“พื้นที่นี้ถูกสร้างขึ้นเพราะเราอยากเห็นวงการเทคโนโลยีไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยความตั้งใจของ SCBX NEXT TECH คือการให้เครื่องมือ สถานที่ และคอนเทนต์สำหรับผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีของประเทศไทยในการค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ” – สุธีรพันธุ์ สักรวัตร Chief Customer Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
สำหรับคนสายเทคโนโลยี การจะสร้างนวัตกรรมสักหนึ่งชิ้นนั้นนับเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้ ความมุ่งมั่น และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ ‘การได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้อื่น’ เพราะการได้พบปะพูดคุยกับผู้ที่มีความสนใจคล้ายกัน อาจนำมาสู่โอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจด้วยไอเดียใหม่ๆ ก็เป็นได้
THE STANDARD WEALTH ได้พูดคุยกับ สุธีรพันธุ์ สักรวัตร แห่ง SCBX ถึงวิสัยทัศน์และแรงบันดาลใจในการสร้าง SCBX NEXT TECH ที่ตั้งอยู่ ณ ชั้น 4 สยามพารากอน พื้นที่สำหรับผู้หลงใหลในเทคโนโลยี ที่เปิดโอกาสให้คน ‘แพสชันเหมือนกัน’ ได้เจอกันเพื่อยกระดับเทคคอมมูนิตี้ในประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง
ภาพ: สุธีรพันธุ์ สักรวัตร Chief Customer Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
ขอเริ่มกันจากพื้นที่แรกอย่าง AreaX by SCBX โซนจัดงานเวิร์กช็อปและกิจกรรม Meetup ที่ใครต่างก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ฟรี โดยพื้นที่นี้สามารถรองรับคนได้ประมาณ 20-30 คน
อีกหนึ่งไฮไลต์ภายใน AreaX คือ Developer Lounge เวิร์กสเตชันที่พร้อมไปด้วยจอมอนิเตอร์ โต๊ะปรับระดับ และเก้าอี้ ถือเป็นสเปซที่ตอบโจทย์คอนเซปต์ Work from Anywhere ซึ่งทุกคนสามารถเข้ามาใช้งานได้ในรูปแบบ ‘First Come First Serve’ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นอีกหนึ่งที่ให้กับชุมชนเทคโนโลยีในไทยได้มีช่องทางพบปะและทำงานร่วมกันใจกลางเมือง
ภาพ: พื้นที่ภายในบริเวณ AreaX ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมและ Developer Lounge
ต่อมาเป็น SCBX NEXT STAGE พื้นที่ใช้จัดงานเสวนาที่สามารถจุคนได้ตั้งแต่ 80 ไปจนถึง 300 คน ให้สามารถเข้าร่วมฟังการพูดคุยประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีได้ เช่น ‘SCBX การตลาดวันละคอน Marketing Trend 2024’ หรือ ‘Research Talk เจาะลึกจับเทรนด์ร้านอาหารปี 2024’ โดยตลอดประมาณ 3 เดือนสุดท้ายของปี 2023 ตั้งแต่เปิดตัวสถานที่ SCBX NEXT TECH มีงานอีเวนต์ที่จัดขึ้นเอง และร่วมกับพาร์ตเนอร์แล้วกว่า 90 งาน
“หลังจากที่ SCBX เปิดตัวพื้นที่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็น AreaX และ SCBX NEXT STAGE เรารู้สึกดีใจพร้อมทั้งประหลาดใจไปในเวลาเดียวกัน เราได้ค้นพบว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่กำลังสร้างหรือได้สร้างนวัตกรรมเจ๋งๆ ไว้แล้ว แต่ประเด็นที่ยังเป็นสิ่งขาดไปของวงการเทคของไทยในมุมมองของเราคือ ‘พื้นที่เปิดให้คนมาเชื่อมต่อกัน มาแชร์ความรู้และอินไซต์ร่วมกับผู้อื่น’ ซึ่งในอดีตพื้นที่แบบนี้หาได้ค่อนข้างยาก และเราก็ต้องการเป็นส่วนที่เข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้”
ภาพ: พื้นที่ SCBX NEXT STAGE
จากช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้งานสัมมนาเทคโนโลยีจะถูกจัดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่ข้อจำกัดเรื่องเวลาและความถี่ของงานในแต่ละปีก็เป็นประเด็นที่ SCBX มองเห็นถึงช่องว่างของความต้องการจากคนฟังที่อยากได้เนื้อหาที่เป็นเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
“หลายครั้งเนื้อหาบนเวทีเสวนาในเรื่องเทคโนโลยีที่จัดขึ้นโดยสื่อและสมาคมต่างๆ มีคุณภาพมาก แต่มันจะดีกว่าหรือไม่หากเราสามารถนำคนเก่งจากเวทีเหล่านั้นมาขยี้ต่อ มาล้วงอินไซต์เพิ่ม หรือแม้แต่ขยายโอกาสให้คนสายเทคหน้าใหม่ได้มาโชว์ศักยภาพของตัวเอง” สุธีรพันธุ์เล่าถึงบทบาทของ SCBX NEXT TECH ในการต่อยอดมุมมองจากคนเก่งในแวดวงเทคโนโลยีไทยให้กว้างขึ้น
ดังนั้นพื้นที่อย่าง AreaX หรือ SCBX NEXT STAGE ก็จะทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวเชื่อมให้นักพัฒนาเทคโนโลยีได้มีเวทีในการแชร์สิ่งที่ตัวเองทำสู่สาธารณะ ในขณะที่ผู้เข้าร่วมฟังที่เป็นสาธารณะก็ได้รับอินไซต์และได้อัปเดตตัวเองให้เท่าทันเทรนด์เทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ SCBX ยังมีความเชื่อว่า การจะสร้างเทคคอมมูนิตี้ให้แข็งแรงจะต้องเริ่มจากกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้คนมาเจอกัน มาแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่บ่อยๆ ด้วยเหตุนี้ SCBX จึงมีพื้นที่ของตัวเองเพื่อจัดงานสัมมนาใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมาบุคคลทั่วไปได้เข้ามาร่วมงานเสวนาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความสนใจและความสำคัญของ ‘พื้นที่เปิด’ สำหรับทุกคนที่มีความสนใจในเทคโนโลยีได้มารวมตัวกัน
มองข้างหน้าต่อไปในปี 2024 ที่พัฒนาการทางเทคโนโลยีมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่ออย่างรวดเร็ว SCBX จึงมีความตั้งใจว่างานสัมมนาจะเกิดขึ้นในทุกๆ สัปดาห์ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงแหล่งความรู้และใกล้ชิดกับกลุ่มคนที่แชร์แพสชันร่วมกัน จนสามารถเกิดเป็น ‘เทคคอมมูนิตี้’ ที่แข็งแกร่งได้