ด้านซ้ายมือของร้าน Hanakaruta สาขาสุขุมวิท 39 คือที่อยู่ของบาร์ลับนาม Salon du Japonisant (ซาลอง ดู จาโปนิซงต์) ที่แรกเริ่มเดิมทีเป็นแค่โชว์รูมสำหรับสปิริตที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นโดย Bacchus Showcase ซึ่งเหล่าบาร์เทนเดอร์ทั้งหลายมักจะมาลองสินค้าเพื่อนำไปใช้ในบาร์ของตัวเอง แต่เนื่องจากวัฒนธรรมการดื่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้โชว์รูมแห่งนี้ปรับตัวเองให้กลายเป็นบาร์ค็อกเทลไปโดยปริยาย
The Vibe
ภายนอกร้านอาจเหมือนตึกแถวเล็กๆ ที่ดูไม่น่าจะมีบาร์มาตั้งอยู่ตรงนี้ได้ แต่เมื่อผ่านประตูนี้ไปจะพบว่าการจัดองค์ประกอบศิลป์แบบเซน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งโต๊ะ เก้าอี้ เคาน์เตอร์บาร์ และการจัดแสง ทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางและสุขุม แต่อบอุ่นได้ในเวลาเดียวกัน ลูกค้าจะได้รับการต้อนรับอย่างสุภาพจากบาร์เทนเดอร์ชาวญี่ปุ่น เค ซาวาดะ (Kei Sawada) ทันทีที่หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ คุณจะได้รับผ้าเย็นเป็นของต้อนรับก่อน ตามด้วยกับแกล้มอย่างถั่วและมะพร้าวอบแห้งเคลือบดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งเรียกได้ว่า ‘ดีต่อใจ’ ประมาณหนึ่งเลย
หลังจากที่คุณได้พักหายใจสักหน่อยแล้ว ‘เคซัง’ จะถามความต้องการของลูกค้า ซึ่งถึงแม้เขาจะเป็นคนญี่ปุ่นก็ตาม แต่ก็ไม่ได้มีอากัปกิริยาแบบคนญี่ปุ่น เขาไม่ห่างเหิน ไม่พินอบพิเทา หากแต่พูดจาตรงไปตรงมา นั่นเพราะก่อนที่เขาจะมาทำงานที่ไทย เขาเคยไปทำงานที่แคนาดาและออสเตรเลียมาก่อน ซึ่งนั่นได้ช่วยละลายพฤติกรรมเคร่งขรึมบางอย่างแบบญี่ปุ่นออกไป ซึ่งเขาคือหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้บาร์อันเงียบขรึมนี้ครึกครื้นและอบอุ่นขึ้น
The Drinks
Lychee Nectar
ดริงก์ตัวแรกที่เคซังนำเสนอคือ Lychee Nectar ซึ่งเบสของมันคือสาเกที่มีรสชาติของข้าวผสมกับดรายเวอร์มุท (Dry Vermouth) และเมซคาล (Mezcal) ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นซึ่งช่วยเพิ่มความซับซ้อนให้กับดริงก์ นอกจากนี้ยังเพิ่มความเปรี้ยวหวานด้วยลิ้นจี่กระป๋อง เลมอนสด และเติมกลิ่นหอมหวานด้วยอบเชย คนให้เข้ากันและกรองใส่แก้ว รสชาติออกมาหวานนุ่ม ไม่กรีดแทงลำคอ อีกทั้งยังได้รสชาติขององค์ประกอบที่ใส่ลงไปอย่างครบถ้วน
Roasted Marco Polo
ตัวที่สองที่ถูกนำเสนอจะมีความสโมกกี้ขึ้นด้วยการนำเอาโรสแมรี่สดไปเผา ดริงก์ตัวนี้ถูกพัฒนามาจาก Old Fashioned มีนามว่า Roasted Marco Polo โดยเบสของแก้วนี้จะเป็นบรั่นดีแอปเปิ้ลที่เรียกว่าคัลวาดอส (Calvados) ซึ่งคัลวาดอสที่เลือกมาถูกบ่มเป็นเวลา 8 ปี เพิ่มความขมและกลิ่นคั่วไหม้ด้วยบิตเตอร์กาแฟเข้าไป เติมรสหวานด้วยไซรัป จากนั้นจึงบีบเปลือกส้มให้น้ำมันฟุ้งกระจายอยู่ในแก้ว เป็นดริงก์ที่บอดี้แน่น แต่ได้รสหวานขมคู่กันไปแบบหยินหยาง
JFK
ตัวสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือ JFK ซึ่งเป็นมาร์ตินี โดยเคซังเลือกเบสเป็นจินที่คาแรกเตอร์ออกแนวโบทานิคัล เหล้าเชอร์รี และสาเกที่ถูกนำไปอินฟิวส์กับส้ม บีบเปลือกส้มและตกแต่งด้วยมะกอก ดื่มง่าย หากยิ่งดื่มคู่กับมะกอกจะยิ่งทำให้รสชาติเข้มข้นและซับซ้อนขึ้น
Salon du Japonisant
โดดเด่นด้วยงานคราฟต์เครื่องดื่มแบบญี่ปุ่น
- แก้ว เป็นหนึ่งองค์ประกอบที่ส่งเสริมให้ตัวตนของค็อกเทลออกมาอย่างเหมาะสม และแก้วที่บาร์นี้ใช้คือแก้ว Kimura ถือว่าเป็นแบรนด์ผลิตแก้วจากญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากในวงการบาร์เทนเดอร์ทั่วโลก ซึ่งทาง Bacchus ก็นำเข้ามาเช่นกัน
- เคซังมักจะราดน้ำอุ่นผสมโซดาลงไปในแก้วสำหรับผสมและเชกหลังจากใส่น้ำแข็งลงไป เพื่อทำความสะอาดน้ำแข็งก่อนนำมาชงให้กับลูกค้า
- เนื่องจากทางร้านเน้นแต่สินค้าญี่ปุ่น องค์ประกอบบางอย่าง เช่น บิตเตอร์ และไซรัป จึงเป็นของโฮมเมดที่เคซังทำขึ้นมาเอง
Salon du Japonisant
Open: วันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลา 19.00-01.00 น.
Address: ซอยพร้อมศรี 1 ถนนสุขุมวิท 39
Budget: 300-500 บาท
Contact: 08 3019 9062
Page: www.facebook.com/Japonisant/
Map: