ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ออกคำสั่งให้พลเรือนทุกคนที่ยังอาศัยอยู่ในหลายพื้นที่ของแคว้นโดเนตสก์และยังอยู่ในความควบคุมของยูเครนให้เร่งอพยพหนี หวั่นตกเป็นเป้าการยกระดับโจมตีของรัสเซีย
ในแถลงการณ์จากกรุงเคียฟช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา (30 กรกฎาคม) เซเลนสกีเตือนว่า การสู้รบระหว่างทหารยูเครนและรัสเซียอาจดุเดือดเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคว้นโดเนตสก์อยู่ในการควบคุมของทหารรัสเซีย แต่การรุกคืบนั้นเริ่มช้าลง
“ยิ่งประชาชนออกจากแคว้นโดเนตสก์มากเท่าใด ก็ยิ่งเหลือคนน้อยลงให้ทหารรัสเซียได้มีเวลาสังหาร” ผู้นำยูเครนกล่าว
“เราจะใช้โอกาสทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อช่วยชีวิตผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเพื่อจำกัดความโหดร้ายของรัสเซียให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
คำเตือนของเซเลนสกีมีขึ้นในช่วงที่รัสเซียได้เชิญเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (UN) และองค์กรกาชาดให้เข้าสืบสวนกรณีการเสียชีวิตของเชลยศึกชาวยูเครน 50 คนในเรือนจำที่โอเลนิฟกา แคว้นโดเนตสก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในการควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียหนุนหลัง โดยรัสเซียยืนกรานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และอ้างว่าเป็นฝีมือของยูเครน
อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นที่เรือนจำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 กรกฎาคม) โดยภาพฟุตเทจจากวิดีโอของรัสเซียเผยให้เห็นเตียงที่พังยับเยินและศพที่ไหม้เกรียม ซึ่งรัสเซียระบุว่าเกิดจากการโจมตีของฝ่ายยูเครนที่ใช้ระบบปืนใหญ่ HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โดยรัสเซียยังเผยรายชื่อเชลยศึกที่เสียชีวิตจากการโจมตีทั้ง 50 คนด้วย
ภาพ: Igor Golovniov / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
