×

ศักดิ์สยามแจงสภา ยืนยันพัฒนาถนนภาคใต้เต็มที่ ผุดแผน ‘มอเตอร์เวย์คู่รถไฟ’ 8 เส้นทางทั่วประเทศ

โดย THE STANDARD TEAM
03.07.2020
  • LOADING...

วันนี้ (3 กรกฎาคม) ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 จากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับภารกิจของกระทรวงคมนาคม ในประเด็นของ เทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่ากระทรวงคมนาคมไม่เอาใจใส่ในการดูแลปัญหาความเดือดร้อนของประชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยขอชี้แจงว่าการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงในพื้นที่ภาคใต้จะแบ่งเป็น 2 เรื่องคือ

 

1. การบำรุงรักษาทางหลวงภาคใต้ ซึ่งมี 3 เส้นทาง ทางหลวงหมาย 4 (ถนนเพชรเกษม) ทางหลวงหมายเลข 41 และทางหลวงหมายเลข 42 ซึ่งมีการตั้งงบประมาณในการบำรุงรักษาตั้งแต่ปี 2558 จำนวน 7,055.91 ล้านบาท และงบประมาณซ่อมบำรุงทางหลวงสายหลักภาคใต้เพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2563 ตั้งงบไว้ถึง 14,059 ล้านบาท ปี 2564 ได้เพิ่มเป็น 16,808 ล้านบาท เพื่อซ่อมบำรุงผิวถนนทางหลวงสายหลักเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกและมีความปลอดภัยในการสัญจร ซึ่งทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) จากจังหวัดเพชรบุรี-สงขลา 1,183 กิโลเมตร งบประมาณซ่อมบำรุงปี 2561-2564 จำนวน 2,901 ล้านบาท

 

ทางหลวงหมายเลข 41 (ชุมพร-พัทลุง) งบประมาณซ่อมบำรุงปี 2561-2564 จำนวน 974 ล้านบาท และทางหลวงหมายเลข 42 (สงขลา-นราธิวาส) ระยะทาง 262 กิโลเมตร งบประมาณซ่อมบำรุงปี 2561-2564 จำนวน 689 ล้านบาท โดยหลังการซ่อมบำรุงถนนจะมีการทดสอบสภาพ ซึ่งพบว่ามีค่าเฉลี่ยความเรียบถนนทั่วประเทศอยู่ที่ 78% แต่ถนนในภาคใต้มีค่าเฉลี่ยความเรียบสูงกว่าอยู่ที่ 93.1% โดยทางหลวงหมายเลข 41 มีมาตรฐานความเรียบดีกว่าเกณฑ์ที่ 89.5% ซึ่งอาจจะมีผิวทางบางช่วงที่มีสภาพไม่เรียบร้อย โดยกระทรวงคมนาคมไม่ได้นิ่งนอนใจในการจัดสรรงบประมาณไปดูแล 

 

ขณะที่งบประมาณการซ่อมบำรุงทางหลวงทั่วประเทศนั้น ในภาคใต้จะได้รับงบประมาณทั้งสิ้น 4,519 ล้านบาท ภาคเหนือได้รับ 3,555 ล้านบาท ภาคกลางได้รับ 6,750 ล้านบาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับ 4,715 ล้านบาท เป็นสิ่งยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งประชาชนภาคใต้และไม่ได้ทอดทิ้งประชาชนในทุกภาคเช่นกัน โดยมีการบริหารงบประมาณเพื่อดูแลสภาพถนนทุกสายให้ประชาชนได้ใช้สัญจรอย่างปลอดภัย

 

2. การพัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ในพื้นที่ภาคใต้ ขณะนี้มี 2 โครงการ ได้แก่ มอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 109 กิโลเมตร ขนาด 4 ช่องจราจร วงเงิน 79,006 ล้านบาท โดยคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) ได้เห็นชอบแล้ว สำรวจที่ดินและทรัพย์สินเวนคืนแล้ว โดยเป็นเส้นทางที่เชื่อมกับมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทบทวนการศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-ชายแดนไทย/มาเลเซีย (M84) ระยะทาง 71 กิโลเมตร ขนาด 4 ช่องจราจร วงเงิน 40,620 ล้านบาท ปัจจุบันออกแบบรายละเอียดเสร็จแล้ว และรายงาน EIA ผ่าน คชก. แล้ว การศึกษา PPP เสร็จแล้ว 

 

ศักดิ์สยามยังกล่าวอีกว่าจากปัญหาการออกแบบและก่อสร้างถนนที่ผ่านมา เส้นทางไม่สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายที่สมบูรณ์ ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้กระทรวงคมนาคมศึกษามอเตอร์เวย์ที่สามารถเชื่อมต่อทั่วประเทศภายใต้กรอบ 5 เรื่อง ได้แก่ 

 

  1. ถนนแนวตรงเพื่อให้เกิดการสัญจรสะดวก ลดอุบัติเหตุ 

 

  1. ไม่ผ่านเข้าชุมชน เพื่อให้ไม่ซ้ำแนวถนนเดิมและมีปัญหาเวนคืน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 

 

  1. พัฒนาความเจริญสู่พื้นที่ใหม่

 

  1. สร้างชุมชนเมืองใหม่ 

 

  1. แยกการจราจรในเมือง (Local Traffic) ออกจากการเดินทางระหว่างเมือง (Through Traffic) 

 

กระทรวงคมนาคมเห็นว่าการแยกศึกษามอเตอร์เวย์อย่างเดียวจะมีปัญหา เนื่องจากระบบโลจิสติกส์ทางบกมีเส้นทางรถไฟด้วย ซึ่งนโยบายต้องการใช้ระบบรางในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร รวมถึงการเชื่อมต่อการเดินทางของอาเซียนตามภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งจากการศึกษาการแก้ปัญหาแบบบูรณาการโดยการพัฒนาโครงข่ายร่วมกันระหว่างทางรถไฟกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเป็นแผนแม่บท MR-MAP (มอเตอร์เวย์-รถไฟทางคู่) รวม 8 เส้นทาง เพื่อเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจทุกภูมิภาคของประเทศกับด่านชายแดนและประเทศเพื่อนบ้านคือ

 

  1. แนวเหนือ-ใต้ จำนวน 3 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,620 กิโลเมตร ได้แก่ N1 เชียงราย (ด่านแม่สาย) – สงขลา (ด่านสะเดา) ระยะทาง 1,60 กิโลเมตร, N2 หนองคาย-แหลมฉบัง ระยะทาง 490 กิโลเมตร, N3 บึงกาฬ-สุรินทร์ (ด่านช่องจอม เพื่อเชื่อมประเทศกัมพูชา) ระยะทาง 470 กิโลเมตร

 

  1. แนวตะวันออก-ตะวันตก จำนวน 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,310 กิโลเมตร ได้แก่ W1 ตาก (ด่านแม่สอด) – นครพนม ระยะทาง 710 กิโลเมตร, W2 กาญจนบุรี (ด่านเจดีย์สามองค์) – อุบลราชธานี ระยะทาง 830 กิโลเมตร, W3 กาญจนบุรี-สระแก้ว ระยะทาง 310 กิโลเมตร, W4 กาญจนบุรี (ด่านบ้านพุน้ำร้อน) – ตราด ระยะทาง 220 กิโลเมตร, W5 ชุมพร-ระนอง (ด่านบ้านดอน) ระยะทาง 120 กิโลเมตร, W6 ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 190 กิโลเมตร 

 

ในปี 2564 จะเป็นการศึกษาแผนแม่บทโดยใช้งบประมาณจากกองทุนมอเตอร์เวย์ ซึ่งประโยชน์จากการบูรณาการพัฒนามอเตอร์เวย์-ทางรถไฟ 1. ลดผลกระทบต่อชุมชน 2. สร้างความคุ้มค่าในการลงทุน 3. กระจายความเจริญเข้าสู่ทุกภูมิภาค 4. ส่งเสริมการพัฒนาเมือง 5. พัฒนาเศรษฐกิจ 6. พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน นอกจากนี้ยังลดการลงทุนภาครัฐด้านค่าเวนคืน และลดการลงทุนโดยเปิดให้เอกชนต่างชาติเข้ามาลงทุน

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising