ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชาวทวิตภพคงจะเห็นกระแสไวรัลในทวิตเตอร์ ที่มีจุดเริ่มต้นจากข้อความบน @Thavisin แอ็กเคานต์ส่วนตัวของ เศรษฐา ทวีสิน CEO บิ๊กบอสใหญ่แห่งแสนสิริ

“คอนโดทำเลรัชดา-เกษตร-ราม-บางนา ราคาเริ่มแค่ 1.29ล้าน!!! ใครอยากได้ลงชื่อใต้ทวีตและรับส่วนลด 40,000 จากผมไปเลย…มีไม่มากครับ รีบหน่อย” 

ขายตรงๆ ลดกันง่ายๆ แค่รีทวีตก็ได้ส่วนลด 40,000 บาท และนั่นคือข้อมูลทั้งหมดที่ทุกคนรู้ คอนโดภายใต้แบรนด์แสนสิริ ราคาหลักล้านต้นๆ แต่หน้าตาคอนโดเป็นแบบไหน ขนาดห้องเท่าไร จะได้สิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้างไม่มีใครรู้ ภาพเดียวที่ปล่อยออกมาคือโลโก้แบรนด์ THE MUVE ยิ่งปิดยิ่งกระตุ้นพลังนักสืบโซเชียลให้อยากหาคำตอบ จนกลายเป็นไวรัลกวาดยอดลีดไปอย่างถล่มทลาย

ประเด็นที่น่าสนใจในการเปิดตัว THE MUVE แบรนด์คอนโดแนวคิดใหม่จากแสนสิริ คือการนำกลยุทธ์ ‘CEO Marketing’ มาใช้ แม้กลยุทธ์นี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงการตลาดทั้งในและต่างประเทศ แต่ใช่ว่าทุกแบรนด์ที่ทำจะประสบความสำเร็จ ของแบบนี้แผนการตลาดดี โปรดักต์ดี ยังไม่พอ เพราะกุญแจสำคัญที่ทำให้แคมเปญไหนปังหรือพังยังอยู่ที่ใครคือ CEO ผู้ลงสนามจริง

คำถามต่อมาคือ นอกจากตัว CEO แล้ว อะไรคือส่วนผสมที่ลงตัวและนำไปสู่ความสำเร็จของกลยุทธ์ ‘CEO Marketing’ จนทำให้ใครๆ ก็เฝ้ารอการเปิดตัว THE MUVE คอนโดแนวคิดใหม่จากแสนสิริ

เมื่อ ‘แสนสิริ’ แบรนด์อสังหาฯ รุ่นใหญ่ เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ หมากเกมนี้ต้อง ‘เศรษฐา’ CEO ที่เป็น Role Model ของคนรุ่นใหม่เท่านั้น

ทำไมผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดของคนรุ่นใหม่และวงการอสังหาฯ ไทย ถึงเลือกทำกลยุทธ์การตลาดผ่าน @Thavisin แอ็กเคานต์ส่วนตัว และครั้งนี้เขาเป็นคนยกมือขอร่วมวงลงมาขายกันโต้งๆ พูดกันตรงๆ กับกลุ่มเป้าหมายด้วยตัวเอง

อย่างที่รู้กันว่า เศรษฐาคือรุ่นใหญ่ในวงการอสังหาฯ และเป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่ ผู้ติดตามมากกว่า 3 แสนคนในทวิตเตอร์เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เกินครึ่ง เมื่อ THE MUVE วางตัวเองเป็นคอนโดมิเนียมที่เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ทั้งกลุ่มนักศึกษาและ First Jobber ที่มีการวางแผนชีวิตเพื่อพุ่งไปสู่เป้าหมายและไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง เทียบฐานแฟนคลับของเขาในทวิตเตอร์ก็เป็นคนกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายของ THE MUVE ในเมื่อคนซื้อของนั่งอยู่ในบ้านขนาดนี้ เจ้าบ้านที่ดีก็ต้องลงมาขายของเอง 

Twitter แพลตฟอร์มยอดฮิตของกลุ่มเป้าหมาย และยังเป็นช่องทางที่เร็วที่สุดในการสื่อสารกับผู้บริโภค

เหตุผลที่แสนสิริเลือก Twitter เป็นแพลตฟอร์มหลักในการสื่อสารเกี่ยวกับ THE MUVE เพราะจากการสำรวจพบว่า Twitter เป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตของกลุ่มเป้าหมาย ผู้ใช้งานส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 16-24 ปี (40%) และอายุ 25-34 ปี (26%) มากที่สุด ซึ่งเป็นช่วงวัยของกลุ่ม Gen Y และ Gen Z และเป็นกลุ่มเป้าหมายของโปรดักต์ อีกทั้งจุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้เป็นช่องทางการสื่อสารที่เร็ว ตรงประเด็น และตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด

การสนทนากับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ถือเป็นพรมแดนของการตลาดรูปแบบใหม่ เมื่อการสร้างบทสนทนาระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคสามารถสนับสนุนกลยุทธ์การตลาด จนนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ สอดรับกับผลวิจัยของทวิตเตอร์ พบว่าบทสนทนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น 10% จะทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์เพิ่มขึ้นถึง 3%

แต่จะไปถึงการตัดสินใจซื้อได้ ย่อมต้องมาจากบทสนทนาที่ดีด้วย จะช่วยให้อยากค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ มากขึ้น นี่คือกลยุทธ์ที่แสนสิริน่าจะมองเห็น จึงเลือกใช้ @Thavisin แอ็กเคานต์ส่วนตัวของ CEO เป็นเพียงแหล่งข้อมูลเดียวที่จะเผยข้อมูล THE MUVE อยากรู้อะไรรีทวีตถาม CEO ได้เลย 

Exclusivity ส่วนลด On-Top เฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ติดตามของคุณเศรษฐาเท่านั้น 

แสนสิริไม่ได้สร้างเงื่อนไขให้แก่ชาวทวิตภพที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมจากการรีทวีตถาม CEO เท่านั้น แต่ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับกลุ่มผู้ติดตาม @Thavisin ที่จะได้รับทั้งข้อมูลและส่วนลด On-Top สำหรับผู้ที่ลงชื่อแสดงความสนใจ ภายใต้ทวีตของคุณเศรษฐาเท่านั้น ถือว่าเป็นการคิกออฟแบรนด์ THE MUVE ผ่านกลยุทธ์ CEO Marketing ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มียอดเอ็นเกจเมนต์ผ่านแอ็กเคานต์ @Thavisin ในเวลาอันรวดเร็ว 

‘ทำเลคอมมูนิตี้เมือง’ เกษตร-รัชดา-ราม-บางนา อีกหนึ่งหมัดฮุกที่ปลุกความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายและนักลงทุน 

ทำเลทองราคาล้านต้นๆ คือเรียลดีมานด์คนรุ่นใหม่ ที่อยากเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในราคาที่เข้าถึงได้ นี่คือโจทย์ที่แสนสิริเอาไปต่อยอดจนกลายเป็น THE MUVE ที่ตั้งอยู่บน 4 ทำเลทอง เกษตร-รัชดา-ราม-บางนา พร้อมจุดเด่น เดินทางสะดวก ใกล้โซนออฟฟิศ สถาบันการศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหาร จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยและซื้อเพื่อลงทุน

อินไซต์ในการเลือกทำเลของแสนสิริ คือจุดเริ่มต้นของความคิดจากความเข้าใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มนักศึกษาและ First Jobber ที่มีแนวคิดการใช้ชีวิตเพื่อพุ่งไปสู่เป้าหมายและไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง จึงมองหาที่พักอาศัยใกล้ความสะดวกสบาย เพื่อลดเวลาการเดินทาง เพิ่มเวลาการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ ต่อยอดทำในสิ่งที่รัก กลายเป็น ‘THE MUVE’ ที่มาจากคำว่า MOVE คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัย Move Your Life Forward สร้างสมการที่ใช่ ให้ชีวิตไปข้างหน้า 

ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่แสนสิริเปิดตัวคอนโดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

กลุ่มเป้าหมายของ THE MUVE คือ Gen Y และ Gen Z ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท เป็นราคาที่คนกลุ่มนี้จับต้องได้อย่างแน่นอน แต่จะว่าไปราคาแบบนี้ เปิดตัวในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ไม่แน่ว่าอาจมีแรงกระเพื่อมไปถึงกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่เคยฝันอยากเป็นเจ้าของโครงการแสนสิริด้วยเช่นกัน เพราะอย่างที่รู้ แสนสิริเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ ด้วยจุดเด่นคือการดูแลและบริการหลังการขายตลอดช่วงการอยู่อาศัย และเกือบ 10 ปี แล้วที่แสนสิริห่างหายจากการทำตลาดคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

บทสรุปความสำเร็จ CEO Marketing ของแสนสิริ

อันที่จริง ต่อให้แสนสิริเลือกทำการตลาดท่าเดิม คือค่อยๆ เผยโฉมภาพโครงการ THE MUVE พร้อมคอนเซปต์เท่ๆ ตามด้วยราคาไม่เกิน 2 ล้าน บน 4 ทำเลคอมมูนิตี้เมือง เชื่อว่ากระแสตอบรับก็ดีเช่นกัน แต่แบรนด์ที่มีความไดนามิกส์และแอ็กทีฟขนาดนี้ไม่มีทางผ่อนคันเร่งในเกมการแข่งขันที่ดุเดือดเช่นนี้อย่างแน่นอน

ยิ่งเป็นตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ดูแค่สถิติแล้วใช้ประสบการณ์วิเคราะห์ไม่ได้อีกต่อไป เพราะกลุ่มผู้บริโภคเดี๋ยวนี้เปลี่ยนใจไว และสร้างเซอร์ไพรส์ให้แบรนด์กันรายวัน ยิ่งลงลึกเท่าไรยิ่งเข้าใจและสร้างโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ได้จริงๆ ที่สำคัญ การที่ CEO ลงมาทำการตลาดเอง ยังสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ให้หนักแน่นยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้นจนอาจกลายเป็นลูกค้าไปในที่สุด เพราะแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคทุกวันนี้ชอบการเปิดรับความจริงมากขึ้น และถ้าความจริงนั้นออกมาจากปากซีอีโอก็ยิ่งดี

ว่ากันตามตรง ข้อได้เปรียบของแสนสิริคือ CEO นามว่าเศรษฐา ที่ไม่เพียงแต่มีความเป็นแสนสิริอย่างชัดเจน ยังเป็นผู้นำในการให้ข้อคิดทั้งการบริหารงาน การตลาด และการใช้ชีวิต รวมไปถึงบุคลิกที่เข้าถึงง่าย ทักษะในการสื่อสารที่ดี มีมนุษย์สัมพันธ์ และยังเป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ ทั้งหมดนี้คือกุญแจสำคัญที่ทำให้กลยุทธ์ CEO Marketing ของแสนสิริประสบความสำเร็จที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้ 

ติดตาม ‘THE MUVE’ เพิ่มเติมผ่าน http://siri.ly/g4M1gu4 

#THEMUVE #MadeforLife #MadeforEveryday