Sea Group ร่วมมือกับ World Economic Forum (WEF) จัดงาน Youth and Entrepreneurship in Thailand 4.0 ซึ่งแถลงผลการศึกษาที่รวบรวมมุมมองเกี่ยวกับการทำงาน ความท้าทายของการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต รวมถึงความคาดหวังต่อการทำงานในอนาคตของเยาวชนไทย จากผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 4.2 หมื่นคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน โดยมีเยาวชนไทย 1 หมื่นคนร่วมตอบแบบสอบถามด้วย
จากผลการศึกษาพบว่า 36% ของเยาวชนไทยที่ตอบแบบสอบถามอยากจะเป็นผู้ประกอบการ ทำธุรกิจของตัวเองในอนาคต ซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน เมื่อเทียบกับอินโดนีเซีย (24%), มาเลเซีย (26%), ฟิลิปปินส์ (19%), สิงคโปร์ (20%) และเวียดนาม (25%)
สิ่งที่น่าพิจารณาคือ ในกลุ่มเยาวชนผู้ตอบแบบสอบถาม ระดับการศึกษามีผลต่อความต้องการเป็นผู้ประกอบการ กลุ่มที่ระดับการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปต้องการเป็นผู้ประกอบการ 25% ขณะที่กลุ่มที่ระดับการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรีต้องการเป็นผู้ประกอบการถึง 42% เนื่องจากผู้ที่มีการศึกษาสูงกว่าจะมีทางเลือกและโอกาสที่หลากหลายกว่า ทั้งการทำงานข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรข้ามชาติ
สำหรับแนวคิดด้านการทำงานพบว่า กลุ่มที่ศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปให้ความสำคัญกับรายได้ที่สม่ำเสมอและสมดุลในชีวิตการทำงานมากกว่าคนที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่า และแม้ว่าประชากรไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างกว้างขวางแล้ว แต่มีเยาวชนไทยเพียง 10% เท่านั้นที่ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นแหล่งเรียนรู้ประจำ ซึ่งแสดงถึงข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้หรือค้นหาเนื้อหาที่สนใจได้ยาก
ในอนาคตที่คาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่าจะมีผู้ที่อยากเป็นผู้ประกอบการเองมากกว่าลูกจ้างนั้น ทักษะด้านดิจิทัลเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง รายงานชุดนี้ยังอ้างอิงจากการศึกษาของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ที่พบว่า การทำธุรกิจผ่านเครื่องมือออนไลน์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้ถึง 30% ซึ่งอีคอมเมิร์ซคือหัวใจสำคัญที่จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นอีก ซึ่งต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ออนไลน์ที่เข้าถึงผู้คนด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Sea (Thailand)