Sberbank ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียประกาศ ‘ถอดธุรกิจ’ ในยุโรปทั้งหมด หลังเผชิญภาวะกระแสเงินสดไหลออกจำนวนมากและภัยคุกคามต่อพนักงานและทรัพย์สินหลังจากการบุกยูเครนของรัสเซีย
ธนาคารกล่าวว่า ไม่สามารถจัดหาสภาพคล่องให้กับบริษัทย่อยในยุโรปได้อีกต่อไป ตามคำสั่งจากธนาคารกลางของรัสเซียซึ่งกำลังพยายามรักษาสกุลเงินต่างประเทศ แต่ให้คำมั่นถึงเงินทุนและทรัพย์สินเพียงพอที่จะจ่ายให้กับผู้ฝากเงินทั้งหมด ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาเตือนถึงภาวะที่เสี่ยงจะ ‘ล้มละลาย’
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเน้นย้ำถึงแรงกดดันที่ธุรกิจรัสเซียบางแห่งกำลังเผชิญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่วนภาคการเงินนั้นกำลังเผชิญกับการคว่ำบาตรธนาคารกลางและการกีดกันธนาคารบางแห่งออกจากระบบการชำระเงินทั่วโลก SWIFT ขณะที่ Elvira Nabiullina ผู้ว่าการธนาคารกลางของรัสเซียกล่าวในวันนี้ (2 มีนาคม) ว่าเศรษฐกิจของประเทศต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่รุนแรง และเธอกำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบการเงินสามารถรับมือสถานการณ์ดังกล่าวได้
Sberbank มีทรัพย์สินในยุโรปมูลค่า 13 พันล้านยูโร (14.4 พันล้านดอลลาร์) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020 และดำเนินการในประเทศต่างๆ เช่น ออสเตรีย โครเอเชีย เยอรมนี และฮังการี
ก่อนหน้านี้ Sberbank ได้ออกมากล่าวในเดือนพฤศจิกายน ว่ามีแผนที่จะขายธุรกิจในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา โครเอเชีย ฮังการี เซอร์เบีย และสโลวีเนีย ในปี 2021 ด้วยข้อตกลงมูลค่าประมาณ 500 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตามหลักจากข่าวการ ‘ถอดธุรกิจ’ ในยุโรปก็ทำให้หุ้นของ Sberbank ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนลดลงกว่า 90% ขณะที่ฟากตลาดหลักทรัพย์มอสโกได้หยุดการซื้อขายหุ้นและพยายามป้องกันไม่ให้เงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์ของรัสเซีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จักระบบ SWIFT ในฐานะเครื่องมือสำคัญที่ชาติตะวันตกใช้คว่ำบาตรรัสเซีย
- ชาติตะวันตกจัดหนักรุมคว่ำบาตรรัสเซีย ตั้งเป้าโค่นเศรษฐกิจแดนหมีขาว กดดัน GDP ส่อวูบหนัก 6%
- สรุปสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำไมคริปโตและ NFT ถึงมีบทบาทสำคัญ จนแทบจะเป็น ‘สงครามคริปโตครั้งแรกของโลก’
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP