SCBAM มองสัญญาณเศรษฐกิจจีนปีนี้ฟื้นแรง มีลุ้น GDP โตแซง 5% อานิสงส์การบริโภคภายในและภาคบริการฟื้นชัด และรัฐบาลเร่งเครื่องกระตุ้นกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย แนะลงทุนกลุ่มหุ้นได้ประโยชน์ระยะยาว A-Share และ H-Share
วิไล ชยางคเสน ผู้บริหารฝ่ายจัดสรรสินทรัพย์การลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยผ่านรายการ Morning Wealth ว่า หลังจากจีนรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/23 ที่ขยายตัวขึ้น 4.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยคาดว่า GDP ทั้งปีนี้ของจีนมีโอกาสขยายตัวมากกว่าระดับ 5% เพราะมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากแรงส่งของการกลับมาเปิดประเทศ (Reopening Economy) ทำให้ภาคบริการและการบริโภคฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะภาคบริการยังมีแนวโน้มการขยายตัวที่สูง โดยมีตัวเลข PMI ออกมาเกินระดับ 50 ซึ่งเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ยังต่อเนื่อง
อีกทั้งจากข้อมูลการออมภาคครัวเรือน (Household Saving) ช่วงไตรมาส 1/23 ผู้บริโภคของจีนเริ่มทยอยนำเงินที่เก็บออมในช่วงที่โควิดระบาดออกมาใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้นในช่วงไตรมาส 2/23 มีโอกาสที่การจับจ่ายของภาคครัวเรือนจะทำให้เกิดแนวโน้มที่ฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังต้องติดตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่หันมาเน้นการกระตุ้นแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้นในอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมาย เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาของที่อยู่อาศัยยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลบวกให้ภาคเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวก่อนหน้านี้มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในระยะถัดไป
สำหรับปัจจัยท้าทายในระยะสั้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนคือ นโยบายของสหรัฐอเมริกาที่ต้องการกีดกันบริษัทในสหรัฐฯ ไม่ให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิปของจีน ซึ่งน่าจะได้เห็นประกาศที่ชัดเจนออกมาในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อภาคการผลิตของจีน
นอกจากนี้ยังมีประเด็นความกังวลกรณีความเสี่ยงจากปัญหาเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ (Debt Ceiling) ที่อาจสร้างผลกระทบต่อความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก แต่คาดว่าตลาดหุ้นจีนจะยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในภาวะที่ตลาดหุ้นโลกผันผวน
“ส่วนความเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังอ่อนแออยู่ โดยรัฐบาลพยายามออกนโยบายพยุงไม่ให้บริษัทอสังหาผิดชำระหนี้หรือล้มละลาย แต่ยังต้องใช้เวลารอดูว่า นโยบายที่ส่งไปจะช่วยให้เห็นการฟื้นตัวของราคาบ้านอย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ เมื่อดูตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1/23 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นจีนพบว่า ยังไม่ได้ฟื้นแรง โดยมีการขยายตัวประมาณ 1%YoY แต่เริ่มเห็นการฟื้นตัวหลังจากไตรมาส 4/22 ที่มีอัตราการขยายตัวติดลบประมาณ 10%YoY แต่คาดว่าในไตรมาส 2/23 กำไรของ บจ.จีน มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 10%YoY เนื่องจากมีโอกาสเห็นการเติบโตตามการขยายตัวของ GDP ที่สามารถฟื้นตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี
สำหรับคำแนะนำ ให้ลงทุนในหุ้นกลุ่ม A-Share ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน จึงมีโอกาสเติบโตตามการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน อีกทั้งมูลค่าของหุ้น (Valuation) ยังถือว่าค่อนข้างถูก อีกทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นความขัดแย้งในเชิงภูมิรัฐศาสตร์จากนโยบายการกีดกันของสหรัฐฯ ที่ไม่สนับสนุนให้ลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีของจีน
รวมถึงหุ้นกลุ่มที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่มีนโยบายกระตุ้นการเติบโตคือ อินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนทำธุรกิจใน New Technology ในรูปแบบของซอฟต์แวร์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ อีกทั้งกลุ่มอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมยังเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำไรและการทยอยปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งมีโอกาสให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะสั้น
ส่วนคำแนะนำของการลงทุนในระยะยาว ให้กระจายการลงทุนทั้งในหุ้นกลุ่ม A-Share และ H-Share เพราะคาดว่าจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีด้วยเช่นกัน โดยกลุ่ม H-Share เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีกับสถาบันการเงินค่อนข้างสูง ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในระยะยาว
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- มหาเศรษฐีจีนโล่งใจได้นานแค่ไหน? หลังรัฐบาลจีนเปลี่ยนท่าทีมาเป็นมิตรกับภาคธุรกิจมากขึ้น
- พญามังกรจะผงาดหรือกลับหัว? เมื่อเศรษฐกิจจีนโตเกินคาด แต่ภาระหนี้ยังจ่อทะลุเพดาน จับตาท่าที ‘สีจิ้นผิง’ ชี้ชะตาผลลัพธ์
- จริงหรือที่ ‘อินเดีย’ กำลังจะเป็นโรงงานของโลกแห่งใหม่ต่อจากจีน? ถึงขั้นที่การผลิต 1 ใน 4 ของ ‘iPhone’ จะย้ายมาที่นี่ภายในปี 2025