หลังจากที่เราได้เห็นข่าวหลายๆ กิจการดังๆ ในโลก ทยอยถอนตัวและเลิกล้มกิจการในประเทศรัสเซียอันเนื่องมาจากสถานการณ์ด้านสงครามและวิกฤตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ยืดเยื้อและไม่มีความแน่นอน ทำให้ Sephora ร้านที่รวบรวมแบรนด์ความงามชื่อดังจากทั่วโลก ตัดสินใจถอนตัวออกจากประเทศรัสเซียแล้ว
โดยทาง Sephora ได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการเทขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทย่อยที่ดำเนินกิจการในรัสเซียให้กับผู้จัดการทั่วไปที่นั่นเพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือให้พนักงานที่นั่น ทางด้าน LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton ซึ่งเป็นเครือบริษัทมหาชนข้ามชาติของสหภาพยุโรปที่เป็นเจ้าของผู้ค้าปลีก ได้ระงับการดำเนินกิจการในรัสเซียหลังจากเริ่มสงครามยูเครนแล้ว และ Sephora ได้ออกแถลงการณ์ต่อว่า เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์และวิกฤตที่ซับซ้อนในการดำเนินกิจการในรัสเซีย ทาง Sephora จึงจะทำการปิดร้านค้า รวมถึงอีคอมเมิร์ซทั้งหมดในรัสเซีย เพื่อความปลอดภัยของทีมที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Sephora ให้ความสำคัญและพร้อมจะให้การสนับสนุนเหล่าพนักงานต่อไปในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ โดยเมื่อข้อตกลงกับผู้จัดการทั่วไปของ Sephora ในรัสเซียจบลง กิจกรรมต่างๆ จะดำเนินการต่อไปภายใต้แบรนด์ค้าปลีกของรัสเซียอย่าง Île de Beauté
สำหรับร้านค้า Sephora นั้น ได้เข้าสู่รัสเซียผ่านระบบแฟรนไชส์ และค่อยๆ เข้าถือหุ้นเริ่มจาก 45% ใน Île de Beauté ในเดือนตุลาคม 2008 จากนั้น Sephora ค่อยๆ เข้าถือหุ้นใน Île de Beauté มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งร้าน Sephora ขึ้นเป็นหัวเรือใหญ่ในการคุมร้านค้าปลีกในรัสเซียอย่างสมบูรณ์ในปี 2016 หลังจากนั้นแบรนด์ Sephora ได้เปิดตัวในรัสเซีย และร้าน Île de Beauté ก็ได้รีแบรนด์เป็นชื่อ Sephora เต็มตัว โดยในประเทศรัสเซีย Sephora มีร้านค้าปลีกจำนวน 88 แห่ง และอีคอมเมิร์ซในรัสเซียด้วย หลังจากนี้คงต้องมาดูกันว่าเมื่อกลับมาเป็นร้านความงามภายใต้ชื่อ Île de Beauté แล้วจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะตามข้อมูลจากแหล่งอุตสาหกรรมความงามระบุว่า ธุรกิจของร้าน Sephora นั้น สร้างรายได้น้อยกว่า 3% ของยอดขายทั้งหมดของผู้ค้าปลีกในรัสเซีย
ภาพ: Instagram/ sephora_russia
อ้างอิง:
