×

ส.ว. สมชาย หนุนเปิดประชุมสภาวิสามัญ หาทางออกประเทศ

โดย THE STANDARD TEAM
20.10.2020
  • LOADING...
ส.ว. สมชาย หนุนเปิดประชุมสภาวิสามัญ หาทางออกประเทศ

วันนี้ (20 ตุลาคม) สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกให้กับประเทศว่า การประชุมเป็นทางออกอีกทางหนึ่งที่จะทำให้ประเทศไม่เดินไปถึงทางตัน สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะการให้ฝ่ายค้าน รัฐบาล และ ส.ว. ใช้เวทีรัฐสภาแสดงความคิดเห็นถือว่าเหมาะสมกว่าการใช้เวทีอื่นที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง ความรุนแรง หรือการรัฐประหาร อย่างเช่นในกรณีปี 2557 ที่เคยพยายามใช้เวทีรัฐสภาในการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นบทเรียนว่าหากทางออกในสภาเดินต่อไปได้ ความขัดแย้งหรือการปิดถนนประท้วงก็จะคลี่คลายลง ทั้งนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 วัน 

 

ส่วนกรณีที่ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาหลังไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนคิดว่าเป็นแค่คนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อมั่น พร้อมย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใช้เวลา ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยากล้มก็ล้มเลย ต้องกลับไปถามประชาชนอีก 60 กว่าล้านคนว่าเห็นด้วยหรือไม่ จุดอ่อนของกฎหมายสามารถแก้ไขได้ แต่จะแก้ประเด็นใดเพื่อผลประโยชน์ของใครยังไม่มีความชัดเจน ไม่ใช่ว่าไม่พอใจก็จะร่างใหม่ทั้งหมดเหมือนเป็นการเล่นเกมหรือไม่ และเมื่อแก้เสร็จก็จะมีมวลชนที่ต้องการอีกอย่างออกมาเคลื่อนไหวอีก ดังนั้นเราต้องยึดหลักการของกฎหมายควบคู่ไปกับการรับฟังของผู้เห็นต่าง โดยเอาผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นหลัก ไม่มีใครได้อะไรทั้งหมด

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทันทีที่เปิดประชุมสมัยสามัญ ส.ว. ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ สมชายกล่าวว่าเป็นเรื่องปกติที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะกดดัน แต่ ส.ส. และ ส.ว. มีวุฒิภาวะต้องตัดสินใจตามข้อเท็จจริง ยึดประโยชน์ของประเทศชาติ การรับหรือไม่รับหลักการเป็นเอกสิทธิ์ และอย่าเพิ่งคิดไปไกลว่าจะไม่รับหลักการ แต่ยืนยันว่าได้ศึกษารายละเอียดไปไกลแล้ว 

 

ส่วน 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร 2 ข้อแรกไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนข้อที่ 3 นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดในเรื่องของงบประมาณสำนักพระราชวัง ซึ่งหากมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญแล้วจะสามารถอธิบายถึงรายละเอียดเรื่องจริงต่างๆ ให้ประชาชนเข้าใจได้

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising