ช่วงค่ำวานนี้ (29 มกราคม) สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เพื่อติดตามปฏิบัติการเก็บกู้คราบน้ำมันจำนวนมากออกจากบริเวณชายหาดแม่รำพึง โดยมีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน หรือ SPRC โดยเฉพาะในเรื่องของอันตรายที่อาจจะเกิดจากน้ำมัน
ทาง SPRC ระบุว่า น้ำมันดิบล็อตที่เกิดเหตุเป็นน้ำมันที่นำเข้ามาจากตะวันออกกลาง มีปริมาณสารปรอทน้อยกว่าที่อื่น แต่จะมีการปนเปื้อนพวกสารแคทเมียม นิกเกิล ซึ่งจะต้องมีการติดตามว่าจะมีการตกค้างหรือส่งผลกระทบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม SPRC ได้ให้นักประดาน้ำดำเนินการซีลด้วยเทปพันบริเวณจุดที่รั่วไหลไว้เรียบร้อยแล้ว มั่นใจว่าจะไม่มีการรั่วไหลเพิ่มเติม ซึ่งหลังได้รับการอนุมัติจากกรมควบคุมมลพิษก็จะดำเนินการถอดและยกขึ้นมาตรวจสอบบนฝั่งอีกครั้ง
สำหรับท่อในจุดเกิดเหตุเป็นท่อขนาด 48 นิ้ว ความยาว 20 กิโลเมตร ส่วนปริมาณน้ำมันดิบที่รั่วไหลออกมานั้นยังเป็นตัวเลขที่เกิดจากการประเมิน เมื่อเทียบกับสารดิสเพอร์แซนต์ที่นำมาใช้ในการสลายคราบน้ำมัน แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แท้จริงได้ โดยตัวเลขแรกที่หลุดออกไปว่า 4 แสนลิตร ยังไม่ทราบว่าหลุดออกไปได้อย่างไร เนื่องจากในประกาศฉบับแรก รวมถึงหนังสือที่ขอใช้สารดิสเพอร์แซนต์จำนวน 4 หมื่นลิตร ระบุเพียงว่า เป็นน้ำมันดิบจำนวนหนึ่งเท่านั้น ส่วนตัวเลข 1.6 แสนลิตร ก็ยังเป็นตัวเลขที่เกิดจากการประมาณการและเทียบกับส่วนต่างๆ เท่านั้น ซึ่งก็ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่ แต่ก็ใกล้เคียงที่สุด
อย่างไรก็ตาม สาธิตได้แสดงความเป็นห่วงในด้านสุขภาพ ทั้งของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณหาดแม่รำพึง รวมถึงนักท่องเที่ยว เพราะน้ำมันมีกลิ่นฉุน ไม่ควรสูดดมเป็นเวลานาน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยว และชาวบ้าน ระมัดระวังสุขภาพ ไม่ควรสูดดมกลิ่นน้ำมันเป็นเวลานาน
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขก็ได้จัดหน่วยพยาบาลลงมาประจำจุด หากมีการเจ็บป่วยหรือเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานจัดเก็บคราบน้ำมันที่ต้องสวมชุด PPE สวมหน้ากากอนามัย และอยู่กลางแดด ซึ่งอาจทำให้เกิดการสโตรกได้ ขณะที่กรมสุขภาพจิตก็จะส่งแพทย์ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพจิตใจและความเครียดของประชาชนในพื้นที่ด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์บัญชาการสถานการณ์ ให้การสนับสนุนเรื่องการดูแลสุขภาพของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว
ขณะที่รัฐบาลก็จะตั้งกรรมการมาดูแลในเรื่องนี้ ทั้งการสอบสวนสาเหตุ มูลค่าความเสียหาย และมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนด้านการเยียวยายืนยันว่า SPRC ต้องรับผิดชอบทั้งหมดในทุกมิติและทุกกรณี ขณะที่ยังมีความเป็นห่วงเรื่องของมวลน้ำมันขนาดใหญ่ที่ยังลอยอยู่กลางทะเลห่างฝั่งไม่ไกล ซึ่งจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
