×

Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings หนังกังฟู-กำลังภายในฉบับ Marvel ที่จุดชนวนให้จักรวาล MCU ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเดิม

15.10.2021
  • LOADING...
Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings

* บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings *

 

Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เอเชียเรื่องแรกจากจักรวาล Marvel Cinematic Universe ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่เหล่าสาวกภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อว่า Marvel Studios และผู้กำกับอย่าง Destin Daniel Cretton จะนำเสนอเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่เอเชียคนนี้ออกมาเป็นอย่างไร 

 

เพราะนอกจากที่ Shang-Chi จะมีความสำคัญในแง่ของการพาผู้ชมไปทำความรู้จักซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทในจักรวาล MCU เฟสที่ 4 รวมถึงเรื่องราวที่จะขึ้นอีกมากมายในอนาคต ภาพยนตร์ยังแบกรับหน้าที่นำเสนอภาพลักษณ์และวัฒนธรรมของคนเอเชียให้ผู้ชมทั่วโลกได้สัมผัส ภายใต้ชื่อของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Marvel

 

เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าอย่าง Black Panther (2018) ของผู้กำกับ Ryan Coogler ที่นอกจากจะเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกของ Marvel Studios ที่ใช้ทีมนักแสดงผิวดำเป็นหลักแล้ว ภาพยนตร์ยังนำเสนอวัฒนธรรมของชาวแอฟริกัน-อเมริกันออกมาได้อย่างโดดเด่น ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ภาษา ความเชื่อ ดนตรีประกอบ ไปจนถึงประเด็นการถูกกดขี่ของคนผิวดำเพื่อให้ผู้ชมทั่วโลกได้ตระหนักถึงประเด็นดังกล่าวมากยิ่งขึ้น 

 

และดูเหมือนว่าผู้กำกับและทีมงานเบื้องหลังของ Shang-Chi จะสร้างสรรค์องค์ประกอบเหล่านี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้ Black Panther เลยทีเดียว

 

 

Shang-Chi จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ ชางชี (Simu Liu) พนักงานโรงแรมหนุ่มที่คอยนำรถลูกค้าไปจอดในที่จอดรถ ซึ่งแม้หน้าที่การงานของเขาจะดูจำเจ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตแสนธรรมดานี้ไปพร้อมกับ เคที (Awkwafina) เพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน 

 

แต่แล้วชีวิตอันแสนเรียบง่ายของชางชีก็ต้องจบลง เมื่อ เหวิ่นวู (Leung Chiu Wai ) พ่อของเขาที่เป็นถึงผู้นำองค์กร Ten Rings และเป็นผู้ครอบครองกำไลวิเศษทั้ง 10 วง ได้ส่งนักฆ่าฝีมือดีมาตามตัวเขา และ เซียหลิง (Meng’er Zhang) ผู้เป็นน้องสาวให้กลับไปยังบ้านเกิดเพื่อทำเป้าหมายบางอย่างให้สำเร็จ และร่วมกันปลุกปั้นองค์กร Ten Rings ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง ชางชีจึงต้องร่วมมือกับเซียหลิงและเคทีเพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายของพ่อในครั้งนี้

 

 

องค์ประกอบข้อหนึ่งของ Shang-Chi ที่โดดเด่นสะดุดตามากๆ คือฉากแอ็กชันที่ชวนให้เราคิดถึงภาพยนตร์แนวกังฟู-กำลังภายในหลายๆ เรื่อง ทั้งฉากที่ชางชีต้องถอดเสื้อเพื่อขึ้นไปสู้กับน้องสาวในลานประลอง ก็ชวนให้เราคิดถึงแอ็กชันสตาร์ระดับตำนานอย่าง Bruce Lee หรือฉากแอ็กชันบนรถเมล์ที่ชวนให้เราคิดถึงฉากต่อสู้บนรถเมล์สุดคลาสสิกใน Police Story (1985) ฉากไล่ล่าบนตึกไม้ใผ่จาก Rush Hour 2 (2001)  

 

เรียกได้ว่า Destin Daniel Cretton และทีมงานออกแบบฉากสตันท์ต่างสร้างสรรค์ฉากแอ็กชันทุกฉากด้วยความเคารพแก่ภาพยนตร์กังฟู-กำลังภายในสุดคลาสสิกหลายเรื่องๆ ซึ่งถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของทีมสร้างเป็นอย่างดี และสำหรับใครที่เป็นคอภาพยนตร์แนวๆ นี้อยู่แล้ว คุณจะต้องตกหลุมรัก Shang-Chi อย่างแน่นอน

 

อีกหนึ่งเรื่องที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัวคือ การที่ผู้กำกับกระจายบทบาทของตัวละครทุกตัวภายในเรื่องให้เราได้ทำความรู้จักเท่าๆ กัน ไม่มีตัวละครไหนเด่นเกินไปหรือมีบทบาทน้อยเกินไป ซึ่งช่วยให้ทุกตัวละครต่างมีฉากที่ทำให้ผู้ชมจดจำ

 

 

 

และอย่างที่เราเกริ่นไว้ในตอนแรก Shang-Chi ไม่ได้ทำหน้าที่แนะนำฮีโร่คนใหม่อย่างชางชีให้ผู้ชมได้รู้จักเท่านั้น แต่ยังนำเสนอวัฒนธรรมของคนเอเชียให้ผู้ชมทั่วโลกได้สัมผัส 

 

หนึ่งในประเด็นที่โดดเด่นที่สุดและเราชื่นชอบมากที่สุด คือการนำเสนอเรื่องราวของครอบครัวชาวจีนออกมาได้อย่างลึกซึ้งและครบถ้วนทุกมิติ ทั้งประเด็นการเคารพบรรพบุรุษ ภาวะการเป็นผู้นำในครอบครัวของคนเป็นพ่ออย่างเหวิ่นวู การเป็นลูกชายคนโตในครอบครัวอย่างชางชีที่ต้องแบกรับความคาดหวังของคนในตระกูล การเกิดเป็นลูกสาวคนเล็กอย่างเซียหลิงที่คนในครอบครัวมักจะให้ความสนใจกับลูกชายคนโตมากกว่าจนเหมือนว่าเธอไม่มีตัวตน 

 

ในขณะที่ตัวละคร เคที ผู้เป็นลูกสาวคนโตในครอบครัวชาวจีนก็กำลังหน้าที่เป็นตัวแทนของคนจีน (รวมถึงคนเอเชีย) ที่เกิดและเติบโตมาในวัฒนธรรมตะวันตก รวมถึงการต้องแบกรับความคาดหวังของครอบครัวในแง่มุมของการเป็นลูกสาวคนโต ซึ่งดูเหมือนจะหนักหนาสาหัสกว่าชางชีที่เป็นลูกชายพอสมควร    

 

ซึ่งประเด็นครอบครัวเหล่านี้ จึงยิ่งส่งเสริมให้พล็อตเรื่องหลักอย่างการต่อสู้ระหว่างชางชีและเหวิ่นวูมีความลึกซึ้งและมีมิติมากกว่าแค่การดวลหมัดใส่กัน แต่กลับเป็นเรื่องราวความขัดแย้งของครอบครัวที่ทุกตัวละครต่างก็มีเหตุและผลในการกระทำของตัวเองอย่างหนักแน่น ซึ่งทำให้เราค่อยๆ ทำความเข้าใจและหลงรักพวกเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น   

 

 

จากทั้งหมดที่กล่าวมา Shang-Chi ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานภาพยนตร์จาก Marvel Studios ที่พิสูจน์ให้ผู้ชมเห็นว่า ผลงานของพวกเขามิได้เป็นเพียงภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อมอบความบันเทิงแก่ผู้ชมเท่านั้น แต่มันยังสามารถเป็นสื่อกลางในการนำเสนอวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คน (รวมถึงเรื่องราวใน Black Panther เช่นกัน) ที่แตกต่างกันให้ผู้ชมทั่วโลกได้ทำความเข้าใจและเชื่อมโยงถึงกันไม่มากก็น้อย

 

ขณะเดียวกัน เรื่องราวต้นกำเนิดของซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่อย่างชางชี ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เข้ามาสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ชมและชักชวนให้เราร่วมติดตามกันต่อไปว่า ชางชีจะมีบทบาทสำคัญต่อจักรวาล MCU เฟสที่ 4 ต่อไปอย่างไร (ดังเช่นที่เราได้ชมกันไปแล้วในท้ายเครดิตของเรื่อง)

 

Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่

 

 

ภาพ: Marvel

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising