เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยระหว่างแถลงต่อสื่อมวลชนแบบไม่ระบุชื่อ ว่ากองทัพรัสเซียได้เพิ่มจำนวนอากาศยานกองทัพในการโจมตีทางอากาศในยูเครนตลอด 2 วันที่ผ่านมา โดยตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการส่งทั้งเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าโจมตีเป้าหมายในยูเครนมากกว่า 300 เที่ยว
การเพิ่มจำนวนอากาศยานกองทัพดังกล่าว ถือเป็นการขยายสงครามทางอากาศและเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนถึงจำนวนฝูงบินรบที่มากกว่าของกองทัพรัสเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่เพนตากอนชี้ว่า รัสเซียยังไม่สามารถชิงความได้เปรียบหรือกุมอำนาจทางอากาศเหนือน่านฟ้าของยูเครนได้
โดยอากาศยานของกองทัพรัสเซียที่เพิ่มขึ้นมานั้น ส่วนใหญ่ถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีจากอากาศสู่พื้นดิน ซึ่งเน้นการโจมตีเป้าหมายที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ และไม่ได้ใช้เวลานานในการปฏิบัติภารกิจเหนือน่านฟ้ายูเครน และกว่า 60% คาดว่าเป็นอากาศยานชนิดปีกนก (Fixed Wing) หรือปีกหมุน (Rotary Wing)
ทางด้านยูเครนก็มีการเพิ่มเที่ยวบินทางทหารของตนเองเช่นกัน แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนที่แน่ชัด ซึ่งเพนตากอนชี้ว่ากองทัพยูเครนยังคงมีการใช้ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศทั้งแบบพิสัยใกล้และไกล และใช้โดรนในการจับเป้าหมายเครื่องบินของกองทัพรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน ปฏิเสธที่จะระบุว่ามีการส่งระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ S-300 หรือ S-400 ที่ผลิตในรัสเซียให้แก่ยูเครนหรือไม่
นอกจากนี้พบว่ากองทัพรัสเซียยังได้เพิ่มความเคลื่อนไหวของกองทัพเรือในทะเลดำตอนเหนือ แต่ยังไม่พบสัญญาณบ่งชี้ว่ามีการเปิดฉากโจมตีแบบสะเทินน้ำสะเทินบกในเมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญติดทะเลดำ ทางตอนใต้ของยูเครน
ภาพ ฝูงบินรบรัสเซีย: Photo by Host photo agency / RIA Novosti via Getty Images
อ้างอิง:
