมนูอาหารเช้าง่ายๆ ที่สบายท้อง Homemade Pork Sausage (230 บาท) ไส้กรอกหมูชิ้นใหญ่ที่ทางร้านทำเอง ได้รสชาติและเท็กซ์เจอร์ของเนื้อหมูบดแบบชัดเจน เสิร์ฟคู่กับซาวร์เคราต์ หรือกะหล่ำปลีหมัก ความเปรี้ยวนี้เกิดจากการนำกะหล่ำปลีไปหมักกับเกลือ พริกไทย และจูนิเปอร์เบอร์รี ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวๆ เค็มๆ เข้ากันได้ดีกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เราเลยมักจะเห็นซาวร์เคราต์เสิร์ฟคู่มากับไส้กรอก สเต๊ก หรือขาหมูเยอรมัน และ Toasted Sourdough (120 บาท) ขนมปังซาวร์โดที่ได้มาจากเพื่อนสนิทมิตรสหายของทางร้าน นำมาปิ้งพอหอมไฟ เสิร์ฟคู่กับรีคอตตาชีสและแยมที่ทางร้านทำเอง
Fig & Cloves Shaved Ice (130 บาท) และ Melons Shaved Ice (130 บาท)
Melons Shaved Ice (130 บาท)
อีกสิ่งที่น่าสนใจในร้านคือน้ำแข็งไสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโบ๊กเกี้ยที่ได้ไปลองชิมระหว่างทางไปทำตรายางสำหรับใช้ในร้าน จึงเอามาลองทำเป็นน้ำแข็งไสในแบบฉบับของตัวเอง บวกกับเมืองไทยเป็นเมืองร้อน คิดว่าใครๆ ก็ต้องชอบ Fig & Cloves Shaved Ice (130 บาท) น้ำแข็งไสถ้วยนี้อาจจะแปลกไปสักหน่อย แต่ถ้าคุณได้ลองชิมน่าจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก กลิ่นหอมๆ ของมะเดื่อฝรั่งและกานพลู พร้อมกับเยลลีกาแฟหอมๆ รสชาติของเยลลีกาแฟและสมุนไพรต่างๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าชอบรสเปรี้ยวหวาน Melons Shaved Ice (130 บาท) น้ำแข็งไสรวมแตง ไม่ว่าจะเป็นแตงไทย แตงกวา เยลลีแตงโม เก๊กฮวย เพิ่มความเปรี้ยวด้วยส้มโอ
Nangloeng Shophouse
Open: วันพุธ-วันศุกร์ เวลา 10.00-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น. (หยุดวันจันทร์และอังคาร)
Address: 96/2 ถนนจักรพรรดิพงษ์ กรุงเทพฯ
Budget: 100-500 บาท
Contact: 09 3550 5359
Website: https://www.facebook.com/nangloeng.shophouse
Map:
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์