หมดยุคถกเถียงหรือจับโป๊ะว่าใครทำไม่ทำศัลยกรรมกันแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้การทำศัลยกรรมความงามกลายเป็นเรื่องปกติและเสรีมากขึ้น ประเด็นที่หยิบมาพูดกันในแวดวงศัลยกรรมกลายเป็นเรื่องของเทคนิคไหนดี ผ่าตัดแบบไหนปลอดภัย ไปจนถึงแพทย์คนไหนเก่ง 

 

ประเทศไทยติด 1 ใน 3 ศูนย์กลางด้านความงามของเอเชียที่สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการศัลยกรรม โดยเฉพาะศัลยกรรมจมูก ถือเป็นหนึ่งในศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และแพทย์ที่เชี่ยวชาญในเมืองไทยก็มีไม่น้อย แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังมองหาเทคนิคศัลยกรรมจมูกแบบไหน เพราะถ้าคุณสนใจ “การเสริมจมูก Open แก้ไขโครงสร้าง ด้วยเทคนิคกระดูกซี่โครง (RIB Rhinoplasty)” แล้วละก็ คงต้องพูดคุยกับ หมอตี้-กิตติศักดิ์ วงค์เทียนชัย แพทย์ศัลยกรรมจมูกที่มีฝีมือและชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเมืองไทย และยังเป็นผู้ก่อตั้ง S45 Clinic 

 

 

เทรนด์การเสริมจมูก Open แก้ไขโครงสร้าง ด้วยเทคนิคกระดูกซี่โครง (RIB Rhinoplasty) นั้น ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมีผลงานวิจัยเป็นที่รองรับทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยยังมีแพทย์จำนวนน้อยราย ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญอย่างมาก ซึ่งความสำคัญของเทคนิคนี้คือ ความปลอดภัยในระยะยาว โดยใช้วัสดุจากร่างกายของตัวเอง นั่นคือ เนื้อเยื่อธรรมชาติจากร่างกาย งานแฮนด์เมดเอกลักษณ์เฉพาะของหมอตี้ที่สามารถออกแบบทรงให้ดูเป็นสาวเกาหลีได้ เรียกว่า “จมูกฮันบก”

 

หมอตี้ บอกว่า “ในต่างประเทศเทรนด์การทำจมูกด้วยเทคนิคกระดูกซี่โครงทำกันมานานแล้ว และในวงการแพทย์เองก็มีงานวิจัยรองรับว่า เป็นเทคนิคที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก อีกทั้งแพทย์เองต้องมีความเชี่ยวชาญอย่างมาก”

 

 “ประเทศไทยเทรนด์การทำจมูกด้วยกระดูกซี่โครงน่าจะมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีผลงานวิจัยรองรับว่าในระยะยาวปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียว และยังสามารถปรับรูปทรงได้ตามต้องการมากกว่าการใช้ซิลิโคน แต่จำเป็นต้องผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บ้านเราแพทย์ยังใช้เทคนิคนี้กันไม่มากและยังไม่เป็นที่แพร่หลาย”

 

ความสวยต้องมา ความปลอดภัยต้องมี

หมอตี้เล่าต่อว่า เทรนด์ความงามตอนนี้คือ ทำแล้วสวยแบบที่ยังเหลือเอกลักษณ์ความสวยในตัวคนคนนั้นอยู่ สวยแบบไม่ซ้ำใคร ทำแล้วดูธรรมชาติ ดูไม่ออกว่าไปทำมาแต่ดูสวยขึ้น แต่ทั้งหมดนี้จะต้องปลอดภัยในระยะยาวหรือพบปัญหาน้อยที่สุด 

 

“แต่พอพูดเรื่องความงาม ทางการแพทย์มันมีหลักการและทฤษฎีที่มาจากงานวิจัย เขานำภาพของคนหน้าตาดีๆ กว่าหมื่นคนทั่วโลก เช่น ดารา เซเลบ มาวัดเพื่อดูองศาที่สวยคือแบบไหน ที่เราเคยได้ยินสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) ในการออกแบบ ทางการแพทย์ก็นำมาเป็นส่วนหนึ่งในการผ่าตัดเช่นกัน เพื่อให้ได้องศาและสัดส่วนโครงหน้าที่เหมาะสมที่สุด 

 

“แต่โครงหน้าคนในแต่ละประเทศก็ต่างกัน แถบยุโรปโครงหน้าเล็ก เบ้าตาลึก จมูกพุ่ง ฝากเอเชียก็แบ่งเป็นเอเชียกลาง เช่น อินเดีย อาหรับ โครงหน้าจะคล้ายแถบยุโรปกว่าโซนเอเชียล่างๆ ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย ไทย กลุ่มนี้โครงหน้าค่อนข้างกลมและแบนกว่า จมูกใหญ่ จมูกหนา ทำให้การออกแบบทรงจมูกให้สวยรับกับใบหน้า และดูเป็นธรรมชาติในแต่ละคนจึงต่างกัน”

 

ความสวยของทุกคนมีเพียงหนึ่งเดียว

จมูกที่สวยอาจไม่ใช่จมูกที่เหมาะกับเรา คือสิ่งที่หมอตี้พยายามจะบอกให้คนที่กำลังตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูกเข้าใจ

 

“การทำศัลยกรรมเหมือนงานศิลปะ มันไม่เหมือนการตัดผม เราทำผมกี่ทรงก็ได้ ผมสั้นผมยาวก็สวยคนละแบบ แต่การทำศัลยกรรมแต่ละคนจะมีจุดพีคของความสวยต่างกัน จึงไม่ควรอิงเทรนด์เป็นหลัก ผมยกตัวอย่างเหมือนการสร้างบ้าน บ้านทรงโมเดิร์นแต่เอาเก้าอี้ทรงไทยไปตั้ง ดูเฉพาะเก้าอี้มันสวย แต่ดูรวมๆ มันไม่เข้ากัน ซึ่งสิ่งนี้แพทย์ที่ผ่าตัดเองก็ต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจ”

 

หมอตี้อธิบายเพิ่มเติมว่า ถ้ามองในเรื่องการทำจมูกจะแบ่งออกเป็น 2 เรื่องคือ ‘รูปทรง’ และ ‘เทคนิคการผ่าตัด’

 

“เรื่องแรก รูปทรงที่คุณเลือกอาจจะผ่าตัดด้วยเทคนิค A หรือ B ก็ได้ แต่ใบหน้าของคุณจะมีเพียงจมูกรูปทรงเดียวที่เหมาะกับคุณที่สุด ในมุมของคนไข้บางทีเห็นจมูกแบบนั้นสวยก็อยากได้ แต่เขาไม่รู้ว่าจมูกทรงนั้นมันอาจไม่เข้ากับหน้าเขา ดังนั้นในการดูเคส ผมจะไม่ได้ดูแค่จมูกเท่านั้น ต้องดูโครงสร้างหน้าทั้งหมดประกอบ หน้าผาก ตา คาง โครงหน้า โหนกแก้ม ทุกอย่างมันเป็นองค์ประกอบในการเลือกรูปทรงจมูกที่ทำออกมาแล้วลงตัวกับคุณที่สุด

 

“และในเรื่องที่สอง เทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและนวัตกรรมการแพทย์ที่พัฒนาไปเรื่อยๆ รวมถึงเคสผ่าตัดในอดีตก็ทำให้เราเรียนรู้ผลลัพธ์ในระยะยาวว่าเกิดปัญหาอะไรได้บ้าง ก็จะนำปัญหาเหล่านั้นมาวิเคราะห์และพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด เพื่อให้ระยะยาวลดโอกาสการเกิดข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด” 

 

 

การเสริมจมูก Open แก้ไขโครงสร้าง ด้วยเทคนิคกระดูกซี่โครง (RIB Rhinoplasty) ทางเลือกที่ช่วยแก้ไขเคสยากๆ และทลายข้อจำกัดที่การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียวทำไม่ได้

สวยด้วยศัลยกรรมยุคแรก หมอคนไหนเหลาซิลิโคนเก่งก็จะกลายเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการศัลยกรรมจมูก แม้ตอนนี้เทคนิคการศัลยกรรมจมูกด้วยซิลิโคนยังไม่เสื่อมความนิยม แต่ก็พบว่าบางเคสไม่สามารถแก้ไขหรือเสริมให้สวยได้ทรงจมูกที่ต้องการได้ด้วยซิลิโคน 

 

“ด้วยประสบการณ์การผ่าตัดมากกว่า 10 ปี เจอเคสมาเยอะ โชคดีได้ผ่าตัดเคสต่างชาติเยอะด้วย ทำให้เห็นว่าการจะผ่าตัดให้จมูกโด่งและเป็นธรรมชาติเป็นอย่างไร รวมถึงเจอเคสที่ยากขึ้นเรื่อยๆ และไม่สามารถแก้ไขด้วยซิลิโคน ผมจึงตัดสินใจไปเรียนรู้เพิ่มเติม ศึกษาดูงานกับอาจาร์ยที่มีชื่อเสียง ในการผ่าตัดแก้ไขโครงสร้างจมูกด้วยกระดูกซี่โครงที่ Stanford University Medical Center สหรัฐอเมริกา และเรียนเพิ่มเติมโดยเน้นการแก้ไขโครงสร้างจมูกของคนเอเชีย และการสร้างปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเองกับอาจาร์ยแพทย์มหาวิทยาลัย Seoul National University  College of Medicine ประเทศเกาหลี และก็นำมาพัฒนาเป็นเทคนิคเฉพาะตัว เพื่อเลียนแบบโครงสร้างให้เป็นธรรมชาติและเหมาะกับจมูกคนไทยมากที่สุด 

 

“ทางการแพทย์เองก็เริ่มพบปัญหาในบางเคส หรือจมูกบางรูปทรงที่แก้ไขด้วยซิลิโคนไม่ได้ เช่น เนื้อจมูกน้อย ถ้าปลายจมูกคนไข้บางลงเรื่อยๆ ก็มีโอกาสที่ซิลิโคนจะทะลุ หรือเคสที่มีปัญหาอักเสบติดเชื้อบ่อยๆ จากการเสริมจมูกโดยการใช้ซิลิโคน ก็ต้องใช้เนื้อเยื่อของคนไข้เอง

 

 

“เคสจมูกคดเยอะๆ ซิลิโคนก็ช่วยไม่ได้ จำเป็นต้องเปิดจมูกเพื่อเข้าไปปรับกระดูกให้ตรงก่อน บางเคสจมูกคด เอียง เบี้ยว ตั้งแต่เกิด อาจจะมีผนังกั้นจมูกคดอยู่แล้ว ทำให้เป็นไซนัสอักเสบ ก็ต้องรักษาผ่าตัดควบคู่ไปกับการเสริมจมูก มีหลายเคสที่มีปัญหาการคัดจมูก หายใจไม่ค่อยโล่งเนื่องจากผนังกั้นจมูกคดอยู่ด้านใน และรูปทรงจมูกอาจไม่สวยด้วย เวลาเราแก้ไขก็แก้ไปพร้อมกัน ทั้งช่วยให้หายใจได้โล่งขึ้น ทรงจมูกก็สวยขึ้นด้วย จริงๆ มีการรักษาโรคเหล่านี้ด้วยเทคนิคนี้มามานานแล้ว เมื่อก่อนถ้าผนังกั้นจมูกคดก็ตัดทิ้ง แต่ตอนนี้เราสามารถตัดแล้วมาเย็บต่อในเคสผ่าตัดเสริมความงามได้ 

 

“เคสปากแหว่งเพดานโหว่ ถือว่าเป็น ‘เคสยาก’ เพราะการเสริมจมูกในรูปแบบนี้ คือ “การรักษา” โดยขั้นตอนการแก้ไขจมูกในลักษณะนี้ไม่ง่ายเลย จำเป็นต้องใช้กระดูกเยอะ เพื่อนำมาแก้ไขโครงสร้าง สิ่งสำคัญจุดหนึ่งคือความคาดหวังของคนไข้ คนไข้บางรายผ่าตัดไปแล้ว สามารถช่วยได้ระดับหนึ่งแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งเคสเหล่านี้ไม่ง่าย ต้องอาศัยความรู้ขั้นสูงและประสบการณ์ผ่าตัดอย่างลึกซึ้งมากกว่า”

 

“การเสริมจมูกแบบ Open ด้วยวิธีการแก้ไขโครงสร้างในต่างประเทศทำกันมานานและเป็นที่แพร่หลาย มีงานวิจัยรองรับ และเชื่อว่าจะแพร่หลายในอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทย ผมเองใช้เทคนิคนี้ผ่าตัดเคสคนไข้มากว่า 10 ปี ตั้งแต่ยุคที่เทคนิคนี้ยังไม่แพร่หลาย แต่ด้วยผลลัพธ์ที่เคยทำไปมันค่อนข้างว้าวกว่า และเห็นชัดเจนว่าช่วยแก้ไขเคสยากๆ ได้ รวมถึงเคสที่ซิลิโคนทำไม่ได้ ทำให้แพทย์หลายคนเริ่มเปลี่ยนมาใช้เทคนิคนี้ แพทย์รุ่นน้องหลายคนก็สนใจมาทำงานร่วมกัน ทำให้ตอนนี้ที่คลินิกมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเทคนิคนี้หลายคนมาร่วมทีม ทีมแพทย์ทุกคนผมคัดเองและสอนเทคนิคต่างๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน คนไข้จึงมั่นใจได้ว่าทุกเคสที่ผ่าตัดกับแพทย์ของ S45 Clinic จะได้มาตรฐานเดียวกัน

 

 

เลือกเทคนิคการผ่าตัดที่ถูกต้อง จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี

หมอตี้ ฝากถึงคนที่กำลังศึกษาหาข้อมูลศัลยกรรมจมูกหรือศัลยกรรมจุดอื่นๆ ก็ดี ต้องรู้ก่อนว่าปัญหาที่แท้จริงของเราอยู่ตรงไหน และผลลัพธ์ที่อยากได้คืออะไร 

“ไม่ใช่แค่อยากสวย แต่ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าอยากสวยแบบไหน และศึกษาด้วยว่าตอนนี้มีเทคนิคไหนบ้างที่ปลอดภัย ข้อดี ข้อเสียของแต่ละเทคนิคคืออะไร แล้วค่อยเลือกว่าจะทำด้วยเทคนิคไหน ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ ควรให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย ส่วนตัวผมจะเลือกใช้เทคนิคไหนก็ต้องดูเคสเป็นหลัก ตรวจคนไข้ก่อนว่ามีข้อจำกัดอะไรหรือไม่ ถึงจะเลือกใช้เทคนิคที่ถูกต้อง เพราะที่ S45 Clinic เราสามารถทำได้ทุกเทคนิค เทคนิคเสริมจมูกที่คลินิกมีทั้งหมด 6 เทคนิค ตั้งแต่ใส่ซิลิโคนจนถึงเทคนิคที่ยากที่สุด คือการใช้กระดูกซี่โครง ดังนั้นควรเข้ามาให้แพทย์ประเมินก่อนหรือรับคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ เพราะเทคนิคการผ่าตัดที่ถูกต้อง นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”

 

 

หมอตี้ยังเล่าถึงเป้าหมายในอนาคตที่จะขยับขยายจากคลินิกไปสู่โรงพยาบาลศัลยกรรมครบวงจร “ปัจจุบัน s45 Clinic เรามีบริการศัลยกรรมความงามครบวงจร ตั้งแต่เสริมจมูก เสริมหน้าผาก ทำตาสองชั้น ยกคิ้ว ทำคาง ทำปากกระจับ ดึงหน้า ดึงคอ เสริมหน้าอก ดูดไขมัน และตัดหนังหน้าท้อง ทำให้เราเห็นความต้องการที่หลากหลายของคนไข้มากขึ้น เราพบว่าคนไข้บางคนก็อยากทำหลายอย่างพร้อมกันทีเดียว พักฟื้นทีเดียว หายปุ๊บสวยเลย ประกอบกับคนไข้ที่มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และรอคิวผ่าตัดเป็นจำนวนมาก

 

ตอนนี้จึงอยู่ในขั้นตอนการวางแผนขยายธุรกิจ คาดว่าจะได้เห็นโรงพยาบาลศัลยกรรมครบวงจรที่รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไว้ที่เดียวกันเร็วๆ นี้

 

“ส่วนคอนเซปต์โรงพยาบาลจะเป็นแบบไหน เราคงเน้นไปที่ตัวคนไข้เป็นหลัก อย่างเรื่องสภาพแวดล้อมภายในโรงพยาบาลมีผลมากต่อคนไข้ แม้จะเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมแต่ก็เครียด กลัว กังวล เราก็เลยนำจุดนี้ไปปรึกษาสถาปนิกว่าจะมีวิธีไหนที่สามารถลดความกังวลของคนไข้ได้ ก็อาจได้เห็นการออกแบบภายใน การใช้สี หรือการตกแต่งที่ช่วยให้เขาผ่อนคลายได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้คนไข้มาใช้บริการแล้วรู้สึกสบายใจ และรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่มาใช้บริการ” 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 

Facebook: https://m.facebook.com/S45CLINIC/

Line official: @s45clinic

โทร: 092-3184500