ประเด็นเรื่องบูลลี่ในเมืองไทยดูท่าจะไม่ใช่คลื่นใต้น้ำลูกเล็กๆ อีกต่อไป นับวันจะทวีความรุนแรงไม่ต่างอะไรกับสึนามิที่รอเวลาทำลายสังคมแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้าไม่เกิดการกลั่นแกล้งรุนแรงจนเป็นข่าว ประเด็นนี้ก็คงถูกเลื่อนลำดับความสำคัญไปท้ายแถว ทั้งที่ความจริง บูลลี่ เป็นความรุนแรงรูปแบบหนึ่ง คนที่ถูกกลั่นแกล้ง ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอ อาจเสี่ยงต่อภาวะเครียด ลุกลามกลายเป็นโรคซึมเศร้าถึงขั้นทำร้ายตัวเอง หรือทวีความรุนแรงตอบโต้คนที่กลั่นแกล้งจนเกิดเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจ สร้างผลกระทบต่อไปไม่รู้จบ

 

 

แล้วปัญหาบูลลี่ควรแก้ที่ใคร?
ให้จับคนที่ชอบกลั่นแกล้งคนอื่นมาปรับทัศนคติคงจะเป็นเรื่องยาก ไซเบอร์บูลลี่ ยิ่งยากใหญ่ เมื่อโลกออนไลน์เปิดโอกาสให้ทุกคนทำร้ายกันด้วยข้อความได้อย่างเสรี ครั้นจะห้ามปากไม่ให้พูดหรือจับมือไม่ให้พิมพ์ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามก็เกินควบคุม วิธีเดียวที่จะทำให้สถานการณ์เบาบางลงคงต้องหันมาสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง และอาจจะต้องปลูกฝังเรื่องนี้กันตั้งแต่ยังเล็ก แต่การสร้างความเข้มแข็งจากภายในดูเป็นงานใหญ่สำหรับเด็ก ดังนั้นพ่อแม่และคนในครอบครัวจึงต้องช่วยกันสร้างความเข้มแข็ง เพื่อเป็นเกราะป้องกันที่จะทำให้เด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นมา พร้อมเผชิญทุกอุปสรรค ไม่หวั่นแม้เจอคำดูถูกเหยียดหยามหรือสถานการณ์ใดๆ 

 

ภาพยนตร์โฆษณา ‘ยิ้มสู้ได้แม่’ จากคอลเกต บอกเล่าเรื่องราวชีวิตจริงของ น้ำหวาน-ชุติมา เนตรสุริวงค์ เด็กสาวที่ถูกบูลลี่ตั้งแต่เด็ก เพียงเพราะเธอมีสภาวะบกพร่องทางการได้ยิน 

 

สิ่งเดียวที่เธอจะรับรู้จากคนรอบข้างคือการอ่านปาก และคำอ่านที่เธอตีความได้จากสภาพแวดล้อมภายนอก คือ การถูกตีตราว่าเป็นเด็กประหลาด ในขณะเดียวกัน สิ่งเดียวที่ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงพลังใจคือ ‘รอยยิ้มของแม่’ แม่ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดบทเรียนสำคัญนี้ผ่านรอยยิ้ม ยิ้มที่ส่งความรักและกำลังใจ ไม่ว่าจะผ่านทุกข์ พบสุข ใบหน้าเปื้อนยิ้มของแม่จะปรากฏให้เห็นทุกครั้งที่หันไปมอง ทำให้คนอย่างเธอที่เกิดมาแต้มต่อน้อยกว่าคนปกติ เติบโตขึ้นมาได้อย่างงดงาม  

 

 

“ไม่ชอบใช่ไหมเวลาโดนแกล้ง แต่เราคงทำอะไรพวกเขาไม่ได้หรอก”

ทำอะไรไม่ได้ในความหมายของแม่ คือ เราคงเปลี่ยนอะไรคนเหล่านั้นไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือ จงเชื่อมั่นและรักในสิ่งที่ตัวเองเป็น และไม่ว่าจะพบเจอกับเรื่องใด จง ‘ยิ้มสู้’ เข้าไว้ ยิ้มสู้ให้เหมือนแม่ ยิ้มให้กับทุกอุปสรรค ยิ้มที่มอบพลังใจให้ตัวเอง ยิ้มที่ส่งพลังใจให้คนที่ได้เห็น ยิ้มแล้วสู้ต่อด้วยความเข้มแข็ง

 

เพราะรอยยิ้มอันทรงพลังจากแม่นั่นเอง จึงทำให้เธอฝ่าฟันอุปสรรคจนคว้ามงกุฎนางงามผู้บกพร่องทางการได้ยินเป็นคนแรกในเวที Miss Deaf World ปี 2017 โดยมีคุณแม่เป็นกำลังใจคนสำคัญ  

 

เรื่องจริงของ น้ำหวาน-ชุติมา เนตรสุริวงค์ Miss Deaf World ปี 2017

 

ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก ถ้าน้ำหวานทำได้ แล้วทำไมเราทุกคนจะทำไม่ได้ และคุณจะประหลาดใจเมื่อได้ฝึกทักษะ #ยิ้มสู้ กับทุกอุปสรรค เพราะนี่จะเป็นรอยยิ้มที่ซ่อนความเข้มแข็งของคุณเอาไว้ เป็นรอยยิ้มที่ใช้พูดแทนความห่วงใย และเป็นรอยยิ้มที่อัดแน่นไปด้วยพลังใจอันยิ่งใหญ่ไว้ส่งต่อให้กับคนที่คุณรัก 

 

 

เพราะคอลเกตเชื่อว่า ‘ความเข้มแข็งจากภายใน’ สร้างกันได้ จึงให้ความสำคัญและสนับสนุนให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นในตัวเอง คิดบวกกับทุกเรื่อง แล้วลงมือทำโดยไม่ท้อถอย ด้วยการส่งต่อ ‘รอยยิ้ม’ แทนความห่วงใย ส่งต่อพลังใจให้ทุกคน ‘ยิ้มสู้’ ได้ในทุกวัน 

 

หลังจากดูภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้จบ เราอยากให้คุณเริ่มต้นวันด้วยการยิ้มให้กับตัวเอง ส่งยิ้มให้กับคนที่คุณรัก ให้พร้อม #ยิ้มสู้ กับทุกปัญหา และกล้าทำในสิ่งที่ฝันไว้ให้เต็มที่ ให้สุดพลังของคุณ 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์