บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ประกาศผลประกอบการปี 2565 มีรายได้จากการขาย 569,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน หนุนจากธุรกิจแพ็กเกจจิ้งที่ขยายตัว 18% ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ขยายตัว 12% ส่วนธุรกิจเคมิคัลส์หดตัว 1%
อย่างไรก็ตาม EBITDA ของบริษัทหดตัว 33% มาอยู่ที่ 61,912 ล้านบาท และกำไรสำหรับหดตัว 55% มาอยู่ที่ 21,382 ล้านบาท เนื่องจากการหดตัวของธุรกิจเคมิคัลส์ นอกจากนี้บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 10,703 ล้านบาท ลดลง 6,840 ล้านบาท หรือ 39% จากปีก่อน
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2565 มีรายได้ 122,190 ล้านบาท ลดลง 14% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิลดลงเหลือ 157 ล้านบาท หดตัว 98% จากปีก่อน กดดันจากราคาขายและปริมาณขายสินค้าเคมีภัณฑ์และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
ธุรกิจเคมิคัลส์ช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เงินเฟ้อสูง และการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ในจีน ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคหดตัว ขณะที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีลดลง
ส่วนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในไทยแม้จะกลับมาขยายตัว 3% จากปีก่อน ในช่วงไตรมาส 4 หนุนจากราคาขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 2,000-2,050 บาทต่อตัน โดยความต้องการจากภาครัฐคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของตลาด ขยายตัว 4% จากปีก่อน ส่วนความต้องการจากภาคครัวเรือนและเอกชนคิดเป็นสัดส่วนรวมกัน 60% ขยายตัว 2 และ 3% ตามลำดับ แต่ความต้องการของตลาดในแง่จำนวนตันปูนซีเมนต์ยังต่ำกว่าไตรมาสก่อน และภาพรวมความต้องการทั้งปี 2565 ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดอย่างมีนัยสำคัญ
ในปี 2566 บริษัทคาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนที่จะขึ้นเกิดขึ้นประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ซึ่งใช้เงินลงทุน 52,188 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจเคมิคัลส์ 48% ธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง 27% ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 18% และส่วนงานอื่น 7%
ขณะที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2565 ที่ 2 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 7 เมษายน 2566 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 เมษายน 2566 โดยก่อนหน้านี้จ่ายปันผลไปแล้ว 6 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีจ่ายปันผล 8 บาทต่อหุ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
- “นี่เป็นราคาที่เราพึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย” เจ้าของสุกี้ตี๋น้อยกล่าวหลัง Jaymart ควักเงิน 1.2 พันล้านบาทเข้าถือหุ้น 30%
- ADVANC ทุ่ม 32,420 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการ 3BB จาก JAS
- กางแผน ‘โอ้กะจู๋’ หลังมี OR เป็นแบ็กอัป เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 60 แห่ง ขายผักสดและบุก CLMV ก่อน IPO ในปี 2567