วานนี้ (6 ตุลาคม) ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย สุพัชรี ธรรมเพชร ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 11 และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการ ‘Samui Plus Sandbox’ พร้อมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์สนับสนุนการป้องกันควบคุมโรคโควิดให้แก่โรงพยาบาลเกาะพะงันและโรงพยาบาลเกาะสมุย
ดร.สาธิตกล่าวว่า เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวทางทะเลอย่างปลอดภัย เพื่อขับเคลื่อนและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโดส ไม่ต้องกักตัว แต่ต้องได้รับการคัดกรองต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งกับนักท่องเที่ยวด้วยกันและประชาชนในพื้นที่ เป็นการต่อยอดจากโครงการ Phuket Sandbox
ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยได้ดำเนินการภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข คือ
- การฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ขณะนี้มีความครอบคลุมประชากรในพื้นที่ทั้ง 3 เกาะ มากกว่า 70% และกำชับให้เร่งฉีดในกลุ่ม 608 เพื่อลดการป่วยหนักและลดการเสียชีวิต
- การรักษาพยาบาล มีความพร้อมทั้งด้านเตียงรักษาผู้ป่วยทุกระดับสี เกือบ 600 เตียง มียารักษาโรคชนิดฉีดและรับประทาน มีระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาทั้งการสอบสวนโรค ค้นหาเชิงรุก การตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการได้วันละ 1,200 คน
- การควบคุมกำกับ สามารถชะลอโครงการทันทีหากพบผู้ติดเชื้อเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวสะสม 1,018 คน ทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อเพียง 5 ราย และนำเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างเหมาะสม สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 38,722,100 บาท
“ขอชื่นชมการดำเนินงาน Samui Plus Sandbox เราจะเดินหน้าต่อไป ในการพัฒนาด้านการแพทย์และสาธารณสุข สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว และเชื่อมั่นว่าในปี 2565 เราจะสามารถฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรของประเทศได้ 70-80% เพื่อให้ประชาชนในประเทศปลอดภัย ประกอบอาชีพได้ และสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยว ร่วมกันเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศ” ดร.สาธิตกล่าว