×

หุ้นไทยเปิดวันแรกปี 66 พุ่งแรงกว่า 11 จุด รับแรงหนุน ‘DELTA’ ทะยานแตะ 900 บาท โบรกเตือนระวังแรงขายทำกำไร

03.01.2023
  • LOADING...

SET Index เปิดตลาดซื้อขายวันนี้ (3 มกราคม) วันแรกของปี 2566 ที่ระดับ 1,675.70 จุด ปรับขึ้น 7.04 จุด หรือคิดเป็น +0.42% โดยระหว่างการซื้อขายช่วง 30 นาทีแรกปรับตัวขึ้นไประดับสูงสุดที่ 1,680.31 จุด พุ่งแรง 11.65 จุด หรือบวก 0.70% จากปิดตลาดวันที่ 30 ธันวาคม 2566 

 

ขณะที่ราคาหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดที่ 908 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นมากกว่า 70 บาท หรือราว 9% มีผลต่อ SET Index มากกว่า 6 จุด

 

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ให้เป้าหมายดัชนี SET Index ปีนี้ที่ 1,790 จุด อ้างอิง P/E Ratio ที่ 17 เท่า และกำไรต่อหุ้นของตลาด (EPS) ที่ 105 บาทต่อหุ้น โดยตลาดหุ้นไทยยังเป็นตัวเลือกที่ดีในภาวะที่ความไม่แน่นอนทั่วโลกสูง แต่มองตลาดหุ้นในช่วงต้นปีนี้อาจมีแรงทำกำไรบ้างจากปัจจัยกดดัน ได้แก่

 

  1. การครบกำหนด 7 ปีที่สามารถขายได้ของของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ลงทุนตั้งแต่ปี 2560 

 

  1. ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการปรับประมาณการกำไรของตลาดหุ้นต่างๆ 

 

  1. ส่วนต่างผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และหลายประเทศที่สูงเกือบ 4% ทำให้อาจเห็นเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นเข้าตลาดพันธบัตร หากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลง รวมไปถึงหากธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ไทยและอาเซียนมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าภาพรวมของโลก มีระดับหนี้สินต่ำ และเงินทุนสำรองในระดับสูง ทำให้ยังน่าจะเป็นเป้าหมายของเงินลงทุนต่างชาติ

 

พร้อมทั้งประเมินว่ากำไรของตลาดหุ้นไทยจะเติบโตไม่น่าสนใจ คาดการณ์กำไร SET Index ปี 2566 เติบโตเพียง 2% โดยมีแนวโน้มถูกถ่วงจากหุ้นกลุ่มอิงเศรษฐกิจโลก เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี และส่งออก 

 

อย่างไรก็ตาม หากไม่รวม (Excluding) ผลประกอบการกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ส่วนกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 21% แต่ความโดดเด่นอยู่ในกลุ่มหุ้นบริโภค โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาในหุ้นที่อิงการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ

 

ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีในวันนี้ มีแนวรับที่ 1,653 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,670-1,690 จุด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising