การปิดร้าน Salt Bae Burger ในแมนฮัตตันเมื่อเร็วๆ นี้กลายเป็นข่าวพาดหัว โดยทิ้งเรื่องราวที่รวบรวมจุดสูงสุดและต่ำสุดของธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นเซเลบริตี้ในอุตสาหกรรมร้านอาหารไว้เบื้องหลัง
Salt Bae Burger เป็นผลิตผลของพ่อครัวชาวตุรกีที่ชื่อ Nusret Gökçe ซึ่งสร้างชื่อเสียงในปี 2017 เมื่อวิดีโอใน Instagram ที่เขาโปรยเกลือลงบนสเต๊กอย่างมีสีสัน กลายเป็นไวรัลทางออนไลน์ สไตล์การปรุงรสที่เป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้เขาได้รับสมญานามว่า ‘Salt Bae’
ชื่อที่ติดหูทำให้เขามีผู้ติดตาม จนชื่อเสียงดังกล่าวถูกนำไปใช้เปิดกิจการร้านอาหารนานาชาติในภายหลัง กิจการแรกคือ ร้านสเต๊กหรู Nusr-Et ที่เปิดในหลายแห่งทั่วโลก ด้วยความสำเร็จนี้ Gökçe จึงหันความสนใจไปที่โลกของเบอร์เกอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Salt Bae กับดราม่าถ้วยฟุตบอลโลก คำถามที่ FIFA ยังไม่กล้าตอบ
- เทมาเส็ก โฮลดิงส์ เข้าถือหุ้นร้านอาหารของเชฟ Salt Bae
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการแพร่ระบาดของโควิดที่ได้บังคับให้ปิดเมืองทั่วโลก ร้าน Salt Bae Burger ได้เปิดประตูในย่าน Union Square อันพลุกพล่านของแมนฮัตตัน นี่เป็นร้าน Salt Bae Burger แห่งที่ 2 ที่เปิดให้บริการ ต่อจากการเปิดร้านอาหารในดูไบก่อนหน้านี้
ตามสไตล์ของ Gökçe ไม่หวือหวา ไม่แหวกแนว ไม่ใช่เขา นั่นกลายเป็นที่มาของเมนูที่มีการนำเสนอที่ไม่เหมือนใคร เช่น ‘ladies burger’ ที่เสิร์ฟในขนมปังสีชมพู และมิลก์เชกทองคำที่มีราคาแพงถึง 99 ดอลลาร์
แม้จะมีเมนูที่ไม่เหมือนใคร แต่ร้านอาหารก็ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มนักชิมชาวแมนฮัตตันที่ชาญฉลาดได้ สะท้อนได้จากคำวิจารณ์ของนักวิจารณ์อาหารที่รุนแรง ถึงขั้น Salt Bae Burger ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ร้านอาหารที่แย่ที่สุดในนิวยอร์กซิตี้’
ความไม่พอใจส่วนใหญ่ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผลงานการทำอาหารของร้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการกีดกันทางเพศ เนื่องจาก ‘ladies burger’ ในตอนแรกมีให้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น
ข้อโต้แย้งอีกประการหนึ่งคือ การกำหนดราคาที่แพงเกินความสมเหตุสมผลอย่าง Gold Burger ที่ห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีทอง ราคาสูงถึง 100 ดอลลาร์ หรือสลัดราคา 25 ดอลลาร์ที่มาพร้อมกับผักที่เหี่ยวเหมือนทิ้งไว้นาน
บทวิจารณ์ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเดียวที่ Salt Bae Burger ต่อสู้ด้วย เบื้องหลังการดำเนินงานร้านอาหารของ Gökçe ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาร้ายแรง การสืบสวนโดย Insider ในเดือนเมษายน ระบุรายละเอียดการเรียกร้องจากอดีตพนักงาน 9 คนที่กล่าวหา Gökçe ว่า สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตร ไม่จ่ายค่าจ้าง และการละเมิดอื่นๆ แม้ว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้จะถูกหักล้างโดยทนายความก็ตาม
แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์และข้อกล่าวหาที่เพิ่มขึ้น Gökçe ก็ยังคงมองว่างานของเขาเป็นรูปแบบศิลปะ เขายังคงยึดติดกับการเคลื่อนไหวโรยเกลือในการแสดงละครอันเป็นเอกลักษณ์ โดยอ้างว่าเป็น ‘สัมผัสสุดท้าย’ บนงานศิลปะของเขา
ในตอนนี้ หลังจากเปิดมาเพียง 3 ปี Salt Bae Burger ก็ได้ปิดกิจการไปตลอดกาล สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยพลุกพล่านบนถนนพาร์กอเวนิวตอนนี้เงียบลง โดยมีป้ายบอกว่าย้ายไปยังสถานที่ใหม่ นั่นคือร้าน Nusr-Et Steakhouse
เรื่องราวที่เป็นดั่งรถไฟเหาะของ Salt Bae Burger เน้นให้เห็นถึงความท้าทายที่ร้านอาหารหลายแห่งต้องเผชิญ โดยเฉพาะร้านที่มีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้อง ความเย้ายวนใจของชื่อเสียงอาจดึงดูดฝูงชนในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณภาพของอาหาร ความคุ้มค่า และประสบการณ์การรับประทานอาหารโดยรวมที่ไม่ประทับใจ ก็ไม่อาจดึงดูดให้ลูกค้าก้าวเดินเข้ามาในร้านอีกครั้ง
นิทานเรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้นึกถึงธรรมชาติที่ผันผวนของอุตสาหกรรมร้านอาหาร ซึ่งรสชาติของความสำเร็จสามารถกลายเป็นรสที่สุดจะขมขื่นได้อย่างรวดเร็ว
ภาพ: Simon Hofmann – FIFA/FIFA via Getty Images
อ้างอิง: