สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกแถลงการณ์ว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนขั้นต่ำ ที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนและการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอความเห็นชอบ เป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนครั้งถัดไปสำหรับผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีนอกตลาดทุน เพื่อผลักดันให้สำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนเข้มแข็งและมีบุคลากรเพียงพอที่จะให้บริการแก่บริษัทจดทะเบียนอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ
ทั้งนี้ ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. มีแนวคิดในการกำหนดให้สำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนมีจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนขั้นต่ำที่เหมาะสม เพื่อผลักดันให้สำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนเข้มแข็งและมีบุคลากรเพียงพอที่จะให้บริการแก่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศดังกล่าวจากผู้เกี่ยวข้องแล้ว ผู้แสดงความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่เสนอ ดังนั้น ก.ล.ต. จึงออกประกาศ ปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
- กำหนดให้ผู้สอบบัญชีในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนที่มีผู้สอบบัญชีในตลาดทุนไม่น้อยกว่า 4 คน โดยมีผลบังคับใช้ทันทีสำหรับผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีนอกตลาดทุน ที่ยื่นขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 สำหรับผู้สอบบัญชีในตลาดทุนที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนอยู่แล้ว ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2569 เพื่อให้สำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนมีเวลาเตรียมความพร้อม และไม่กระทบต่อบริษัทจดทะเบียนที่ใช้บริการสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนในปัจจุบัน
- หลังจากประกาศมีผลใช้บังคับ หากผู้สอบบัญชีในตลาดทุนขาดคุณสมบัติตามที่ ก.ล.ต. กำหนด ให้ระยะเวลาแก้ไขคุณสมบัติภายใน 1 ปี โดยระหว่างการแก้ไขคุณสมบัติ สามารถปฏิบัติงานสอบบัญชีต่อไปได้เฉพาะงานสอบบัญชีที่ผู้สอบบัญชีดังกล่าวได้รับการแต่งตั้งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วเท่านั้น
- ยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนที่ยื่นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ยื่นคำขอความเห็นชอบครั้งแรก สำหรับผู้ยื่นคำขอความเห็นชอบที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีนอกตลาดทุนและมีผลการปฏิบัติงานสอบบัญชีผ่านเกณฑ์คุณภาพ แต่ ก.ล.ต. ปฏิเสธคำขอครั้งแรกด้วยเหตุที่สำนักงานสอบบัญชีมีจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนน้อยกว่า 4 คน
ทั้งนี้ ประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป