หุ้นไทย เปิดดิ่ง 18 จุด ตามทิศทางหุ้นโลก ก่อนรีบาวด์ขึ้น โบรกเชื่อเป็นเพียงแรงขายช่วงสั้นและไม่รุนแรง

เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 กันยายน) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมออกมาที่ระดับ 8.3% จากปีก่อน สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 8.1% ส่งผลให้เกิดการตื่นตระหนกขาย (Panic Sell) ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้นหลักอย่าง Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ดิ่งลง 3.9-5%

ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้านี้ (14 กันยายน) เกือบทั้งหมดเปิดกระโดดลงเช่นกัน รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ซึ่งดัชนี SET เปิดลบไปประมาณ 18 จุด ที่ระดับ 1,643 จุด หรือราว 1% ก่อนที่ตลาดจะฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อย ลดช่วงลบลงไปเหลือประมาณ 10 จุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ตลาดหุ้นสำคัญอื่นๆ ช่วง 10.00 น. อย่าง Hang Seng ฮ่องกง ลดลง 2.7%, Nikkei225 ลดลง 2.1%, Taiwan Weighted ลดลง 1.6%, KOSPI เกาหลีใต้ ลดลง 1.4%, PSEi Composite ฟิลิปปินส์ ลดลง 1.4% และ China A50 ลดลง 0.7%

บล.เอเซียพลัส เชื่อว่าจะเป็นแรงขายที่ออกมาในระยะสั้นและไม่รุนแรงเท่าในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็นต้นเหตุ ทั้งนี้ เกราะป้องกันที่ช่วยลดผลกระทบประการหนึ่งคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจน เห็นได้จากตัวบ่งชี้อย่าง CCI และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนล่าสุดที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งเรามีมาตรการกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ โดยวันนี้คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,645-1,670 จุด

นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยหากมองในเชิงผลตอบแทนชดเชยความเสี่ยง หรือ Market Earning Yield Gap ก็พบว่าสูงถึง 4.5-4.6% เทียบกับค่าเฉลี่ย MSCI World ที่ต่ำกว่า 2.5%

ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด ทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะใช้นโยบายทางการเงินเชิงรุกต่อไป โดยความคาดหวังในการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed สำหรับการประชุมครั้งหน้า ล่าสุดมีโอกาส 67% ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% และให้โอกาส 33% ที่จะขึ้นดอกเบี้ย 1% ประเด็นดังกล่าวหนุนเม็ดเงินเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินดอลลาร์ ทำให้ Dollar Index แข็งค่าอีก 1.1% และ Bond Yield สหรัฐฯ ปรับขึ้นยกแผงราว 2.6-4.4%

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH