ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ขยายวงกว้างลุกลามไปสู่ทุกภาคส่วนของสังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ถือเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ แม้หลายธนาคารจะเล็งเห็นความเปราะบางเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการจำนวนมากในหลายธุรกิจ และได้สนับสนุนมาตรการให้ความช่วยเหลือที่ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นมาตรการพักชำระหนี้ หรือเพิ่มเงินทุนจากซอฟต์โลน
แต่เห็นได้ชัดว่าเท่านั้นยังไม่เพียงพอ เพราะปัญหาหลักของเอสเอ็มอีในขณะนี้คือยอดขายที่ลดลงอย่างรุนแรง และบางรายถึงขั้นหยุดชะงัก โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และกลุ่มบริการทางด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ ทำให้ประสบปัญหาขาดรายได้และสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ การสร้างรายได้กระแสเงินสดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเอสเอ็มอีให้ประคับประคองธุรกิจต่อไปได้
อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ SCB จึงต่อยอดความช่วยเหลือผู้ประกอบการฝ่ามรสุมโควิด-19 พร้อมทำงานร่วมกับบริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) พัฒนาแพลตฟอร์มเว็บไซต์ www.SCBShopDeal.com หรือเอสซีบีชอบดีล เพื่อเป็นศูนย์กลางดิจิทัลรวบรวมดีลข้อเสนอพิเศษจากลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารเพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบดีลสุดคุ้มให้ได้เลือกสรรกันล่วงหน้า เช่น ห้องพักโรงแรม คูปองร้านอาหาร แพ็กเกจสปา ฯลฯ
โดยได้รับความสนับสนุนอันดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดโอกาสให้ลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบสามารถทำข้อเสนอดีลพิเศษนำมาขายบนเว็บไซต์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
www.SCBShopDeal.com เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2563 โดยคาดว่าภายในเดือนมิถุนายน 2563 จะมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมขายดีลส่วนลดบนเว็บไซต์มากกว่า 200 ราย สนับสนุนยอดขายผ่านแพลตฟอร์มได้กว่า 50 ล้านบาท
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการเสนอขายดีลส่วนลดให้กับผู้บริโภค สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่องค์กรที่ท่านสังกัด คือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลูกค้าเอสเอ็มอีธนาคารไทยพาณิชย์สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ SCB Business Call Center โทร. 0 2722 2222 หรือสาขาธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ และ https://scbsme.scb.co.th/
ทั้งนี้ ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้วมาจนถึงปีนี้นั้นล้วนแต่ส่งผลกระทบด้านลบต่อความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งสิ้น นับตั้งแต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ปัญหา PM2.5 ปัญหาภัยแล้ง และที่ร้ายแรงที่สุดคือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก สทท. มากกว่า 95% ได้รับผลกระทบ
โดยปิดกิจการชั่วคราวไปแล้วจำนวนมาก และคาดว่าจนถึงสิ้นปี 2563 จะเกิดผลต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ด้วยการปิดกิจการถาวรอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้แรงงานจำนวนมากถูกเลิกจ้างถาวร แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการเยียวยาของภาครัฐบ้างแล้ว แต่เชื่อว่าคงเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ตัวผู้ประกอบการเองต้องปรับตัวและหาช่องทางทำให้ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวและสามารถไปต่อได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์