‘เสรีพิศุทธ์’ เล็งเอาผิดเสกสกล แจ้งเท็จ-ซื้อเสียง-เรียกรับประโยชน์ ชี้ถ้าธรรมนัสยังสวามิภักดิ์ เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น

วานนี้ (7 เมษายน) รายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ เผยแพร่ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD สัมภาษณ์ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) และ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กมธ.ป.ป.ช. กรณีตรวจสอบคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา กับ จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการรับเงิน 15 ล้านบาท เพื่อไปใช้ในการเลือกตั้ง

 

ผู้ดำเนินรายการถาม พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ว่าเชื่อหรือไม่ที่เสกสกลยืนยันว่าล้อเล่น

  

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เชื่อได้ที่ไหน เพราะถ้าฟังคำพูด มันสอดรับเป็นเรื่องเป็นราวปะติดปะต่อ เป็นความจริง ถ้าพูดเล่นก็จะพูดไม่เป็นเรื่องเป็นราวสอดรับกันแบบนี้ 

 

ส่วนความชัดเจนของหลักฐาน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ชัดเจนโดยตัวของมันอยู่แล้ว เพราะเสกสกลกับจุรีพรก็รับว่าเป็นเสียงของตัวเอง เพียงแต่เบี่ยงเบนเป็นว่าพูดเล่น ตรงนี้ใกล้จบแล้ว ทีนี้ในประเด็นที่พูดแยกออกเป็น 2 ประเด็น 

 

• ประเด็นที่หนึ่ง เรื่องการเลือกตั้ง 
• ประเด็นที่สอง คือการปฏิบัติหน้าที่ของเสกสกล ซึ่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา 

 

เรื่องแรก เป็นเรื่องเก่าซึ่งไม่ได้หมดอายุความ สามารถดำเนินคดีและเอาผิดได้ เสกสกลไปพูดว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อปี 2562 ลงเขต 10 โคราช สู้กับโรงแป้งมันซึ่งโรงแป้งมันเขาดูแล ส.ส. ทั้งจังหวัด ถ้าได้กี่คนเขาจะได้เป็นรัฐมนตรี ตอนนี้ก็เป็นรัฐมนตรีจริงๆ ในพรรคภูมิใจไทย 

 

แล้วตอนนั้นเสกสกลไปสู้กับเขา ถมเท่าไรก็ไม่เต็มหรอก สู้เขาไปแล้วก็พูดมาในคลิป หมดไปร้อยกว่าล้าน แล้วไปขอยืมกองสลากพลัสมาอีก 15 ล้านบาท ตอนนั้นไม่ว่ารู้ซื้อขายลอตเตอรี่ เพิ่งมารู้ภายหลัง ไปยืมเขา 15 ล้านบาทก็ไม่ได้คืนเขา แล้วมายืม 15 ล้านบาทเพื่อจะไปใช้คืน 

 

ผู้ดำเนินรายการถามถึงกรณีกองสลากพลัส ระบุว่าไม่เคยให้เสกสกล 15 ล้านบาท 

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เขาจะไม่พูดความจริงหรอก พูดไปทำไม เหมือนจับ ส.ส. อ้าปากพูดว่าได้รับเงินเดือนจากพรรคไหม ไม่มีใครพูดหรอก ยกมือแล้วได้เงินไหมทีละ 1-2 ล้านบาท มีใครพูดบ้างล่ะ หรือย้ายพรรคเอาไปคนละ 30 ล้านบาท ได้ยินตลอดเวลานะ แต่ถ้าให้มายืนยัน ไม่มีใครยืนยันหรอก 

 

ในกรณีนี้เช่นเดียวกัน กองสลากพลัสเขาไม่ยืนยันหรอก ถ้า พล.อ. ประยุทธ์และเสกสกลยังมีอำนาจอยู่ แล้วกองสลากพลัสยืนยันว่าให้เงิน กองสลากพลัสก็จะอยู่ไม่ได้ เขาจะยืนยันไปทำไม รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ได้เงินกลับคืน 15 ล้านบาทก็บุญแล้ว 

 

“ผมก็คิดว่าเขาจะออกมาแบบนี้ เพราะฉะนั้น กองสลากพลัสไม่อยู่ในคิวที่ผมจะเรียกมาเลย เพราะรู้ถ้าเขามาเขาต้องปฏิเสธอยู่แล้ว”

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ต้องเรียกนายกิ๊กมาหรือไม่ 

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ฟังอีกคลิปที่จุรีพรพูดกับผู้ชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าชื่อกิ๊ก ตรงนี้แม้ไม่เคยเห็นหน้าแต่ก็ยังเชื่อว่ามีบุคคลที่สามที่ไปอัดคลิปนี้มา ในการอัดคลิปนี้ เชื่อว่าเป็นแผนของบางคนที่พยายามล้วงความลับอะไรต่างๆ ให้ได้

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ง่าย ไม่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานอะไรมากเลย ประเด็นเรื่องรายงานค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ ก็ตามกฎหมายผู้สมัครเขตเขาห้ามไม่ให้ใช้เงินเกิน 1.5 ล้านบาท ถ้าพรรคไม่ให้ใช้เงินเกิน 35 ล้านบาท 

 

“ผมเชื่อว่าทุกคน ใครใช้เกิน ใครใช้ไม่เกิน ก็รายงานภายในขอบเขต ดังนั้น ผมก็เชื่อ เสกสกลรายงานไปไม่เกิน 1.5 ล้าน ซึ่ง กกต. ก็เอาผิดไม่ได้เพราะอยู่ในขอบเขต แต่วันนี้มีเสียงพูดเองใช้ไปร้อยกว่าล้าน ยังไม่พอ ไปยืมเขาอีก 15 ล้าน คำพูดของเสกสกลมันชัดเจนว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วใช้เงินไปร้อยกว่าล้าน ฉะนั้น คำพูดเหล่านี้ฟ้องอยู่ในตัว เป็นความผิดอยู่แล้ว จะเชิญเลขาธิการ กกต. เอารายงานค่าใช้จ่ายของเสกสกลมาดู รายงานเท่าไร แต่พูดร้อยกว่าล้าน กมธ. ก็ต้องส่งเรื่องให้ กกต. ไปดำเนินคดี”

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องเงินก็มีข้อความต่อๆ มาว่า เดี๋ยวต้องไปจับแล้ว เดี๋ยวจับมา มันโวยตาย ต้องหาเงินไปใช้เขาก่อน ค่อยไปจับ ฉะนั้น ที่ปรากฏเป็นข่าว กองสลากพลัสบอกไม่มี ก็เพราะเขาใช้ไปแล้ว แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรมาก จับไปวันนี้ พรุ่งนี้เปิดใหม่ก็ได้เหมือนบ่อนการพนัน ไม่ได้เสียหายอะไรมาก 

 

การเรียกเงิน 15 ล้านบาท เสกสกลเป็นเจ้าหน้าที่ มีตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ การโทรเข้ามาเป็นการเรียกรับทรัพย์สิน 15 ล้านบาท ถ้าขอยืม ก็ยังถือเป็นการยืม แต่นี่ขอ 15 ล้านบาท ส่วนจุรีพรขอเรื่องหวย 

 

คือเป็นการเรียกทรัพย์สิน เพื่อประโยชน์ตนเองโดยมิชอบ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นอกจากนั้นยังผิดจริยธรรมของนักการเมือง เช่นเดียวกับ ปารีณา ไกรคุปต์ เรื่องจริยธรรมนักการเมือง ต่างกันที่เสกสกลสอบตก แต่ พล.อ. ประยุทธ์แต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เข้าข่ายอยู่แล้ว คดีนี้ง่ายมาก 

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า กระบวนการหลังจากนี้ใช้เวลาแค่ไหน 

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า วันนี้ขอมติบรรจุเรื่องนี้ให้ กมธ. ดำเนินการแล้ว หลังจากนี้ก็จะมีการบรรจุและเชิญบุคคลต่างๆ มาแถลงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น 2 เรื่อง ทั้งเรื่องการเลือกตั้ง เรื่องขอเงินเขา จะบรรจุวาระได้วันที่ 27-28 เมษายนนี้ เรื่องนี้ยืนยันง่าย ไม่ยาก ประเด็นแรกเชิญมาไม่กี่คนเรื่องซื้อเสียง ที่ชัดเจนคือ ต้องเชิญเลขาธิการ กกต. แล้วก็เอาหลักฐาน การรายงานค่าใช้จ่ายต่างๆ มาให้ด้วย 

 

ส่วนเรื่องเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินก็สอบไม่ยาก คือเราไม่ใช่ศาล ไม่จำเป็นต้องละเอียดมาก กรรมาธิการมีหน้าที่สอบหาข้อเท็จจริงว่า มีการกระทำความผิดปฏิบัติหน้าที่ชอบหรือไม่ชอบ ถ้าเพียงมีมูลเท่านั้น ก็ส่งให้หน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบดำเนินการต่อไป เช่น ทางอาญาหรือจริยธรรมก็ส่งไปสำนักงาน ป.ป.ช. 

 

ถ้าเป็นการเลือกตั้งก็ส่งไป กกต. หรือส่งไป พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้บังคับบัญชา อย่างไรก็ต้องส่ง แม้ พล.อ. ประยุทธ์จะไม่ตั้งกรรมการสอบสวนเสกสกลก็ตาม แต่จริงๆ แล้ว พล.อ. ประยุทธ์ก็ถือว่าผิดจริยธรรมร้ายแรงเหมือนกัน

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่านายกฯ ต้องมีส่วนรับผิดชอบอย่างไร หากเสกสกลผิดจริง 

 

พล.ต.อ.เ สรีพิศุทธ์กล่าวว่า ถ้าลำดับเรื่องราวทั้งหมดก็ตั้งแต่เดือนกันยายน อภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้ว ร.อ. ธรรมนัสเป็นกบฏ มาเรียกร้องพรรคเล็ก พรรคน้อย พูดง่ายๆ ซื้อกันเลย ให้ยกมือไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ ทีนี้พรรคเล็กมีสิบกว่าพรรค ก็จะต้องมี 1-2 คน คาบข่าวไปบอก พอ พล.อ. ประยุทธ์รู้ข่าวก็ไปหา พล.อ. ประวิตร ส่วน พล.อ. ประวิตรก็หยุด พล.อ. ประวิตรก็รู้เรื่องไม่อย่างนั้น ร.อ. ธรรมนัสไม่กล้าออกมาดำเนินการ พล.อ. ประยุทธ์ไม่หยุดแค่นั้น พล.อ. ประยุทธ์ปลด ร.อ. ธรรมนัสออกจากรัฐมนตรีช่วย

 

ร.อ. ธรรมนัสเป็นเสือ เรื่องอะไรจะให้ฆ่าง่ายๆ พอถูกปลดก็ยกพลพรรคออกมา 18-19 คน ถ้ามีอภิปรายไม่ไว้วางใจ กูไม่เอามึงแน่ อะไรแบบนี้ ยกมือให้ฝ่ายค้านแน่ ทำนองนี้ 

 

พอ ร.อ. ธรรมนัสทำแบบนี้ พล.อ. ประยุทธ์ก็เห็นว่า ร.อ. ธรรมนัสเป็นเลขาธิการพรรค ต้องดูแลผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทางที่ดีที่สุดต้องตัดท่อน้ำเลี้ยง ร.อ. ธรรมนัส ตัดอย่างไร รู้กันอยู่ ร.อ. ธรรมนัสมีโควตาหวยกลุ่มเสือแดง ตัดท่อน้ำเลี้ยงโดยตั้งเสกสกลขึ้นมา ไปจัดการให้ได้ ถ้าจัดการเสือแดงอย่างเดียวก็ดูน่าเกลียด มีเท่าไรก็ต้องจัดการไป นี่คือวิธีการ ถ้าเราเอาภาพรวมมาสรุปจะเป็นแบบนี้ กรณีนี้สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้แต่ต้องใช้เวลาหน่อย ส่วนเรื่องเสกสกลประเด็นไม่ยาก 

 

“ประยุทธ์เป็นนายกฯ มา 7-8 ปีแล้ว เพิ่งมาคิดปราบหวยหรือ ทำไมถึงเพิ่งคิดปราบ ก็อย่างที่เล่าไป ถ้าตราบใดที่ธรรมนัสยังสวามิภักดิ์ เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้นหรอก” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าว