จากกระแสข่าวในโลกออนไลน์ช่วงเย็นวันนี้ (7 กันยายน) ระบุว่า บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) ที่ประกาศเตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (INVX) เตรียมที่จะเปิดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และจะเริ่มเปิดให้บริการซื้อขายเหรียญคริปโต ซึ่งจะรองรับถึง 25 เหรียญ ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนนี้ โดยในโลกออนไลน์ยังได้มีการส่งต่อภาพที่เป็นเหมือนกับแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน), SCB และ SCBS ยังไม่ได้ออกมายืนยันเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ย้อนรอยมหากาพย์ SCBX-Bitkub ก่อนดีลล่ม ปิดฉากยูนิคอร์นตัวใหม่ของไทย
- ธปท. เผย ดีล SCBS-Bitkub ล่มด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ย้ำที่ผ่านมายังไม่เคยยื่นเรื่องขอซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการ
- ส่อง 8 บริษัทจดทะเบียนที่ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับ Bitkub
ด้าน กานต์นิธิ ทองธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน Merkle Capital และผู้ก่อตั้งเพจ Kim DeFi Daddy เปิดเผยว่า หากประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เชื่อว่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมคริปโตในไทย
“หาก SCB กระโดดเข้ามาทำจริง เชื่อว่าจะช่วยให้เกิด Mass Adoption ในประเทศไทย เพราะ SCB มีฐานลูกค้าจากธนาคารอยู่ในมือนับ 10 ล้านราย ถือเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของผู้เล่นหน้าใหม่คือพฤติกรรมของผู้ลงทุนที่อาจจะไม่ต้องการเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มใหม่ เนื่องจากคุ้นชินกับแพลตฟอร์มเดิมอยู่ก่อนแล้ว
ในอดีต BX ถือเป็นตลาดเทรดคริปโตอันดับหนึ่ง แม้จะมี Bitkub และ Satang Pro เข้ามา แต่ก็ยังสู้ไม่ได้ในช่วงแรก ซึ่งหลังจากนี้คงต้องดูว่า Exchange ใหม่จะมีสิ่งที่จูงใจ อาทิเช่น เรื่องของการลดค่าธรรมเนียมที่ลดลงเพื่อให้ลูกค้าอยากเปลี่ยนหรือไม่
“โดยภาพรวมเชื่อว่าการแข่งขันที่สูงขึ้นจะส่งผลดีต่อผู้ลงทุน ในขณะที่ผู้ประกอบการคงต้องหาทางแก้เกมกันต่อไป”
ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่ต่างกันระหว่างแต่ละศูนย์ซื้อขายคือค่าธรรมเนียม อย่าง Binance ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายระดับโลก คิดค่าธรรมเนียม 0.1% ขณะที่ Bitkub ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดราว 90% คิดค่าธรรมเนียม 0.25% ด้าน Zipmex และ Satang Pro คิดค่าธรรมเนียม 0.2%
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP