วานนี้ (22 กรกฏาคม) เป็นวันแรกของศึกราชดำเนินเวิลด์ซีรีส์ หรือ RWS การแข่งขันมวยไทยที่ใช้กฎกติกาแข่งขันแบบใหม่ เพื่อหาแชมป์ทั้งหมด 5 รุ่น ประกอบไปด้วย 126 ปอนด์, 135 ปอนด์, 147 ปอนด์, 154 ปอนด์ และมวยหญิงรุ่น 112 ปอนด์ รุ่นละ 8 คน
โดยรูปแบบการแข่งขัน RWS ซึ่งเป็นรายการที่ฝ่ายจัดตั้งเป้ายกระดับการแข่งขันมวยไทยให้มีมาตรฐานสากล และเข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัยทั่วโลก
รูปแบบการแข่งขันรอบแรกจะแบ่งเป็น สาย A และ สาย B ฝั่งละ 4 คน ที่จะพบกันหมดเพื่อนำเอาอันดับ 1-2 ของทั้ง 2 สายมาพบกันในรอบ 4 คนสุดท้าย เพื่อหาแชมป์ในแต่ละรุ่น ที่จะได้ทั้งเข็มขัดแชมป์ และเงินรางวัลอีก 1 ล้านบาท
กติกาแข่งขันจะใช้การนับแต้ม ชนะได้ 3 แต้ม เสมอได้ 1 แต้ม ภายใต้มวยไทยแบบ 3 ยก โดยจะมีคะแนนพิเศษให้สำหรับผู้ที่ชนะน็อกในยกแรกได้เพิ่มอีก 3 แต้ม น็อกยก 2 ได้ 2 แต้ม และชนะน็อกยก 3 ได้ 1 แต้ม
การแข่งขันจะเป็นแบบชก 3 ยก ยกละ 3 นาที พักระหว่างยก 2 นาที ส่วนนัดชิงชนะเลิศจะแข่งขันกัน 5 ยก นอกจากนี้จะปรับรูปแบบการให้คะแนนที่จากเดิมจะเป็น 10-10 จะเปลี่ยนเป็นทุกยกต้องมีคะแนน 10-9 โดยยึดหลักว่าใครออกอาวุธได้มีประสิทธิภาพกว่าจะเป็นผู้ชนะในแต่ละยก ซึ่งทุกยกจะมีการเปิดเผยคะแนนให้เห็นแบบทันทีเมื่อครบยก เพื่อความโปร่งใส นอกจากนี้ยังได้ย่อขนาดเวทีให้ลดลงเหลือ 6×6 เมตรอีกด้วย
สำหรับการแข่งขันราชดำเนินเวิลด์ซีรีส์ นับเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของเวทีมวยราชดำเนิน ภายใต้การบริหารของบริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด หรือ GSV ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงเวทีราชดำเนิน เวมีมวยไทยแห่งแรกของโลกที่ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1945 ให้เข้าสู่ยุคใหม่ของกีฬามวยไทย และยกระดับมวยไทยไปสู่กีฬาสากล
นอกจากนี้ RWS จะจัดมวยหญิงขึ้นชกเป็นครั้งแรกในเวทีราชดำเนิน ชิงแชมป์โลกในรุ่น 112 ปอนด์ โดยมีการแบ่งสาย A และ B มีผู้เข้าแข่งขัน 8 คน แบ่งเป็นนักชกไทย 4 คน นักชกต่างชาติ 4 คน ที่จะขึ้นชกไฟต์แรกที่เวทีมวยราชดำเนินในวันที่ 5 สิงหาคมนี้
