×

สหรัฐฯ จับมือยุโรปขับทูตรัสเซียกว่า 100 ชีวิต จากปมโจมตีอดีตสายลับในอังกฤษ

27.03.2018
  • LOADING...

รัสเซียเผชิญมาตรการลงโทษทางการทูตครั้งประวัติศาสตร์ หลังสหรัฐอเมริกาผนึกกำลังกับ 16 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) และแคนาดา ร่วมขับไล่นักการทูตรัสเซียกว่า 100 ชีวิตกลับประเทศ สืบเนื่องจากกรณีที่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารทำลายประสาทลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวในประเทศอังกฤษเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเวลานี้มีทั้งหมด 23 ประเทศแล้วที่ดำเนินการหรือเตรียมไล่ทูตรัสเซียออกนอกประเทศ

 

 

เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ขับเจ้าหน้าที่ในสถานทูตรัสเซีย 60 คนที่ถูกระบุเป็นสายลับออกนอกประเทศ แบ่งเป็นคณะทูตในกรุงวอชิงตัน 48 คน และผู้แทนรัสเซียในสหประชาชาติ 12 คน โดยบุคคลเหล่านี้จะถูกประกาศเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ หรือ Persona non grata นอกจากนี้ทรัมป์ยังสั่งปิดสถานกงสุลในเมืองซีแอตเทิลด้วย

 

ก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักรได้กำหนดเส้นตายให้รัสเซียชี้แจงกรณีใช้สาร Nerve Agent โจมตีเซอร์เกย์ และยูเลีย สกรีปอล ในเมืองซาลิสบิวรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา หลังตรวจพบร่องรอยของอาวุธเคมีในกลุ่ม Novichok ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในกองทัพรัสเซียและพัฒนาขึ้นในสมัยสหภาพโซเวียต ส่งผลให้อังกฤษลงโทษรัสเซียด้วยการไล่ทูต 23 คนออกจากประเทศ เพราะถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศที่ห้ามใช้อาวุธเคมีและละเมิดอธิปไตยของอังกฤษ ถึงแม้รัฐบาลรัสเซียจะยืนกรานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ตาม

 

 

มีประเทศไหนบ้างที่เป็นแนวร่วมกับสหราชอาณาจักร

นอกจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรแล้ว ล่าสุดมีกระทรวงการต่างประเทศของแคนาดา, ยูเครน, นอร์เวย์, แอลเบเนีย, ออสเตรเลีย และ 16 ชาติสมาชิก EU ที่ประกาศเตรียมจะขับนักการทูตของรัสเซียกลับประเทศ ประกอบด้วย

 

  • สหราชอาณาจักร – จำนวน 23 คน
  • สหรัฐอเมริกา – 60 คน
  • โครเอเชีย – 1 คน
  • สาธารณรัฐเช็ก – 3 คน
  • เดนมาร์ก – 2 คน
  • เอสโตเนีย – 1 คน
  • ฟินแลนด์ – 1 คน
  • ฝรั่งเศส – 4 คน
  • เยอรมนี – 4 คน
  • ฮังการี – 1 คน
  • อิตาลี – 2 คน
  • ลัตเวีย – 1 คน
  • ลิทัวเนีย – 3 คน
  • เนเธอร์แลนด์ – 2 คน
  • โปแลนด์ – 4 คน
  • โรมาเนีย – 1 คน
  • สเปน – 2 คน
  • สวีเดน – 1 คน
  • แอลเบเนีย – 2 คน
  • นอร์เวย์ – 1 คน
  • แคนาดา – 4 คน
  • ออสเตรเลีย – 2 คน
  • ยูเครน – 13 คน

 

 

ด้านนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า “รัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีพฤติกรรมรุกล้ำค่านิยมและผลประโยชน์ภายในทวีปของเราและไกลกว่านั้น และในฐานะที่สหราชอาณาจักรเป็นประเทศประชาธิปไตยในยุโรป เราจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับ EU และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เพื่อกำราบภัยคุกคามเหล่านี้ไปด้วยกัน”

 

ขณะที่ บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษได้กล่าวยกย่องพันธมิตรของอังกฤษ ที่แสดงพลังสามัคคีร่วมกันตอบโต้รัสเซียในครั้งนี้

 

ทั้งนี้รัสเซียกำลังเผชิญวิกฤตทางการทูตครั้งหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ผนวกดินแดนไครเมียจากยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียเมื่อปี 2014 อย่างไรก็ตาม มอสโกระบุว่า พวกเขาไม่หวั่นเกรงต่อแรงกดดันจากนานาชาติ และประกาศพร้อมตอบโต้พฤติการณ์ยั่วยุของสหรัฐฯ และยุโรปในครั้งนี้อย่างแน่นอน

 

Photo: AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising