วันนี้ (30 พ.ค.) ที่ศาลจังหวัดพระโขนง นัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 3917/2561 ระหว่างพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ โจทก์ กับมณีรัตน์ แสงภัทรโชติ ที่ 1 และ รัตนฉัตร แสงหยกตระการ ที่ 2 จำเลย ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2561 รชนิกร เลิศวาสนา ได้ขับรถยนต์กระบะมาจอดขวางหน้าบ้านของมณีรัตน์และรัตนฉัตร จนจำเลยทั้งสองคนไม่สามารถขับรถออกจากบ้านได้ จึงบันดาลโทสะใช้ขวานและเสียมทุบรถของรชนิกรได้รับความเสียหาย
โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 2 มีความผิดจริงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 และ 83 จำคุกคนละ 3 เดือน และปรับคนละ 18,000 บาท แต่ทั้งนี้ ทางนำสืบของจำเลยทั้ง 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกคนละ 2 เดือนและปรับคนละ 12,000 บาท และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิด เพราะความเครียดและความโกรธสะสมมาเป็นเวลานาน ความผิดที่กระทำไม่ร้ายแรง จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยทั้งสองกลับตนเป็นพลเมืองดี ส่วนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
ด้านอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของจำเลยในคดีดังกล่าวเปิดเผยว่า ในกรณีของคดีความการทุบรถนั้น ผู้กระทำได้ยอมรับว่าทำจริงๆ โดยได้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 37,000 บาท แต่ทางเราได้เลือกเยียวยาไป 50,000 บาท ซึ่งมีหลักฐานต่างๆ ประกอบอยู่อย่างชัดเจน พร้อมขอบคุณประชาชนที่คอยให้กำลังใจคุณป้าทั้งสองคน รวมถึงผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระโขนง ที่ได้เมตตาให้ความเป็นธรรมกับคุณป้าทั้งสองคนกับการตัดสินในครั้งนี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์