×

SCB CIO คาด Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อีก 2 ครั้ง ทำเศรษฐกิจเสี่ยงถดถอยสูงขึ้น แนะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูง

25.10.2022
  • LOADING...
SCB CIO

SCB CIO คาด Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อีก 2 ครั้ง ทำเศรษฐกิจเสี่ยงถดถอยสูงขึ้น แนะลงทุนในผลิตภัณฑ์ประเภทคุ้มครองเงินต้น หุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานโลก เช่น หุ้นไทย อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ มองหุ้นเวียดนามยังน่าสนใจในระยะยาว

 

กำพล อดิเรกสมบัติ ผู้อำนวยการอาวุโสและหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office (SCB CIO) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูงยืดเยื้อและดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย อ้างอิงจากรายงาน World Economic Outlook ล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่าเศรษฐกิจภาพรวมของโลกยังมีแนวโน้มได้รับผลกระทบผ่านกำลังซื้อที่ลดลงจากเงินเฟ้อและการตึงตัวของภาคการเงิน รวมถึงในหลายประเทศอาจต้องเผชิญภาระหนี้ที่มากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อภาคการค้าและการลงทุน รวมถึงโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะกลาง 

 

ในส่วนของแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ SCB CIO คงมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศยังอยู่ในระดับสูง การชะลอลงเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมราคาพลังงานและอาหารสด) ลดลงช้ามากจากปัจจัยอุปทานที่ยังโตไม่ทันปัจจัยอุปสงค์โดยเฉพาะในภาคบริการ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว แต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย (Slower Rate Hikes) นอกจากนั้นราคาน้ำมันค้าปลีกเฉลี่ยของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมที่กลับมาปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้มีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับสูงและลงช้า โดย SCB CIO ประเมินว่า Fed จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ต่อครั้ง ในการประชุมเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม

 

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงอยู่ในระดับสูง (ราคาพันธบัตรลดลง) จากแรงกดดันของเงินเฟ้อที่ยังคงยืดเยื้อ ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่สูงขึ้นทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม High Yield ในขณะที่ตลาดหุ้นยังรอการประเมินผลของเงินเฟ้อและดอกเบี้ยต่อผลประกอบการไตรมาส 3 และสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบช้าลงของ Fed โดยอัตราเงินเฟ้อถึงแม้จะผ่านจุดสูงสุดแล้วแต่ยังคงปรับตัวลดลงช้าในปี 2022 นี้ จะทำให้การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยช้าลงน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงต้นปี 2023 นอกจากนั้นผลประกอบการและ Guidance จากบริษัทต่างๆ ในช่วงไตรมาส 3 จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะบอกได้ว่าตลาดหุ้นที่มีการปรับตัวลงมาค่อนข้างมากจะเป็นกับดักทางมูลค่า (Valuation Trap) หรือไม่?

 

สำหรับค่าเงินบาท SCB CIO ประเมินว่า จากสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยช้าลงที่ยังไม่ชัดเจน จะยังทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงอยู่ในระดับสูง และเป็นแรงกดดันหลักต่อค่าเงินในกลุ่ม EMs รวมถึงเงินบาท บวกกับแนวโน้มการยกเลิกนโยบาย Zero-COVID ของจีน ที่คาดว่าจะถูกเลื่อนออกไปจนถึงไตรมาส 2/2023 จะทำให้การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนและดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยถูกเลื่อนออกไปด้วย เราจึงปรับการคาดการณ์ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2022 เป็น 36-37 บาทต่อดอลลาร์ และสิ้นปี 2023 เป็น 34-35 บาทต่อดอลลาร์

 

สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุน SCB CIO ยังคงคำแนะนำการลงทุนแบบระมัดระวัง และเน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูง ในภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยและภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น แนะนำให้มีเงินสดหรือผลิตภัณฑ์ความเสี่ยงต่ำ (มุ่งคุ้มครองเงินต้น) 5-15% ของพอร์ต การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (ราคาลดลง) เป็นโอกาสสำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างกระแสเงินสดในพอร์ต โดยเน้นทยอยสะสมหุ้นกู้คุณภาพดีเพื่อหลีกเลี่ยงการเร่งตัวของ Spread ในช่วงความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยสูงขึ้น

 

นอกจากนี้เพื่อเป็นการจัดการความเสี่ยงเงินเฟ้อสูงยืดเยื้อ ยังคงแนะให้มีสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำมันในสัดส่วน 5% ของพอร์ต โดยมีมุมมองโดยรวมเป็นกลางหรือ Neutral ต่อหุ้น แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นบริษัทที่มีการเติบโตยั่งยืนและอัตรากำไรสูงในประเทศที่ได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศและการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานของโลก (ตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย) หรือประเทศที่มีการเติบโตของค่าจ้าง (ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเริ่มทยอยสะสมหลัง Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยช้าลง)

 

อย่างไรก็ดี ได้ปรับมุมมองหุ้นเวียดนามเป็น Neutral โดยแม้เศรษฐกิจและผลประกอบการจะยังเติบโตต่อเนื่อง แต่แรงกดดันจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลงเร็ว การลดค่าเงิน การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 1.00% ในช่วงสิ้นปีนี้ ยังคงเป็นแรงกดดันระยะสั้น อย่างไรก็ตาม Valuation ปัจจุบันของตลาดหุ้นเวียดนาม (P/E 10x ; -2sd) อยู่ในระดับค่อนข้างน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising